ทนรอไม่ไหวแล้งจัดไถเสร็จหว่านข้าวรอฝนกับดินที่แข็งเสี่ยงดวงเอาหากฝนตกกล้าข้าวก็ขึ้นหรือไม่ก็ขาดทุนย่อยยับ
เวลา 07.00 น.วันที่ 3 สิงหาคม 2566 นางประจวบ คงเขียว อายุ 59 ปีและครอบครัวตื่นมาในตอนเช้าตรู่เพื่อมาดูที่นาจองตัวเองจำนวนอยู่ 16 ไร่ ที่บ้านหมกแถว ตำบลหมกแถว อำเภอหนองขาหย่าง จังหวัดอุทัยธานี นำพันธ์ข้าวหอมมะลิ 501 มาเพื่อที่จะหว่าน โดยการหว่านข้าวของครอบครัวของนางประจวบนั้น ได้จ้างรถไถมาทำการไถนา จำนวน 16 ไร่ จากนั้นครอบครัวของนางประจวบก็ทำการหว่านลงในดินที่แข็งมากปนกับดินที่แห้งจนเป็นผงฝุ่นซึ่งไถใหม่ๆเลย ผู้สื่อข่าวจึงได้สอบถาสาเหตุทำไมถึงหว่านข้าวแบบนี้นางประจวบบอกว่าต้องเสี่ยงดวงกับการหว่านข้าวในครั้งนี้ก็เพราะว่าหมู่บ้านหมกแถวแห่งนี้แล้งจัดมากแหล่งน้ำในการทำนาได้ขุดสระไว้เพียงบ่อเดียวแล้วก็เล็กมากน้ำนั้นไม่เพียงพอมาปล่อยน้ำใส่นาข้าวเพื่อหล่อเลี้ยงเมล็ดข้าวไห้เจริญเติบโตอย่างแน่นอน จึงลองเสี่ยงดวงโดยได้ปรึกษากับทางสามีและลูกๆที่ช่วยกันทำนาจึงตกลงกันว่าจะหว่านข้าวแบบนี้ ซึ่งเป็นการเสี่ยงดวงเอาเลยก็ว่าได้ ก็เพราะว่านางประจวบนั้นได้ฟังการพยากรอากาศอยู่ตลอดบอกว่าฝนน่าจะตกในเร็วๆนี้จึงตัดสินใจหว่านข้าวในผืนดินที่แห้งแล้งแบบนี้เพื่อรอฝน
ซึ่งนางประจวบได้เปิดเผยอีกหว่าในปีนี้พื้นที่นาในหมู่บ้านประมาณ 4,000 กว่าไร่ต้องประสบปัญหาเรื่องแล้งน้ำไม่พอทำนากันแทบทุกครัวเรือน แต่ด้วยเป็นอาชีพที่สิบต่อมาจากรุ่นสู่รุ่นก็ต้องทำไปเพื่อเลี้ยงดูลูกหลานและไม่มีอาชีพสำรองอย่างอื่นเลยทำนามาตั้งแต่เด็กๆเลยด้วยซ้ำ ซึ่งหาเปรียบเทียบกับปีที่แล้วนั้นในเวลานี้ข้าวคงเหลืองอร่ามเต็มทุ่งไปแล้วพอมาในปีนี้แบบจะหมดสิ้นความหวังในการทำนาเลยเพราะมาเจอกับสภาพที่แห้งแล้งแบบนี้และที่ผ่านมานั้นก็ได้บอกกับทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่าขอให้ช่วยเรื่องแหล่งน้ำในการทำนาแต่ก็ยังคงเงียบหายไร้วี่แววจึงได้แต่ต้องรอคอยเทวดาว่าจะให้ฝนตกลงมาหรือเปล่า ส่วนการลงทุนในการทำนาในครั้งนี้ก็ต้องแล้วแต่ฟ้าหรือฝนจริงๆหากไม่ตกข้าวที่หว่านก็เสียเปล่าอย่างแน่นอน
