ทำเอารัฐบาลคสช.เป๋ไปหลายวันเหมือนกันกับข่าว “แจกโฉนดคืนสร้างภาพ” กับนโยบายจัดการหนี้นอกระบบที่สุดท้ายก็กู้ภาพคืนจากเคสลูกหนี้ชาวชัยภูมิที่เรื่องร้องเรียนกับข้อเท็จจริงกลายเป็นหนังคนละม้วน
“แสงจันทร์ บุตะเขียว” ลูกหนี้นายทุนเงินกู้ที่เข้าร่วมโครงการมอบคืนโฉนดที่ดินและทรัพย์สิน คืนความสุขให้ประชาชน ลดความเหลื่อมล้ำของสังคม ที่ไปร้องเรียนกับพล.อ.ประวิตร วงศ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ที่เดินทางมาเป็นประธานในพิธีมอบโฉนดคืนฯ ที่ จ.ลพบุรี เมื่อวันที่ 27 มิ.ย.ว่า ที่เธอเคยร่วมพิธีรับมอบโฉนดคืนจากนายทุนเงินกู้ ที่จัดขึ้นที่ จ.นครราชสีมา แต่พอได้โฉนดคืน กลับถูกตำรวจนำกลับไปเก็บไว้ก่อนที่จะเดินทางถึงบ้านที่ชัยภูมิ
ก่อนหน้าที่แสงจันทร์ และกลุ่มลูกหนี้จำนวน 30 ราย 4 จังหวัด ทั้งจากชัยภูมิ ขอนแก่น นครราชสีมา และ จ.เลย ที่อ้างว่าเข้าโครงการรับโฉนดคืนแต่สุดท้ายกลายเป็น “จัดฉาก” พวกเขาเข้าโครงการเจรจาประนอมหนี้กับนายทุนเงินกู้ และทำตามเงื่อนไขสัญญา มีการรับมอบโฉนดที่เอาไปค้ำประกันเงินกู้คืน แต่สุดท้ายก็ไม่ได้
ไปสอดรับกับการโพสต์เฟชบุ้คของ “นิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ” อดีตส.ส.พัทลุง เมื่อ 21 มิ.ย.ที่บอกว่าโครงการปราบหนี้นอกระบบคืนโฉนดให้ประชาชนเป็นโครงการ ”แหกตา” เป็นขบวนการจัดฉากให้นาย ตำรวจที่ทำเรื่องโตเอา โตเอาจนท้องแตก และ “ศรีสุวรรณ จรรยา“ก็นำประเด็นนี้ไปร้องต่อผู้ตรวจการแผ่นดินให้ตรวจสอบเมื่อ 28 มิ.ย.
แต่การ “จัดฉาก” อย่างที่ นิพิฏฐ์ หมายถึง ลึก ๆ มันอาจหมายถึงสิ่งที่ซุบซิบวงใน เรื่องสาเหตุการปลด ย้ายนายตำรวจระดับ “บิ๊ก”ที่โตเอา โตเอา จนพุงแตก อาจไม่ใช่ประเด็นเดียวกันกับลูกหนี้ 30 คน ที่ไปร้องต่อ พล.อ.ประวิตร เมื่อ 27 มิ.ย.ว่าถูกจัดฉากให้ไปรับโฉนดคืน
โชคดีที่เป็นเคสการร้องเรียนของแสงจันทร์ บุตะเขียว จากชัยภูมิ ทั้งฝ่ายปกครอง ตำรวจ อัยการ ที่ชัยภูมิทำงานแบบมีข้อมูล พอมีร้องเรียนปั๊บ ทั้งผู้ว่าฯ ณรงค์ วุ่นซิ้ว ผู้บังคับการฯพล.ต.ต.สมพจน์ ขอมปรางค์ แถลงโต้พร้อมแสดงหลักฐาน ที่มาที่ไปแบบชัด ๆ จนผู้ร้องเรียนหายตัวเป็นสัปดาห์
น่าเห็นใจ ผู้การฯ สมพจน์ พอเกิดเรื่องใหญ่ต้องทำงานแบบวิ่งสู้ฟัด เพื่อให้จบแบบเคลียร์ ภรรยาท้องแก่หมอนัดคลอด 10 มิ.ย.แต่น้ำเดินเร็วกว่าปกติ สามีติดพันต้องเคลียร์เรื่องใหญ่ให้จบ จนภรรยาท้องแก่ต้องขับรถเองจากชัยภูมิไปคลอดที่ขอนแก่นด้วยตัวเอง
2 มิ.ย.ตำรวจตามตัว “แสงจันทร์ บุตะเขียว”มาได้ สุดท้ายเธอก็ขอโทษเรื่องที่สื่อสารผิดในการไปร้องเรียนว่าไม่ได้รับโฉนดคืน ความจริงคือหลังจากฝ่ายปกครอง ตำรวจ อัยการ ไปเคลียร์เจ้าหนี้เงินกู้ที่ อ.แก้งคร้อ ตัดต้นลดดอก กำหนดเวลาจ่าย แต่เธอไม่มีเงินไปจ่ายตามนัด
ที่น่าสงสัยของหลายคนกับเรื่องนี้ ก็เห็นจะเป็นวงเงินที่ระบุว่า เจ้าหนี้ทวงเงินแสงจันทร์ 1.7 ล้าน (หนึ่งล้านเจ็ดแสนบาท) ขณะที่เธอกู้ โดยเอาโฉนดที่ดิน 2 งานกว่าไปค้ำประกัน(ขายฝาก) เมื่อปี 2557 เพื่อกู้เงิน 380,000 บาทจากนายทุน
ทำไมกู้เงินในระยะ 5 ปี ทั้งดอก ทั้งต้นพุ่งทะยานกว่า 400 % เมื่อดูจากหลักทรัพย์ที่คำประกันก็ยึดตามราคาประเมินที่ดินราคา 380,000 ถึงลูกหนี้เบี้ยว เจ้าหนี้ยึดที่ดินก็ยังมีหนี้ส่วนขาดอีก 1.3 ล้าน
เรื่องนี้เป็นปมที่ทำให้ทั้งฝ่ายปกครอง ตำรวจชัยภูมิ กินไม่ได้ นอนไม่หลับหลายวัน ว่ามันเกิดอะไรขึ้น ยิ่งประมวลภาพการเชื่อมต่อ ๆ กันของเครือข่ายนายทุนเงินกู้ กับ “รถตู้” ทะเบียนขอนแก่น มารับคนชัยภูมิไปร้องเรียน พล.อ.ประวิตร ที่ลพบุรี…และก็ไปพร้อมกัน 30 คน จาก 4 จังหวัด
ทำให้ผู้รับผิดชอบต้องมานั่งคิดว่า ใคร กำลังเล่นอะไร ? ใครอยู่เบื้องหลัง ?
แสงจันทร์ กู้ 380,000 บาท ถูกทวงหนี้ 1,700,000 บาท ทางราชการเจรจาเคลียร์นายทุนลดต้น ลดดอก เพราะไหนๆ ที่ผ่านมาลูกหนี้ก็จ่ายบ้างบางส่วน หักเหลือจ่าย 350,000 บาท นางสุพล ผลสมบูรณ์สุข นายทุนเงินกู้ก็ยินยอม และตกลงจ่ายครบภายใน 2 เดือน ณ สิ้นปี 2561 แล้วจะคืนโฉนดให้ ระหว่างรอจ่ายครบ ตำรวจที่เป็นคนกลางขอเก็บโฉนดไว้ก่อน
หน้าโฉนด เป็นชื่อ “แสงจันทร์ บุตะเขียว” หลังโฉนดที่นำไปขายฝาก เป็นชื่อ “นายเชิดชัย” เป็นผู้ให้สัญญาขายฝาก และนางสุพล ผลสมบูรณ์สุข เป็นผุ้รับซื้อฝาก
สาวล้วงลึกกลายเป็นว่า หนี้ 1,700,000 ล้าน จากเงินกู้ก้อนแรก 380,000 บาท จากหลักทรัพย์ค้ำประกัน เป็นที่ดิน 2 งานกว่า ที่ราคาประเมินไม่เกิน 400,000 บาท ไม่ใช่หนี้ก้อนเดียวที่แสงจันทร์ กู้จากนางสุพล
มันเป็นหนี้ต่อหนี้ จากหลักทรัพย์ตัวเดียวเพื่อหมุนหนี้จากนายทุนรายอื่น รวมทั้งนายทุนเงินกู้จาก”ขอนแก่น”โดยอ้างปากเปล่าว่ากู้เพื่อไปไถ่โฉนดคืนแล้วจะขายใช้หนี้….จนกลายเป็นดินพอกหางหมู จาก 380,000 บาท ทะยานเป็น 1,700,000 บาท
การนัดเคลียร์อย่างเป็นทางการล่าสุด เมื่อ 2 ก.ค.เจ้าหนี้ยอมยืดเวลาชำระ ไปอีก 4 เดือน จนถึงสิ้นเดือน ต.ค.62 ที่ลูกหนี้จะจ่ายที่เหลืออีก 320,000 บาท เพื่อให้ครบ 350,000 บาท แล้วจะตำรวจที่เป็นคนกลางเก็บโฉนดไว้จะมอบคืนเจ้าของ
เคสแบบนี้บอกตรงๆว่า “จบยาก” เพราะท้ายสุดโฉนดที่ดินของแสงจันทร์ โอกาสที่จะกลับคืนมาถึงมือเจ้าของยังแทบไม่มีโอกาส
ที่ยากคือมูลหนี้ที่เกี่ยวข้องกับโฉนดใบนี้ มันเกินมูลค่าที่ดินไปแล้วถึง 400 เท่า ที่เกี่ยวพันกับเจ้าหนี้รายอื่น ๆ ที่จะตามมาอีก
คืนโฉนด คืนความสุข จึงยิ่งเป็นทุกข์สำหรับแสงจันทร์
ผ่อนเงื่อนไข คลายทีละจุด เพื่อ 4 เดือนที่ต้องสู้กับมัน ให้กำลังใจครับ
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: