สวนสมุนไพรท่ามกลางภูเขาโอบล้อมสวยงามตระการตาเปิดให้เข้าชมฟรีแถมมาเรียนรู้ดูงานได้ปลูกเพื่อส่งออกสร้างรายได้งดงามแถมยังผลิตขายเอง
ที่สวนสมุนไพรปางสวรรค์ บนเนื้อที่ 24 ไร่ เลขที่ 194 หมู่ 6 ตำบลคอกควาย อำเภอบ้านไร่ จังหวัดอุทัยธานี นางสาวพัชรวัลย์ สว่างศิลป์ อายุ 48 ปี และครอบครัว ปลูกสมุนไพร เพื่อส่งออกไปตามผู้ที่ผลิตยาสมุนไพรขายรวมถึงตามโรงงานผู้ที่ทำยาสมุนไพรชั้นนำที่มีชื่อ โดยเริ่มซื้อที่ดินที่โอบล้อมด้วยเทือกเขาบันไดและปลูกไว้ 5 ปีจากนั้นก็เริ่มเผปิดให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวและเรียนรู้การปลูกสมุนไพรเมื่อวันที่ 29 ธันวาคม 2567 ที่ผ่านมา โดยสวนสมุนไพรแห่งนี้สวยงามตระการตาด้วยพันธ์ไม้ที่นำมาเป็นตัวยาต่างๆเช่น กระดังงา หญ้าหวาน หญ้าหนวนแมว รางจืด อัคคีทวาร เสลดพังพร รวมแล้วกว่า 40 ชนิด ซึ่งเป็นสมุนไพรที่ตลาดนั้นมีความต้องการสูงซึ่งสวนสมุนไพรนั้นปลูกแยกชนิดกันอย่างเป็นระเบียบและในตอนนี้ยังได้นำดอกคอสมอสและต้นทานตะวันปลูกแซมไว้เพื่อเอาใจบรรดานักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบการถ่ายรูปอีกด้วย โดยก่อนที่จะทำสวนสมุนไพรได้ศึกษาภูมิประเทศซึ่งก็พบว่าที่ตำบลคอกควายแห่งนี้ดินดีและบรรยากาศนั้นเหมือนเมืองเหนือ จึงได้ลงมือนำสมุนไพรต่างๆมาปลูกเพื่อส่งออกดังที่กล่าวมาจนสร้างรายได้อย่างดงามและสามารถเก็บเกี่ยวได้ทั้งปีสร้างรายได้งดงามเป็นกอบเป็นกำ โดยบรรดานักท่องเที่ยวนั้นก็เริ่มรู้จักสวนสมุนไพรปางสวรรค์แห่งนี้กันเยอะขึ้นจนเข้ามาชมและถ่ายรูปลงโซเชียลกัน ซึ่งการเดินชมสวนแห่งนี้ทั้งสวนนั้นทางเจ้าของทำทางเดินให้เดินชมได้ทั้งสวนและยังอธิบายของสมุนไพรชนิดต่างๆให้กับความรู้กับผู้ที่มาเที่ยวชมอีกด้วยรวมถึงอธิบายสรรพคุณหากไปทำเป็นยาแก้อะไรได้บ้าง ซึ่งเรียกได้ว่าสวนแห่งนี้เป็นสวนแห่งแรกในจังหวัดอุทัยธานีที่ปลูกสมุนไพรเยอะที่สุดอีกด้วย โดยวันหยุดต่างๆบรรดานักท่องเที่ยวทั้งในจังหวัดและต่างจังหวัดมักจะเข้ามาชมกันอย่างไม่ขาดสายกันเลยทีเดียว และยังสร้างรายได้ให้กับชุมชนเพราะตั้งแต่คนสวนและคนเก็บสมุนไพรล้วนแล้วแต่เป็นคนตำบลคอกควายทั้งหมด และในตอนนี้หันมาใช้สมุนไพรกันมากขึ้นเป็นอีกหนึ่งทางเลือกเพื่อสุขภาพและเพื่อบำรุงร่างกายซึ่งยาสมุนไพรไทยนั้นมีการใช้มาตั้งแต่สมัยโบราณจนมาถึงปัจจุบันนี้
หลังจากที่เดินชมสวนเสร็จแล้วยังสามารถซื้อยาสมุนไพรของสวนที่ผลิตเองได้ในราคาชาวบ้านหรือเรียกว่าจับต้องได้กลับไปเป็นของฝากของที่ระลึกได้และที่พลาดไม่ได้ก็คือน้ำสมุนไพรที่ทางสวนนั้นทำเองในทุกขั้นตอน เช่น เซียนชา กระเจี๊ยบ ชบาแดง และอีกหลากหลายซึ่งเริ่มต้นเพียงแก้วละ 30 บาท เท่านั้นและที่พลาดไม่ได้ก็คือ ชาดอกชบาแดงเป็นซิกเนเจอร์ของที่นี่ใครมาเยือนแล้วต้องไม่พลาดโดยกานนำดอกชบาสดๆมาทำเป็นชาพอชงกับน้ำร้อนจะเป็นสีแดงสดใครชอบเติมความหวานก็จะใส่น้ำผึ้งแล้วก็เติมมะนาวลงไปนิดหน่อยสีของชาที่แดงสดจะเปลี่ยนเป็นสีส้มขึ้นมาทันทีซึ่งมะนาวนั่นเองที่ทำให้ชาเปลี่ยนสีได้เวลาดื่มเข้าไปจะชื่นใจรู้สึกโล่งได้ความหอมกรุ่นของดอกชบาและยังเป็นยาลดความดันต้านอนุมูลอิสระ บำรุงร่างกาย ขับระบบปัสสาวะได้เป็นอย่างดี สวนสมุนไพรปางสวรรค์ ยังเปิดให้ผู้ที่สนใจเข้ามาดูงานการปลูกสมุนไพรเผื่อใครที่อยากทำเป็นอาชีพและผู้ทีชื่นชอบศึกษาด้านสมุนไพร โดยเปิดให้เข้าชมทุกวัน ตั้งแต่ 08.00 น.-18.00 น. และสามารถโทรสอบถามได้ที่เบอร์โทรศัพท์ 081-7633887และ 081-0077100 และที่เพจเฟตบุ๊ต”สวนสมุนไพรปางสวรรค์”และเรียกได้ว่าสวนแห่งนี้มีเพียงหนึ่งเดียวในจังหวัดอุทัยธานีที่ปลูกสมุนไพรแบบเต็มรูปแบบเลยก็ว่าได้แถมยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวอีกด้วย
