ผึ้งหลวงอาละวาดไล่ต่อยคนดะสุดท้ายกู้ภัยเผาเรียบ

อ่างทอง-ชาวบ้านสุดทนถูกผึ่งหลวงขนาดใหญ่ทำลังบนต้นไม้สูงยกฝูงไล่ต่อยเจ็บไปหลายรายสุดท้ายแจ้งกู้ภัยมาเผาเรียบ

เมื่อเวลา 17.30 น. ของวันนี้ (16 พ.ค. 61) เจ้าหน้าที่สมาคมนักวิทยุสมัครเล่นกู้ภัยจังหวัดอ่างทอง รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ 191 อ่างทองว่ามีเหตุผึ้งไล่ต่อยชาวบ้านได้รับความเดือดร้อน โดยผึ้งดังกล่าวได้ทำรังอยู่บนต้นไม้ริมถนนในหมู่บ้านหมู่ที่ 5 ต.หัวไผ่ อ.เมืองอ่างทอง จ.อ่างทอง หลังรับแจ้งจึงรุดไปตรวจสอบโดยเมื่อไปถึงได้พบกับนายศิริ  อานนทภัณฑ์ อายุ 86 ปี อยู่บ้านเลขที่ 4 หมู่ที่ 5 ต.หัวไผ่ อ.เมืองอ่างทอง จ.อ่างทอง โดยนายศิริได้พาผู้สื่อข่าวไปดูรังผึ้ง ก็พบว่าผึ้งดังกล่าวได้ทำรังเป็นรังขนาดใหญ่ความกว้างประมาณ 1 เมตร โดยทำรังอยู่บนต้นมะขาม สูงจากพื้นดินประมาณ 5 เมตร

จากการสอบถามนายศิริ กล่าวว่า บ้านของตนนั้นอยู่ใกล้กับต้นมะขามที่ผึ้งทำรังอยู่ ก่อนหน้านี้ไม่เคยรู้ว่าผึ้งได้ทำรังอยู่บนต้นมะขาม จนกระทั่งเมื่อวันก่อน ตนตื่นนอนมาได้เดินไปตักน้ำที่หน้าบ้านเพื่อจะไปรดต้นไม้ ซึ่งอยู่ใกล้กับต้นมะขามที่ผึ้งทำรังอยู่ ระหว่างที่รดน้ำต้นไม้อยู่นั้น ก็รู้สึกเหมือนมีอะไรมาต่อยที่ต้นคอ จึงได้หันมามองและใช้มือปัดก็พบว่าเป็นผึ้ง ตนจึงได้แหงนหน้าขึ้นไปดู ก็พบว่าผึ้งนั้นทำรังอยู่บนต้นมะขาม โดยรังผึ้งมีขนาดใหญ่มาก และจังหวะที่ตนแหงนหน้ามองอยู่นั้นจู่ ๆ ผึ้งทั้งรังก็ยกฝูงบินตรงลงมาหาตน ตอนนั้นตนตกใจมากจึงได้วิ่งหนีเข้าไปในบ้านโดยคว้าเอาผ้ามาห่อตัวเองเอาไว้เพื่อป้องกันไม่ให้ผึ้งต่อย แล้ววิ่งหนีออกทางหลังบ้านไป

นายศิริ กล่าวต่อว่า ไม่เพียงแต่ตนที่โดนผึ้งต่อยเท่านั้น ยังมีชาวบ้านอีกหลายคนที่โดนผึ้งต่อยเช่นตน แต่โชคดีที่ไม่แพ้พิษผึ้ง จึงไม่เป็นอะไรมาก

เช่นเดียวกับนายเอกลักษณ์  ชาตรี อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 23/4 หมู่ที่ 5 ต.หัวไผ่ อ.เมืองอ่างทอง จ.อ่างทอง ชาวบ้านในละแวกอีกคนหนึ่งซึ่งถูกผึ้งต่อย โดยนายเอกลักษณ์ได้เดินมาแล้วโชว์แผ่นหลังให้ผู้สื่อข่าวดูว่าเคยถูกผึ้งรังนี้ต่อย มีร่องรอยให้เห็นหลายแผล โดยก่อนหน้านี้ไม่มีชาวบ้านรู้เลยว่ามีผึ้งทำรังอยู่ และก็ไม่มีใครเคยถูกผึ้งต่อย จนกระทั่งเมื่อไม่กี่วันมานี้ ได้มีรถบรรทุกขนดินได้วิ่งเข้าออกบริเวณถนนเส้นนี้ซึ่งผึ้งทำรังอยู่บนต้นมะขามริมถนน คาดว่ารถบรรทุกที่ขนดินคงวิ่งผ่านแล้วอาจไปโดนรังผึ้ง หรือกระทบกับรังผึ้งบ้าง จนทำให้ผึ้งเกิดตกใจและทำให้มีอาการดุร้าย มีคนผ่านไม่ได้จะบินลงมาต่อย จนพวกตนทนไม่ไหวต้องแจ้งให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยมาทำการช่วยเหลือ โดยก่อนหน้านี้ก็มีชาวบ้านที่อายุมากแล้วถูกผึ้งต่อยได้รับบาดเจ็บจนต้องประสานไปทางรถกู้ชีพโรงพยาบาลอ่างทองให้มารับตัวไปรักษา

ต่อมาเจ้าหน้าที่สมาคมนักวิทยุสมัครแล่นกู้ภัยจังหวัดอ่างทองได้จัดเตรียมวัสดุอุปกรณ์ในการเผารังผึ้งมา ซึ่งผึ้งนั้นมีขนาดใหญ่ ตามความเชื่อของชาวบ้านก็ต้องมีการขอขมาก่อนเผารังผึ้ง ซึ่งเจ้าหน้าที่กู้ภัยก็จุดธูปขอขมา จากนั้นได้นำผ้าขนหนูพันกับไม้ไผ่ยาวประมาณ  5 เมตร และผูกด้วยลวดนำน้ำมันเบนซินมาเทลงบนผ้าขนหนูให้ชุ่มและจุดไปจนลุก แล้วยื่นข้นไปเพื่อเผารังผึ้ง ใช้เวลาอยู่นานพอสมควรจึงเผารังผึ้งสำเร็จ โดยการเผารังผึ้งครั้งนี้ ก็เพื่อความปลอดภัยของชาวบ้านที่สัญจรผ่านไปมา เพราะผึ้งรังดังกล่าวได้ต่อยทำร้ายชาวบ้านมาแล้วหลายราย