ดอกมะลิแพงรับวันแม่ราคาสูงถึง 800 บาทต่อหนึ่งกิโลกรัมดอกไม้อื่นๆที่ใช้ทำพวงมาลัยไหว้พระขยับขึ้นอย่างต่อเนื่อง
เวลา 07.00 น.วันที่ 10 สิงหาคม 2565 ที่ตลาดสดริมแม่น้ำสะแกกรัง อำเภอเมืองอุทัยธานี นางสาวปราณี ยิ้มเมือง แม่ค้าขายพวงมาลัยและดอดไม้สำหรับใช้ไหว้พระทำบุญในช่วงเช้าเปิดเผยว่าในตอนนี้ใกล้จะมันที่ 12 สิงหาคม 2565 ราคาดอกมะลิจากเดิมกิโรกรัมละ 300 บาท ขึ้นมาถึง 800 บาทต่อหนึ่งกิโลกรัม ดอกกุหลาบจากราคาเดิม ดอกกุหลาบร้อยดอก ราคาร้อยละ 80-100 บาท(เด็ดเหลือแต่ดอกแล้วเพื่อนำมาทำพวงมาลัย)ขึ้นมาเป็นร้อยละ 130 บาท ดอกรักนั้นจากราคาเดิม กิโลกรัมละ 80 บาทนั้นขึ้นมาถึงกิโลกรัมละ 200 บาท ซึ่งส่งผลกระทบเป็นอย่างมากสำหรับการร้อยมาลัยขายในขณะนี้ โดยพวงมาลัยที่เป็นมะลิล้วนนั้นพวงเล็ก 20 บาท สำหรับนำไปไหว้พระหรือถวายพระ แต่สำหรับพวงมาลัยที่จะใช้นำไปไหว้แม่ซึ่งเป็นดอกมะลิล้วนพวงใหญ่สำหรับคล้องข้อมือแม่นั้นตอนนี้พวงละ 70 บาทแต่ก็คงต้องขยับราคาขึ้นเรื่อย ๆจนกว่าจะถึงวันแม่ราคาอาจจะขึ้นเป็น 100-120 บาท ซึ่งเนื่องจากดอกมะลินั้นราคาสูงขึ้นและยังหายากในตอนนี้เนื่องจากบรรดาแม่ค้าที่ร้อยพวงมาลัยขายมีความต้องการสูงในช่วงนี้เพราะเป็นวันสำคัญนั่นเอง ส่วนพวงมาลัยที่ใช้ไหว้พระนั้นทางนางสาวปราณี นั้นขายในราคาปรกติเนื่องจากเกรงใจลูกค้าขาประจำที่มาซื้อไปไหว้พระทำบุญในตอนเช้า มีตั้งแต่ราคาพวงละ 10 บาท จนถึง 20 บาท แต่ก็จะขอปรับปริมานของดอกไม้ในพวงมาลัยลงบ้างเนื่องจากต้นทุนสูงนั่นเอง สำหรับดอกไม้ที่ใช้ถวายพระสงฆ์ที่เป็นช่อดอกดาวเรืองกับในเตยก็ต้องขอปรับปริมานดอกดาวเรืองลงจากเคยใส่ช่อละ 3 ดอกก็เหลือ 2 ดอกก็เพราะว่าดอกดาวเรืองนั้นขึ้นราคามาเป็นดอกละ 2 บาท ซึ่งจากเดิมนั้นเคยขายเป็นร้อยละ 80 บาท
ซึ่งบรรดาเจ้าของสวนดอกไม้นั้นก็ส่งผลกระทบก็เพราะฝนนั้นตกบ่อยส่งผลให้ดอกมะลินั้นออกผลผลิตไม่ทันเช่นเดียวกับสวนดอกไม้ที่ปลูกอย่างอื่นแต่ก็มีความต้องการสูงในช่วงนี้และมาประกอบกับวันแม่นั้นตรงกับวันเทศกาลสารทจีนอีกด้วยราคาดอกไม้จากสวนก็อาจจะพุ่งขึ้นอีกก็เพราะมีความต้องการสูงก็เพราะเนื่องจากพวงมาลัยต่าง ๆ ก็ต้องใช้ประกอบพิธีไหว้นั่นเอง
