X

สกลนครเดือด”อนาคตใหม่”ทุ่มยึดเก้าอี้นายก อบจ.

รับประกันความดุเดือดการเลือกตั้งท้องถิ่น นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด ( อบจ.) ที่สนามสกลนคร เพียงแค่การเริ่มจัดวางป้อมค่ายก็เห็นสภาพว่าเมืองนี้กลายเป็น “ตำบลกระสุนตก” ไปแล้ว

เมืองนี้มี “ชัยมงคล ไชยรบ “ นายก อบจ.คนปัจจุบันที่เป็นแกนนำระดมบรรดาผู้นำการเมืองท้องถิ่นในภาคอีสานสนับสนุนพรรคพลังประชารัฐในการเลือกตั้ง ส.ส.ครั้งที่ผ่านมา

เมืองนี้เป็นเมืองของวีรบุรุษนักสู้เพื่อประชาธิปไตย “เตียง ศิริขันธ์” ขุนพลภูพาน และ”ครูครอง จันดาวงศ์” วีรบุรุษสว่างแดนดิน ผู้กล่าวถ้อยคำอมตะ “เผด็จการจงพินาศ ประชาธิปไตยจงเจริญ” ที่หลักประหาร ด้วยม.17  สมัยจอมพลสฤษดิ์ ธนรัชต์ เมื่อปี 2504

และเมืองนี้เมื่อรวมคะแนนเลือกตั้ง ส.ส.ที่ผ่านมาทั้งจังหวัดมีผู้เลือกพรรคอนาคตใหม่กว่า 5 หมื่นคน

3 เหตุผลที่ “อนาคตใหม่” ที่แม้จะไม่มี ส.ส.ในพื้นที่สกลนคร แต่ได้ปักธงไปแล้วว่าต้องเผด็จศึกยึดการเมืองท้องถิ่นที่สนามเลือกตั้ง นายก อบจ.สกลนครให้ได้

หากอนาคตใหม่ทำสำเร็จนั่นเท่ากับว่าได้ 3 ต่อ ทั้งข่มพลังประชารัฐในพื้นที่หัวหาดการเมืองท้องถิ่น การปลุกวิญญาณกบถเชิดชูประชาธิปไตยที่เป็นแบรนด์ของอนาคตใหม่ และการคุมการเมืองท้องถิ่นเพื่อวางฐานการเมืองระดับชาติ ที่เพื่อไทยทำสำเร็จและกินยาวในสนามนี้มาแล้ว เพียงแต่ไม่สามารถกุมการเมืองท้องถิ่นได้

ปิดรับสมัครผู้สนใจสมัครนายกอบจ.สกลนครในนามพรรคอนาคตใหม่เที่ยงคืนวันที่ 15 สิงหาคมที่ผ่านมา ปรากฏว่ามีผู้สมัครลงแข่งนายกอบจ.สกลนครถึง 3 คน

1.วีระศักดิ์ พรหมภักดี

2.ณรงค์เดช อุฬารกูล

3.ขจรศักดิ์ เบญชัย

ทั้ง 3 คน ยังถือว่าเป็นคนรุ่นหนุ่ม อายุไม่เกิน 44 ปี จะถูกตัดตัวประมาณเดือนกันยายนเพื่อเป็นผู้สมัครตัวจริง จากคณะกรรมการ 15 คน

3 แคนดิเดทว่าที่ผู้สมัครนายกอบจ.สกลนคร ตอนนี้วิ่งหาเสียง ลอบบี้เพื่อเป็นผู้สมัครตัวจริงในนามพรรคอนาคตใหม่กันฝุ่นตลบ

คนที่ถูกเล็งมากกว่าใครตอนนี้เห็นจะเป็น ณรงค์เดชร อุฬารกูล ลูกชาย เฉลิมชัย อุฬารกูล อดีตส.ส.เพื่อไทยหลายสมัย ที่ล่าสุดลงสมัครพรรคเพื่อชาติแพ้ขาดลอยได้มากว่า 4 พันเสียง แต่ข้อเด่นคือ”กระสุน”ที่ดูอู้ฟู่แม้จะเคยลงสมัครส.อบจ.แต่สอบตก แต่อย่างน้อยก็ดูแลตัวเองได้ในฐานะเจ้าของตลาดใหม่ และมี ส.ส.อนาคตใหม่แวะเวียนมีติวเข้มอยู่เรื่อย ๆ

ขจรศักดิ์ เบญชัย ทนายความอดีตส.อบจ.หัวหน้ากลุ่ม”มดส้ม”อนาคตใหม่จังหวัดสกลนคร คู่ปรับ “ชัยมงคล ไชยรบ”ในฐานะส.อบจ.ฝ่ายค้านจนชัยมงคลมีนัดศาลคิวแน่น คนนี้อาศัยลูกขยันลงพื้นที่ก็ฝันลึก ๆ ว่าจะได้เป็นตัวจริง

วีระศักดิ์ พรหมภักดี อดีตนายกอบจ.สกลนคร ตอนอายุ 30 ปี น้องชายของอดีตส.ส.สาคร พรหมภักดี ดูตามฐานเสียงถือว่ามีต้นทุนที่ได้เปรียบคนอื่น เพราะเคยเป็นนายกอบจ.ที่ชนะการเลือกตั้งด้วยคะแนนเกิน 1.4 แสน

แต่อนาคตใหม่วางหมากสนามนี้กำหนดเป้าคะแนนชนะที่ 1.4-1.5 แสน มั่นใจในทุนเดิมคะแนนเลือกตั้ง ส.ส. มีตุน 5 หมื่น หาเพิ่มประมาณ 1 แสนก็ลอยลำ โดยใช้ไม้เด็ด “5 ทหารเสือ”หัวคะแนนประจำหมู่บ้านที่คอยรับสาร ส่งสาร กระหน่ำทางโซเชียลในบทถนัดที่เริ่มจัดวางเทรนด์และลงมือไปเรียบร้อย

การขยับแบบใหญ่ของอนาคตใหม่ที่เป้าตรง ๆ คือ โค่นชัยมงคล ไชยรบและลูบหน้าพลังประชารัฐ ที่จะส่งผลโดมิโน่ถึงนครพนม และมุกดาหาร เพราะสกลนคร นครพนม มุกดาหาร เป็นเครือข่ายการเมืองท้องถิ่นที่ประกาศตัวชัดสนับสนุนพลังประชารัฐ

ชัยมงคล ในฐานพี่ใหญ่ 3 จังหวัดจึงอยู่ในฐานะที่ “แพ้ไม่ได้” ที่มากกว่านั้นคือศักดิ์ศรีพลังประชารัฐก็แพ้ไม่ได้เช่นกัน

ฝ่ายเพื่อไทยที่ยังเหนียวกวาด ส.ส.6 ที่นั่งทั้งจังหวัดเมื่อเห็นเกมนี้ยังไม่ชัดเจนว่าจะเต็มที่กับ “ชูพงษ์ คำจวง” อดีตผู้สมัครนายกอบจ.เมื่อ 7 ปีก่อนที่ได้คะแนนแสนกว่า แต่แพ้กับชัยมงคล ลงแข่งเป็นศึก 3 ก๊กหรือไม่

 แต่ที่แน่ ๆ สนามเลือกตั้งนายกอบจ.สกลนครเที่ยวนี้จะเป็นศึกที่สู้กันดุเดือดระหว่างพลังประชารัฐกับอนาคตใหม่ยิ่งหากฝ่ายเพื่อไทยแทคทีมกับอนาคตใหม่โค่นชัยมงคลเพื่อกระทบพลังประชารัฐ

สูตรนี้รับรองได้ เดือด ยิ่งกว่าเดือด

แต่การเมืองท้องถิ่น ถึงจะดูว่าสู้กันเอาเป็นเอาตายบางทีบทจะจบก็ไม่ต่างกับละครน้ำเน่าอย่าง อย่างกรณีล่าสุดการเปิดประชุมสภาอบจ.สกลนคร เพื่อพิจารณาร่างข้อบัญญัติงบประมาณฯ ปี 2563 เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมาเกิดเหตุการณ์ลองของนายกอบจ.จนสภาล่ม

ส.อบจ.36 คน ลากออกไปสมัครส.ส.เหลือ 25 คน มาประชุมเพียง 11 คน ขาดประชุม 14 คน แต่สุดท้ายก็เกิดปาฎิหาริย์ เปิดประชุมใหม่ผ่านสะดวก

สนามเลือกตั้งที่กว้างทั้งจังหวัดใครเคลียร์กลุ่มต่าง ๆ ลงตัวได้ กระแสดี กระสุนไม่พร่อง ย่อมเป็นต่อ.

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน

นิกร จันพรม

นิกร จันพรม

ทำงานข่าวต่อเนื่องหลากหลายทั้งสายข่าวอาชญากรรม สาธารณสุข การเมือง ภูมิภาค กว่า20ปี ผ่านสื่อยุคเก่าทั้งหนังสือพิมพ์ โทรทัศน์ สำนักข่าว ก่อนเปลี่ยนผ่านสู่สื่อออนไลน์