นครตรัง วุ่น!อีก ผู้เสียหายยางมะตอยติดรถ ปฏิเสธรับเงินเยียวยาแค่คันละ 800 โวยจ่ายค่าล้างจริง 1,500-3,000 เหมือนถูกตีมึน-มัดมือชก ไร้เงาจนท.เทศบาล เล็งแจ้งความอาญา ผรม.-เทศบาลเพิ่ม
เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดตรัง ว่า จากกรณีเมื่อวันที่ 12 ตุลาคม 2567 ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดตรัง ได้รับร้องเรียนประชาชนภายในเขตเทศบาลนครตรัง โดยเฉพาะผู้ใช้รถใช้ถนนว่า ได้เกิดผู้ได้รับความเสียหายจากการทำถนนของเทศบาลนครตรัง ได้แห่กันไปแจ้งความลงบันทึกประจำวันที่สภ.เมืองตรังกันอย่างล้นหลามจำนวนกว่า 200 ราย เนื่องได้มีผู้ได้รับความเดือดร้อนจากการทำถนนตามโครงการของเทศบาลนครตรัง ซึ่งไม่ได้ทำมีการติดป้ายห้ามผ่าน หรือ ปิดถนนห้ามสัญจร โดยตั้งแต่ช่วงเย็นวันที่ 12 ตุลาคม 67 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ฝนตกลงมาอย่างหนัก และมีผู้สัญจรใช้รถใช้ถนนคับคั่งเนื่องจากเป็นช่วงเย็นโดยถนนดังกล่าวเป็นโครงการปรับปุงถนนสาธารณะเส้นขนานรางรถไฟวังตอ ระยะทางกว่า 2 กิโลเมตร วงเงิน 6,030,000 บาท ซึ่งผู้รับเหมาตามสัญญาจ้างจากเทศบาลนครตรังกำลังปรับปรุงทำถนนใหม่ ด้วยการขูดผิวถนนเดิมออก แล้วราดน้ำยางมะตอยเหลวรองพื้นก่อนจะเริ่มขบวนการปูแอสฟัลท์ติดคอนกรีต ทำให้ยางมะตอยเหลวรวมทั้งหินรองพื้นติดตามล้อรถสภาพเละเทะ
โดยรถผู้เสียหายหลายรายน้ำยางมะตอยและเศษหินได้ผสมกันติดตามรถหนาเตอะจนมองไม่เห็นดอกยาง สภาพความเสียหายติดไปจนถึงใต้ท้องรถ ตัวถึง แซดซี ตัวรถ กระจังหน้าและกระจก โดยที่ปากทางเข้าถนนดังกล่าวทั้ง 2 ด้าน ไร้เครื่องกีดขวาง ป้ายเตือน หรือป้ายบอกการปฏิบัติงาน รวมถึงไร้เจ้าหน้าที่คอยดูแลแต่อย่างใด ทำให้มีรถประชาชนทั่วไปพลัดหลงเข้าไปจนเกิดความเสียหายจำนวนมาก กระทั่งช่วงค่ำวันเดียวกัน ก็ยังไม่มีการปิดกั้นถนน ขณะที่ผู้รับเหมาได้ถอนเครื่องไม้เครื่องมือ เครื่องจักร ออกไปแล้วเนื่องจากฝนตก ทำงานต่อไม่ได้ ทิ้งไว้เพียงถนนที่ฉ่ำไปด้วยน้ำยางมะตอย และไร้ป้ายเตือน โดยมีรถของชาวบ้านเข้าออกอย่างต่อเนื่อง ขณะที่บรรดาร้านคาร์แคร์ล้างรถต่างๆ โดยเฉพาะตามห้างสรรพสินค้าใกล้เคียง คราคร่ำไปด้วยประชาชนเจ้าของรถที่รีบนำรถไปล้างแบบใช้น้ำยาพิเศษ สนนราคาค่าล้างรถยนต์ตั้งแต่ 1,000 บาทขึ้นไปต่อคัน ส่วนรถจักรยานยนต์ เริ่มต้นที่ 500 บาทต่อคัน ขึ้นกับสภาพยางมะตอยที่ติด
ซึ่งหลังเหตุการณ์ดังกล่าวเทศบาลนครตรังได้เรียกบริษัทผู้รับเหมา ประชุมเพื่อหาทางเยียวยาผู้เสียหายทั้งหมด โดยเมื่อวันที่ 28 ต.ค.67 ได้เรียกผู้เสียหายประเภทรถจักรยานยนต์ มารับค่าเยียวคันละ 400 บาท โดยบริษัทผู้รับเหมาเป็นผู้รับผิดชอบ ซึ่งสร้างความไม่พอใจแก่ผู้เสียหายเนื่องจากจ่ายเงินค่าล้างรถจักรยานยนต์ไปคันละ 500 บาท
และวันนี้(4 พ.ย.67) ได้เรียกผู้เสียหายประเภทรถยนต์นั่งส่วนบุคคลขนาดเล็ก มารับเงินเยียวยาที่อาคารเอนกประสงค์เทศบาลนครตรัง ระหว่างเวลา 14.00-16.30 น. เพียง 2 ชั่วโมงครึ่งเท่านั้น โดยบริษัทผู้รับเหมาส่งพนักงานหญิงเพียง 2 คน มาจ่ายเงินให้กับประชาชน โดยไม่มีเจ้าหน้าที่จากทางเทศบาลนครตรัง รวมทั้งเจ้าหน้าที่จากสำนักช่าง มาร่วมอำนวยความสะดวกเหมือนเมื่อครั้งรับลงทะเบียนแต่อย่างใด ทางนี้บรรยากาศการรับเงินเริ่มโกลาหลตั้งแต่ช่วงแรก เมื่อเจ้าหน้าที่ได้แจ้งเงื่อนไขการรับเงินค่าล้างรถกับผู้เสียหาย โดยผู้เสียหายประเภทรถยนต์ขนาดเล็ก ทางเอกชนตั้งเงื่อนไขระบุ เครื่องยนต์ต้องไม่เกิน 1,200 ซีซี รับเพียง 800 บาทต่อคัน ทำให้ผู้เสียหายหลายคนเกิดความไม่พอใจเนื่องจากได้จ่ายค่าล้างรถไปไม่ต่ำกว่าคันละ 1,500-3,000 บาท โดยผู้เสียหายส่วนใหญ่ปฏิเสธรับเงินจำนวนดังกล่าว เนื่องจากมองว่าไม่สมเหตุสมผล ไม่ได้เยียวยาตามความเสียหายที่เกิดขึ้นจริง และไม่พอใจ ที่ไม่มีการแจ้งรายละเอียดเงื่อนไขล่วงหน้า เหมือนต้องการมัดมือชกปกปิดหรือตีมึนเพื่อให้จ่ายน้อยอะไรบางอย่าง ทางกลุ่มผู้เสียหายเลยมีการตั้งไลน์กลุ่ม หารือถึงการเคลื่อนไหวเรียกร้องต่อไป โดยหากมีความจำเป็นก็จะต้องไปแจ้งความเอาผิดทั้งเอกชนและเทศบาลผู้ว่าจ้างที่มีส่วนในการควบคุมงานตามอำนาจหน้าที่ในคดีอาญา ประมาทเลินเล่อทำให้เสียทรัพย์
นางสุมาลี ทองสุด อายุ 64 ปี ผู้เสียหายชาวอำเภอกันตัง จังหวัดตรัง กล่าวว่า ตนขับรถยนต์เก๋งติดยางมะตอย โดยนำรถไปล้างค่าล้างจำนวน 2,500 บาท ใช้เวลาล้างข้ามวัน เพราะเป็นวันหยุดวันอาทิตย์ รถยนต์เก๋งของตนติดยางมะตอยหนามาก จนต้องถอดล้อทั้ง 4 ล้อ ออกมาล้าง พอติดตั้งล้อคืนก็อยู่ในสภาพไม่สมบูรณ์ และตนดินทางติดตามเรื่องนี้ 3 ครั้งแล้ว จนวันนี้เขาจะจ่ายเงินเยียวยาเพียง 800 บาท ตนเห็นว่าไม่สมเหตุสมผล จึงขอปฏิเสธรับงินดังกล่าว
ด้านผู้เสียหายอีกคน(คนนั่งชุดลายน้ำตาล) บอกว่า ที่ผ่านมาเทศบาลนครตรังกับผู้รับเหมาประชุมกันแค่ 2 ฝ่าย ไม่ให้ผู้เสียหายร่วมประชุมด้วย แล้ววันนี้จะมาบอกว่าจ่ายค่าเยียวยาให้เพียง 800 บาทต่อคัน มันเป็นราคาไม่สมเหตุสมผล ตนต้องทิ้งงานมาตามเรื่องหลายครั้ง ต้องจ่ายค่าน้ำมันรถสำหรับเดินทาง ซึ่งตรงนี้ไม่ได้คิดจะมาเรียกร้องค่าน้ำมันรถ ค่าเสียเวลา ตนอยากได้แค่ล้างรถที่จ่ายตามบิลจริง แต่ผู้รับเหมากลับส่งแค่พนักงานระดับล่างมาพบผู้เสียหายเท่านั้น ผู้เสียหายไม่มีโอกาสได้คุยกับผู้มีอำนาจเลย
อย่างไรก็ตามพนักงานบริษัทผู้รับหมาได้บอกกับผู้เสียหายว่าจะนำเรื่องไปเรียนผู้มึอำนาจต่อไป โดยในวันนี้มีรายชื่อผู้เสียหายประเภทรถยนต์ขนาดเล็กจำนวนเพียง 31 ราย เนื่องจากระยะเวลากระชั้นชิด และเปิดรับเงินเพียง 2 ชั่วโมงครึ่งเท่านั้น แต่มีประมาณ 10 ราย ที่ยอมรับเงินเยียวยาจำนวนดังกล่าว เพราะไม่อยากเสียเวลาเดินทางมาหลายครั้ง และบางรายเดินทางไกลมาจากอำเภอทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช
