เกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลังทำระบบน้ำหยดไม่ง้อเทวดา บ้านสนามบิน ตำบลเขากวาง อำเภอหนองฉาง ปลูกมันสำปะหลัง ได้ผลผลิตดีไร่ละ 2.5 ตันๆละ 8,000 ดีสร้างรายได้ดีปีละเป็นล้านๆ บาท มีผลกำไรอย่างครึ่งต่อครึ่ง
เวลา 07.00 น.วันที่ 22 มิถุนายน 2566นายขวัญเมือง เคยเหล่า อายุ 51 ปี อยู่บ้านเลขที่ 133 หมู่ที่ 11 บ้านสนามบิน ตำบลเขากวางทอง อำเภอหนองฉาง จังหวัดอุทัยธานี เปิดเผยถึงไร่มันที่ตัวเองทำว่า ตนเองเป็นเกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลังเป็นอาชีพหลัก และแต่ละปีปลูกมันสำปะหลังจำนวน 40 กว่าไร่ โดยใช้พันธุ์ระยองห้า และรอง 9 ซึ่งเป็นพันธุ์ที่ให้ผลผลิตดีจะได้แป้งของมันได้ดี โดยการปลูกน้ำหยดตนเองทำ 40 ไร่ ได้ผลดีมาอย่างต่อเนื่องและสามารถขายได้ปีละเกือบ 2.5 ล้านบาท ส่วนผลกำไรในแต่ละปีมีกำไรครึ่งต่อครึ่ง ส่วนการลงทุนไร่ละประมาณ 5 – 6 พันบาท และสำหรับพื้นที่โซนเขาปลาร้าบ้านสนามบินแห่งนี้ทั้งหมดกว่า 1,000 ไร่ ส่วนใหญ่มีอาชีพปลูกมันสำปะหลังและทำระบบน้ำหยดกันเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งระบบน้ำหยดนี้เข้ามาช่วยเพราะว่าไม่ต้องกลัวแล้งฝนไม่ตกก็ปลูกได้เลย ไม่ต้องรอฤดูฝนหากฝนทิ้งช่วงเราก็จะใช้ระบบนี้ต่อไปควบคุมระบบน้ำเองโดยไม่ต้องง้อเทวดาเลย และการดูแลนั้นก็มีการให้น้ำ ทำความสะอาดแปลงมัน ฉีดยาคุมบ้าง ดูว่าเพลี้ยจะมาเกาะตามลำต้นหรือเปล่า หากมีเพลี้ยลงก็ฉีดยาประมาณสัก 4-5 เดือนก็รอเก็บเกี่ยว ซึ่งการปลูกมันแต่ละครั้งใช้เวลา 8 – 9 เดือนโดยประมาณ หากว่าแปลงมันสำปะหลังไม่รกก็สบายใจได้เลยว่าเพลี้ยจะไม่ลงมากินลำต้นอย่างแน่นอน
และเมื่อปีที่แล้วนั้นจัดว่าราคาดีมากมันแห้ง กิโลกรัมละ 7-8 บาท 1 ตันก็ได้ ประมาณ 8,000 บาท และไร่หนึ่งจะได้ผลผลิตประมาณ 3 ตัน และเมื่อเก็บเกี่ยวได้จะจ้างคนมาขุดนำไปขึ้นรถแล้วไปฝานเป็นชิ้นๆนำไปตากแดด พอตากแห้งแล้วก็จะมีเถ้าแก่จะมารับซื้อเรียกว่าราคาตอนนี้ดีมาก ส่วนหัวมันสดอยู่ 1 ไร่ จะได้มันประมาณ 5 – 8 ไร่ กิโลกรัมละ 2-3 บาทกว่า ก็จะได้ต่อไร่ประมาณ 2,000 – 3000 บาท ซึ่งตามเปอร์เซ็นต์แป้งหากดีก็ราคาขึ้นเป็น 3 บาทกว่า เกษตรนั้นมีให้เลือกขายสองแบบและสำหรับผู้ที่ไม่มีลานตากก็ขายมันสดกัน และส่วนใหญ่นั้นจะปลูกเป็นมันขายหัวมันซึ่งมีหลายอย่าง หากขายแป้งก็มาตากเอง หากขายหัวก็อีกอย่างหนึ่งและมีคนมารับซื้อถึงที่ พอเราตากมันแห้งแล้วและบอกราคากันเลยส่วนใหญ่ราคาจะต่างกันเพียงแค่ 5 สตางค์-10 สตางค์ซึ่งจะมีราคาประกันยืนพื้นเลย
