ตรัง-ปลูกข้าวไร่ตำข้าวเม่าโบราณขายปีละครั้ง ที่นับวันจะหาดูยากโดยเฉพาะในภาคใต้ คนทำไร่ ทำนาเหลือน้อย
ตรัง-ชาวบ้านปลูกข้าวไร่ตำข้าวเม่าโบราณขายปีละครั้ง ออเดอร์ทำไม่ทัน เนื่องจากคนปลูกข้าวเหลือน้อย ทั้งข้าวไร่ และโดยเฉพาะนาข้าวขณะนี้ในพื้นที่ไม่มีเหลือแล้ว โดยราคาขายข้าวเม่ากก.ละ 200 บาท สร้างรายได้เสริมในช่วงต้นฤดูข้าวไร่ โดยเฉพาะผู้สูงวัยที่ยังคงสืบสานภูมิปัญญาท้องถิ่นการปลูกข้าว ตำข้าว โดยนางกระจาย หนูเริก (เสื้อสีเหลือง) อายุ 54 ปี อยู่บ้านเลขที่ 17/1 พร้อมด้วยนางประดับ แก้วสังข์ อายุ 68 ปี อยู่บ้านเลขที่ 5 หมู่ 1 บ้านในเขา ต.ปากแจ่ม อ.ห้วยยอด นำผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปดูแปลงข้าวไร่ เนื้อที่ประมาณ 5 ไร่ ของนางกระจาย ( เสื้อสีเหลือง) ที่ปลูกในพื้นที่ว่างในสวนยางพาราที่ปลูกใหม่ ซึ่งนอกจากนั้นยังมีการพืชชนิดอื่นๆด้วย ทั้งลูกเดือย ข้าวฟ่าง ( แต่ยังเก็บผลผลิตไม่ได้ ) และกล้วย โดยการปลูกข้าวไร่ในปีนี้นั้น นางกระจายปลูกเฉพาะข้าวไร่สายพันธุ์ข้าวเหนียว ทั้งข้าวเหนียวดำ และข้าวเหนียวขาว เพื่อสำหรับการตำข้าวเม่าเท่านั้น ซึ่งขณะนี้ข้าวเหนียวทั้งหมดกำลังทยอยออกรวงได้ขนาดสำหรับการทำข้าวเม่าพอดี ทั้งนี้ หากเป็นข้าวเหนียวสีขาว ต้องเลือกเก็บที่โคนรวงสีเขียว ปลายรวงเริ่มสีเหลือง ส่วนข้าวเหนียวสีดำก็เลือกเก็บที่กำลังพอดีเม่าเช่นกัน ซึ่งนางกระจายเจ้าของไร่ จะเก็บข้าวไปตำข้าวเม่าขายเองด้วย และยังขายรวงที่กำลังพอดีเม่านี้ ให้กับป้าดับ ( นางประดับ แก้วสังข์) ด้วย และยังขายให้กับชาวบ้านในพื้นที่ อ.นาโยง จ.ตรัง ที่เดินทางไปขอซื้อข้าวเหนียวที่พอดีเม่านี้ นำไปทำข้าวเม่าขายด้วย โดยราคาขายเจ้าของไร่ ( นางกระจาย) จะขายเป็นกก. หากเก็บเอง ( ซึ่งการเก็บก็ยังเป็นแบบโบราณ โดยการใช้แกะ อุปกรณ์เกี่ยวข้าวของชาวบ้านในพื้นที่ภาคใต้ ) จะขายกก.ละ 30 บาท แต่หากเจ้าของไร่เก็บให้จะขายกก.ละ 35 บาท สำหรับคุณป้าดับ ก็จะเก็บเอง เนื่องจากแปลงข้าวไร่อยู่ใกล้บ้านป้าทั้ง 2 คน
นางกระจาย หนูเริก อายุ 54 ปี เจ้าของไร่ บอกว่า เนื้อที่ทั้งหมด 5 ไร่ เลือกปลูกเฉพาะข้าวเหนียวอย่างเดียวเท่านั้น เพื่อไว้สำหรับขายข้าวเม่า ราคาขายถ้าตำเองขายกก.ละ 200 บาท ส่วนถ้ามีคนมาซื้อข้าวเหนียวเป็นรวง หากเก็บเองขายกก.ละ 30 บาท หากตนเก็บให้ขายกก.ละ 35 บาท ปกติก็ปลูกข้าวไร่ทุกปี แต่จะปลูกทั้งข้าวเจ้า และข้าวเหนียว โดยข้าวเจ้าจะปลูกไว้กินเองในครัวเรือนไม่ต้องซื้อข้าวกิน ส่วนข้าวเหนียวจะปลูกไว้สำหรับขายข้าวเม่าเท่านั้น ปีที่แล้วขายได้ประมาณ 10,000 บาท ซึ่งจะได้ทำปีละครั้งเท่านั้นสำหรับข้าวเม่า โดยคนยังชอบกินกันมาก เพราะมีคนทำน้อย นอกจากนั้นก็จะแบ่งข้าวเหนียวส่วนหนึ่งไว้ขยายพันธุ์ต่อในปีหน้าด้วย เพราะขณะนี้ข้าวไร่ ทั้งข้าวเจ้า และข้าวเหนียวเริ่มหายาก เพราะข้าวไร่ขณะนี้มีคนทำน้อยมาก และโดยเฉพาะนาข้าวไม่มีเหลือแล้ว
ข่าวน่าสนใจ:
เช่นเดียวกับคุณป้าประดับ แก้วสังข์ บอกว่า ปีนี้เริ่มทำข้าวเม่ามาได้ประมาณ 4-5 วันแล้ว มีคนสั่งเยอะ ปีที่แล้วขายได้ประมาณ 5,000 บาท ตำข้าวเม่าขายต่อเนื่องกันมาประมาณ 5 ปีแล้ว เนื่องจากมีคนทำข่าวเม่าน้อยในพื้นที่มีเพียง 2 คนเท่านั้น คือ ตนเอง และนางกระจาย ส่วนราคาขายกก.ละ 200 บาท เท่ากับปีที่แล้ว หากขายเป็นกระป๋องๆละ 30 บาท โดยปีนี้มีคนสั่งเข้ามามาก จนทำไม่ทัน ส่วนข้าวเหนียวที่นำมาตำข้าวเม่าตอนนี้เป็นข้าวที่ซื้อต่อมาจากของนางกระจาย โดยไปเก็บข้าวเองในราคากก.ละ 30 บาท นำมาตำขาย เพราะของตัวเองก็ทำไร่ไว้เหมือนกันประมาณ 2 ไร่ แต่แบ่งปลูกข้าวเจ้า 1 ไร่ ที่เอาไว้กินในครัวเรือนไม่ต้องซื้อข้าวสารประหยัดได้ตลอดปี และปลูกข้าวเหนียว 1 ไร่ แต่เพิ่งได้พันธุ์มาจึงต้องการจะปลูกและเก็บเมล็ดไว้ทำพันธุ์ปลูกตำข้าวเม่าในปีต่อไป ความจริงตนเองตำข้าวเม่าเป็นมานานแล้วต่อมาจากพ่อแม่ แต่มาทำขายต่อเนื่องกันมาทุกปีได้ 5 ปีแล้ว ซึ่งเป็นรายได้เสริมปีละครั้ง ในพื้นที่มีคนตำข้าวเม่าน้อยมาก คนต้องการอยากกินจำนวนมาก แต่ละวันมีคนสั่งเข้ามาจนทำไม่ทัน ซึ่งตนเองจะลุกขึ้นมาต่ำตั้งแต่หัวรุ่ง เพราะตำคนเดียว โดยวิธีโบราณทั้งการคั่วข้าวในกระทะด้วยไม้ฟืน การตำในครกตำข้าว ซึ่งจะได้ข้าวเม่าที่หอมคนชอบกิน ส่วนการเก็บข้าวก็ใช้แกระเก็บ ซึ่งเป็นการเก็บข้าวของชาวใต้ตั้งแต่สมัยโบราณ
อย่างไรก็ตาม สำหรับคนที่สนใจอยากสั่งข้าวเม่าคุณป้าดับ หรือยายดับ เป็นการส่งเสริมการปลูกข้าว สืบสานรักษาภูมิปัญญาท้องถิ่น สำหรับคนในพื้นที่สามารถอุดหนุนป้าทั้ง 2 ท่าน ติดต่อได้ที่เบอร์โทร 083-1763352
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: