เจ้าหน้าที่นำมือมีดคู่กรณีที่ทำร้าย นทท.ชาวจีนมาสอบปากคำ พร้อมทั้งตั้งข้อกล่าวหาแล้ว

ภูเก็ต เจ้าหน้าที่นำมือมีดคู่กรณีที่ทำร้าย นทท.ชาวจีนมาสอบปากคำ พร้อมทั้งตั้งข้อกล่าวหาทำร้ายร่างกาย

กรณีเพจกระบี่ทีวีออนไลน์ได้โพสต์ข้อความ “ครอบครัวนักท่องเที่ยวจีนแฉซื้อทัวร์ที่หาดกะตะจะไปสิมิลัน โดนเบี้ยว เมื่อทวงถามกลับใช้มีดฟัน หลาบแล้วเมืองไทย” รายละเอียดมีดังนี้ ก่อนวันที่จะเกิดเหตุนักท่องเที่ยว ชาวจีนได้เข้าไปติดต่อสอบถามกับเคานเตอร์ทัวร์เพื่อขอคืนเงินกรณีที่ไม่ได้ไปท่องเที่ยวตามที่ซื้อทริปไว้ โดยได้มาตกลงกันที่สถานีตำรวจภูธรกะรน มีเจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยวมาคอยช่วยประสาน ทราบว่าไม่สามารถตกลงกันได้ เคาน์เตอร์ ทัวร์ไม่ยอมคืนเงินให้ตามที่นักท่องเที่ยวต้องการ

ต่อมาเช้าวันที่เกิดเหตุนักท่องเที่ยวได้ไปติดตามทวงเงินอีกครั้งที่เคาน์เตอร์ทัวร์และได้มีปากเสียงทะเลาะกัน โดยนักท่องเที่ยวได้ยืนต่อว่าเจ้าของเคาน์เตอร์ทัวร์ จากนั้น เจ้าของเคาน์เตอร์ทัวร์ได้เดินเข้ามายกเท้าจะถีบ และใช้อาวุธมีดขึ้นมาฟันบริเวณแขนมีบาดแผลเป็นรอยขีดไม่ฉีกขาด นักท่องเที่ยวจึงเดินทางเข้ามาแจ้งความร้องทุกข์ที่ สถานีตำรวจภูธรกะรน พนักงานสอบสวนได้รับคำร้องทุกข์ไว้

จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ น.ส.วิริย์ เป็นลูกจ้างของบริษัทนำเที่ยวชื่อ บลูโอเซี่ยน ทราเวิล โดยมีน.ส.ศรุตา พวงผกา เป็นผู้ได้รับอนุญาต ตามใบอนุญาตประกอบธุรกิจนำเที่ยว

ในวันที่ 29 ม.ค.66 ผู้เสียหายนายฟาง ลีชาว (MR.FANG LIQIAO) นักท่องเที่ยวพร้อมภรรยาและลูกได้เข้ามาซื้อทัวร์เพื่อไปท่องเที่ยวหมู่เกาะสิมิลัน ในวันที่ 31 ม.ค.66 จำนวน 4 ท่าน ในราคา 9,000 บาท โดยนักท่องเที่ยวชำระไว้ก่อนจำนวน 5,000 บาท โดยนัดหมายให้มารับนักท่องเที่ยวที่โรงแรมประมุขโก

จากนั้น ในคืนวันที่ 30 ม.ค.66 น.ส.วิริย์ โทรสอบถามให้มาชำระเงิน นักท่องเที่ยวแจ้งว่าขอชำระส่วน
ที่เหลือกับคนขับรถที่มารับในเข้าวันถัดมา (31 ม.ค.66) และ นักท่องเที่ยวได้แจ้งว่าได้ย้ายโรงแรมที่ชนาลัยฟลอร่า น.ส.วิริย์ จึงได้แจ้งให้คนขับรถไปรับที่โรงแรมชนาลัยฟลอร่า

แต่ต่อมาเมื่อเวลาเช้าของวันที่ (31 ม.ค.66) เวลาประมาณ 06.00 น. นักท่องเที่ยวโทรมาหาน.ส.วิริย์ แจ้งว่านั่งรออยู่ที่ลอบบี้โรงแรม น.ส.วิริย์ จึงเข้าใจว่า นักท่องเที่ยวรออยู่ที่ โรงแรมชนาลัย ฟลอร่า น.ส.วิริย์ จึงได้แจ้งให้คนขับรถที่จะไปรับนักท่องเที่ยวทราบเพื่อไปไปรับนักท่องเที่ยวที่โรงแรมชนาลัยฟลอร่า แต่เมื่อคนขับรถไปรับที่ โรงแรมชนาลัย ฟลอร่า ก็ไม่พบนักท่องเที่ยว ซึ่งเกิดจากการผิดพลาดด้านการสื่อสาร ทำให้นักท่องเที่ยวไม่ได้เดินทางไปท่องเที่ยวดังกล่าว

ต่อมาบ่ายของวันที่ 31 ม.ค. 66 นักท่องเที่ยวได้ติดต่อเพื่อขอรับเงินคืนและได้ประสานตำรวจท่องเที่ยวมาช่วยเจรจาไกล่เกลี่ยที่สถานีตำรวจภูธรกะรน ผลการพูดคุยไม่สามารถตกลงกันได้ โดยนักท่องเที่ยวขอรับเงินคืนจำนวน 5,000 บาท แต่ผู้ประกอบการไม่สามารถคืนได้เต็มจำนวนเนื่องจากได้ชำระค่าธรรมเนียมเข้าอุทยานล่วงหน้าแล้วเป็นเงิน 1,600 บาท จึงเสนอชดใช้เงินคืนจำนวน 3,400 บาท แต่นักท่องเที่ยวไม่ยินยอมรับ พนักงานสอบสวนจึงได้แจ้งให้ทั้งสองฝ่ายมาตกลงกันอีกครั้ง

ต่อมาวันที่ 1 ก.พ. 2566 เวลาประมาณ 10.00 น. ขณะที่ น.ส.วิริย์ อยู่ในสำนักงาน นักท่องเที่ยวได้มา
ทวงถามขอคืนเงินทั้งหมดจำนวน 5,000 บาท โดยใช้อารมณ์รุนแรง น.ส.วิริย์ ก็ยืนยันว่าสามารถชำระให้คืนได้เพียง 3,500 บาท นักท่องเที่ยวได้แสดงอาการไม่พอใจใช้มือทุบกระจกสำนักงานและเข้ามาชกต่อย น.ส.วิริย์ จำนวน 2ครั้งบริเวณใบหน้าและลำตัว น.ส.วิริย์ จึงได้เดินออกมาด้านนอกสำนักงาน นักท่องเที่ยวได้เดินตามออกมาโวยวายต่อว่าและนักท่องเที่ยวได้ใช้โทรศัพท์มือถือขึ้นมาบันทึกภาพซึ่งปรากฏตามสื่อโซเชียล จากนั้น คู่กรณีทั้งสองฝ่ายได้พากันมาที่ สถานีตำรวจภูธรกะรน

ล่าสุดเมื่องช่วงเที่ยงวันนี้(6 ก.พ. 66)ที่ สภ.กะรน จ.ภูเก็ต พ.ต.อ.คุณเดช ณ หนองคาย ผกก.สภ.กะรน พ.ต.อ.พิสิษฐ์ สวัสดิ์ถาวร ผกก.2 บก.ทท.3 นายนภดล อาวุธธรรมปรีชา นายสำนักงานธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์สาขาภาคใต้เขต 2 พ.ต.ท.เอกชัย ศิริ สว.ส.ทท.1 กก.2 บก.ทท.3 และ ร.ต.อ.ภีรวัฒน์ ยอดต่อ รอง สว.(สอบสวน)สภ.กะรนได้นำตัวคู่กรณี ของ นทท.ชาวจีนมาเพื่อสอบปากคำพร้อม ทั้งแจ้งข้อกล่าวหา ทำร้ายร่างกายผู้อื่น

เบื้องต้นมีการตรวจยึดมีดพกที่เป็นอาวุธใช้ในการทำร้ายร่างกายนักท่องเที่ยวชาวจีนดังกล่าวถูกเก็บไว้ใต้เบาะรถ จยย.ของ น.ส.วิริย์ไว้เป็นหลักฐาน โดยในชั้นสอบสวน น.ส.วิริย์ให้การรับสารภาพว่าเป็นคนที่ปรากฎในคลิปและทำร้ายร่างกายนักท่องเที่ยวชาวจีน พนักงานสอบสวนจึงแจ้งข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นได้รับบาดเจ็บ

พ.ต.อ.คุณเดช ณ หนองคาย ผู้กำกับการ สภ.กะรน กล่าวว่า คดีนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการนำผู้ต้องหามาสอบปากคำถึงสาเหตุว่าเกิดจากอะไรซึ่งทางผู้ต้องหาได้เล่าเหตุการณ์และให้การรับสารภาพโดยทางเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหาทำร้ายร่างกายก่อนจะนำตัวส่งฟ้องศาลในวันพรุ่งนี้

ด้านนายนภดล อาวุธธรรมปรีชา นายสำนักงานธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์สาขาภาคใต้เขต2 กล่าวว่า ดูแลเกี่ยวกับการออกใบอนุญาต ประกอบการท่องเที่ยว ทางท่านผู้ว่าได้เน้นย้ำในกรณีที่มีชาวจีนที่มีเหตุการณ์ดังกล่าวท่านว่าสั่งให้ดำเนินการดูตามระเบียบตามข้อบังคับตามกฎหมายดำเนินให้ถูกต้องหากมีข้อติดขัดอะไรท่านผู้ว่ายินดีสนับสนุนเต็มที่เพราะฉะนั้นเราดำเนินการตอบหาข้อเท็จจริงว่าอะไรเกิดขึ้นซึ่งบริษัทผู้ประกอบการ Blue Ocean Travel มีใบอนุญาตประกอบท่องเที่ยวถูกต้องตามกฎหมายถ้าสอบข้อเท็จจริงมาแล้วถ้าผิดตามระเบียบหรือตามข้อกฎหมายใด ๆ ทางสำนักงานทะเบียนก็จะดำเนินการตามข้อกฎหมายที่ได้กำหนดเอาไว้เช่นพักใบอนุญาต อยู่ในชั้นสอบสวนหาข้อเท็จจริงก่อน

และ พ.ต.อ.พิสิษฐ์ สวัสดิ์ถาวร ผกก.2บก.ทท.3 กล่าวว่า ตำรวจท่องเที่ยวมีหน้าที่ในการดูแลนักท่องเที่ยวอยู่แล้วช่วงนี้การท่องเที่ยวเป็นอุตสาหกรรมหลักของประเทศจึงของให้ทุกคนร่วมเป็นเจ้าบ้านที่ดีหากมีปัญหาเรื่องภาษาก็สามารถแจ้งขอความช่วยเหลือจากตำรวจท่องเที่ยวได้ทุกที่