X

เกษตรกรเลี้ยงกุ้งเดือดร้อนหนัก ราคากุ้งตกต่ำ รอรัฐช่วยเหลือ จี้ยกเลิกการนำเข้าจากตปท.

ตรัง-เกษตรกรเลี้ยงกุ้งรอความช่วยเหลือจากภาครัฐหลังราคายังตกต่ำอย่างหนัก เชื่อสาเหตุเกิดจากการนำเข้ากุ้งจากต่างประเทศ วอนรัฐยกเลิกการนำเข้า  แม้จะออกมาเคลื่อนไหวพร้อมกันหลายจังหวัดตั้งแต่ปลายเดือนที่ผ่านมา  แต่ความช่วยเหลือยังล่าช้า และการส่งเสริมการเลี้ยงเป้าหมาย 400,000 ตันในปีนี้  กับราคาที่ตกต่ำ  อาจทำให้เกษตรกรล้มหายไปจากสารบบอีกนับไม่ถ้วน

นายเจริญ หยงสตาร์ เกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้ง ในพื้นที่ ต.สุโส๊ะ อ.ปะเหลียน จ.ตรัง  นำดูคนงานจากแพเข้าจับกุ้ง ขนาด 82 ตัว/กก.ในราคากก.ละ 105 บาท ซึ่งเป็นราคาที่ต่ำกว่าทุน ซึ่งปกติกุ้งขนาดดังกล่าวจะขายได้ราคาประมาณกก.ละ 140 บาท  ซึ่งก่อนหน้านี้ก็ได้ทำการจับกุ้งขายไปแล้วจำนวน 5 บ่อ รวมทั้งหมด 6 บ่อ ปริมาณกุ้งทั้งหมดรวมประมาณ 5 ตัน เฉลี่ยขาดทุนไปกก.ละ 40-50 บาท  คิดเป็นเงินนับล้านบาท  แม้ราคาเป็นอย่างนี้แต่ก็ต้องเร่งจับ เพราะลดภาวะขาดทุน เพราะราคาก็ยังไม่ดีขึ้น  ประกอบกับขณะเป็นช่วงที่สภาพอากาศอากาศเปลี่ยนแปลงจากฤดูร้อนเป็นฤดูฝน ทำให้เสี่ยงที่กุ้งจะเกิดโรค ยิ่งต้องเผชิญกับภาวการณ์เลี้ยงที่ยากมากที่สุดของเกษตรกร

 

ทั้งนี้ หลังจากเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งช่วยกันออกมาเรียกร้อง ทางคณะกรรมการบริหารจัดการห่วงโซ่การผลิตกุ้งทะเลและผลิตภัณฑ์ หรือ ชริมพ์บอร์ด (Shrimp Board) คุยกับกรมการค้าภายในบอกว่าจะเร่งช่วยเหลือ เหมือนโครงการปี 2564 ในการชดเชยส่วนต่างกก.ละ 20 บาท   แต่คาดว่าจะสามารถดำเนินการได้จริง คงจะประมาณเดือนกรกฎาคม เนื่องจากขั้นตอน.แต่กุ้งที่เลี้ยงไว้หากถึงกำหนด 3 เดือน ก็ต้องจับขาย หากฝืนเลี้ยงต่อไปรอมาตรการช่วยเหลือจะยิ่งทำให้ขาดทุนหนัก ทั้งนี้ รัฐควรจะเร่งดำเนินการให้เร็วที่สุด ทั้งด้านราคา และลดต้นทุนการผลิต ทั้งอาหาร วัสดุอุปกรณ์ที่ต้องใช้กับบ่อกุ้ง เวชภัณฑ์ต่างๆ รวมทั้งค่าพลังงาน ก๊าซ และไฟฟ้า  ซึ่งเกษตรกรเลี้ยงกุ้งทั่วประเทศรวมประมาณ 35 จังหวัด ต้องประสบกับปัญหาต้นทุนการผลิตที่เพิ่มสูงขึ้น นับตั้งแต่เกิดสงครามรัสเซีย-ยูเครนเช่นกัน ทั้งค่าอาหารที่แพงขึ้น ค่าก๊าซ  น้ำมัน  รวมทั้งค่าไฟ ส่งผลทำให้ต้นทุนการผลิตเพิ่มขึ้นสูงกว่า 20 -30 %

ทางด้านนางสาวศิษฎศรี  หยงสตาร์   เจ้าของร้าน “ วังศิลาเคมีภัณฑ์” อ.ปะเหลียน  ซึ่งจำหน่ายอาหาร วัสดุ และเวชภัณฑ์ และเคมีภัณฑ์ สำหรับการเลี้ยงกุ้งรายใหญ่ใน จ.ตรัง   บอกว่า สินค้าทุกชนิดที่จำเป็นต่อการเลี้ยงกุ้ง ทั้งอาหาร เคมีภัณฑ์  เวชภัณฑ์  วัสดุอุปกรณ์เตรียมบ่อทุกอย่าง ต่างพากันปรับราคาขึ้นมาตลอดตั้งแต่ปี  2565 แต่ขณะนี้ บางชนิดปรับราคามาบ้างเล็กน้อย ตามค่าเงินบาท และภาวะราคาน้ำมันโลก แต่ราคายังสูง และแนวโน้มราคาปัจจัยเหล่านี้ขึ้นอยู่กับราคากุ้ง ถ้าราคากุ้งดีแม้ต้นทุนจะเพิ่มขึ้น แต่คนเลี้ยงก็พอรับได้ แต่ถ้าราคากุ้งตกต่ำอย่างนี้  และต้องมาเจอกับสภาวะอากาศที่กำลังเปลี่ยนแปลงจากหน้าร้อนเป็นหน้าฝน ทั้งร้อนกลางวันสลับฝนตก เป็นช่วงที่กุ้งเลี้ยงยากที่สุด ยิ่งเสี่ยงโรคเพิ่มขึ้น   รัฐควรช่วยเรื่องราคา สนับสนุนเรื่องการส่งออก ไม่ควรนำเข้ามาตีกุ้งในประเทศ เพราะในประเทศเราก็มีผลผลิตกุ้งเพียงพอ อยากให้รัฐเร่งแก้ไขปัญหา เพราะผู้เลี้ยงเสี่ยงมาก อยู่กับสิ่งมีชีวิตเป็นล้านๆตัวในน้ำ

– จังหวัดตรัง เป็นจังหวัดที่ผลิตกุ้งทะเลได้มากเป็นอันดับที่ 3 ของประเทศ รองจาก จ.จันทบุรี และสุราษฏร์ธานี  มีพื้นที่การเลี้ยง 8,600 ไร่  เกษตรกร 503 ราย  รวม 2,400 บ่อ ผลิตกุ้งได้  25,000 ตัน /ปี   โดยในปี 2565 ผลิตได้ประมาณ 20,113 ตัน  และในปี 2566 ระหว่างเดือนมกราคม – เมษายน 2566 มีผลผลิตประมาณ 6,000 ตัน  ขณะที่ Shrimp Board  จัดทำแผนการฟื้นฟูผลผลิตกุ้งทะเล โดยในปี  65 มีเป้าหมาย 320,000  ตัน และปี 66  มีเป้าหมาย 400,000 ตัน ภายใต้แนวทางการฟื้นฟูผลผลิตกุ้งทะเลของประเทศไทย  แต่ขณะนี้ต้องมาประสบปัญหาวิกฤติด้านราคา  ทำให้ทุกคนวิตกกังวล หากรัฐไม่มีแนวทางที่ชัดเจนเชื่ออาจทำให้เกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้ง อาจต้องกระทบเลิกเลี้ยงไปจำนวนมากปลายปีนี้

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน