X

สัมภาษณ์พิเศษ จากใจคนฉากหลัง “สมชาย โล่สถาพรพิพิธ”บ้านใหญ่ตรังหลังใหม่ มองผลเลือกตั้ง ปชป.ต้องรีแบรนด์

สัมภาษณ์พิเศษ : จากใจคนฉากหลัง “โกหนอ-สมชาย โล่สถาพรพิพิธ” บ้านใหญ่ตรังหลังใหม่ มองผลเลือกตั้ง ปชป.ต้องรีแบรนด์ “ดีแต่พูด-ด่าคนอื่น” ใช้ไม่ได้แล้ว

“ผมมองว่าปชป.ต้องรีแบรนด์ใหม่ทั้งหมด จะเอาแต่ด่าคนอื่น เอาดีใส่ตัว เอาชั่วให้คนอื่นคงไม่ได้แล้ว ต้องปรับแนวทางใหม่ทั้งหมด ยิ่งด่ายิ่งเละ ถ้าดีแต่พูดมันคงไปไม่รอด เพราะบริบททางการเมืองเดี๋ยวนี้มันเปลี่ยนใหม่ หลังจากที่ คสช.ยึดอำนาจมา 8 ปี มันเปลี่ยนไปหมดแล้ว มีคนรุ่นใหม่เกิดขึ้นเยอะ ควรจะไปในรูปแบบของออนไลน์มากกว่า”

ภายใต้ความพ่ายแพ้ในภาพรวมสมรภูมิเลือกตั้งของ “พรรคประชาธิปัตย์” ที่ได้มาเพียง 24 ที่นั่ง ได้ปรากฏภาพการก่อตัวของขุมกำลังใหม่ภายในพรรคในสายภาคใต้อย่างแข็งแกร่ง จากกระแสข่าว “ดีลลับ” ร่วมรัฐบาล จากกลุ่ม “16ส.ส.” นำโดย “เฉลิมชัย ศรีอ่อน” เลขาธิการพรรค “นายกฯชาย-เดชอิศม์ ขาวทอง” รองหัวหน้าพรรคภาคใต้ และ “ชัยชนะ เดชเดโช” รองเลขาธิการพรรค ว่าดอดเอาตัวเลขส.ส.ในสังกัด 16 คน ไปเจรจาต่อรองร่วมรัฐบาล กับ “พรรคก้าวไกล” รวมถึง “พรรคเพื่อไทย” และ “พรรคภูมิใจไทย”

เมื่อข่าวลือหนาหูขึ้น ผู้มีชื่อในกระแสข่าวทุกคนออกมาปฏิเสธกันพัลวัน ขอให้รอที่ประชุมรักษาการกรรมการบริหารพรรคที่จะกำหนดวันประชุมใหญ่วิสามัญเพื่อเลือกกรรมการบริหารพรรค หัวหน้าพรรค เลขาฯพรรคชุดใหม่ก่อนภายหลัง “จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์” แสดงสปิริตลาออกจากหัวหน้าพรรค เพื่อรับผิดชอบผลการเลือกตั้งที่ตกต่ำของพรรค

ทว่าในความ “พ่ายแพ้” ของปชป.ครั้งนี้ มีกลิ่นอายของ “ชัยชนะ” ซ่อนอยู่ หมายถึงชัยชนะแห่งการช่วงชิงอำนาจภายในพรรคที่สะท้อนผ่านการกำเนิด “มุ้ง” ของว่าที่ส.ส. 16 คน จากการซุ้มของ “เฉลิมชัย” ในพื้นที่ประจวบคีรีขันธ์  “ชัยชนะ” ในนครศรีธรรมราช โดยเฉพาะ “นายกฯชาย” ที่กุมกำลังสร้างผลงานโบว์แดงปกป้องฐานที่มั่น ทั้งพื้นที่สงขลา ตรัง และหลายพื้นที่ของภาคใต้ไว้ได้

ขุมกำลังใหม่นี้ มีความหมาย เพราะเป็นภาพการโตวันโตคืนของขั้วอำนาจที่แท้จริงในปัจจุบัน ภายหลังเกิดภาวะ “เลือดไหล” คนเก่าคนแก่ปชป.ทยอยออกจากพรรคไปแล้วมากมาย

การเปลี่ยนถ่ายอำนาจ ไม่ได้เกิดเฉพาะในพรรค แต่เกิดทั่วภาคใต้ โดยเฉพาะพื้นที่ที่เคยมี “บ้านใหญ่” เดิม ได้ถูก “ปิดสวิตซ์-ปฏิวัติเงียบ” เปลี่ยนอำนาจใหม่ไปด้วยเช่นกัน เช่น “ตรัง” บ้านเกิดของ “ชวน หลีกภัย” ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคปชป.

ส.ส.ปชป.ตรังที่ได้มาเพียง 2 คน คือ “สุณัฐชา โล่สถาพรพิพิธ” เขต 3 และ “กาญจน์ ตั้งปอง” เขต 4 ซึ่งได้แรงหนุนจาก “บ้านโล่สถาพรพิพิธ” ให้ลงสมัครแทนที่ “สมบูรณ์ อุทัยเวียนกุล” เด็กนายชวน จากทั้งหมด 4 ที่นั่ง ขณะที่ต้องเสียเขต 1 ให้กับ “ถนอมพงศ์ หลีกภัย” ผู้มีศักดิ์เป็นหลานนายหัวชวน แต่ลงพรรครวมไทยสร้างชาติ และเสียเขต 2 ให้กับ “ทวี สุระบาล” จากพรรคพลังประชารัฐ ที่โค่นแชมป์เก่า “สาทิตย์ วงศ์หนองเตย” อดีตส.ส.ปชป.หลายสมัยแบบทิ้งขาดลอย

หากมองลึกลงในรายละเอียดจะพบว่า หลังการเลือกตั้งครั้งนี้ ได้เกิดการเปลี่ยนขั้วอำนาจของบ้านใหญ่ใน จ.ตรัง จากบ้าน “หลีกภัย” มาที่บ้าน “โล่สถาพรพิพิธ” แทน โดยฐานอำนาจเดิมของ “บ้านโล่ฯ” อยู่ที่เขต 3 พื้นที่ของ “สุณัฐชา” บุตรสาวของ “โกหนอ-สมชาย โล่สถาพรพิพิธ” อดีตส.ส.ปชป.ตรังหลายสมัย ผู้มากบารมีตัวจริง ที่มีความคุ้นเคยกับทั้ง “เฉลิมชัย” “ชัยชนะ” โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับ “นายกฯชาย” เลือกตั้งครั้งนี้ “โกหนอ” มีอิทธิพลบทบาทวางหมากคุมเกมสู้ศึกเลือกตั้งให้กับกลุ่มปชป.ใต้โดยเฉพาะ จ.ตรัง อย่างเฉียบคม ด้วยประสบการณ์ช่ำชองการเมือง ในทุกแนบรบ ดิน-น้ำ-อากาศ

แม้จะได้เพียง 2 เขต จาก 4 เขตของตรัง แต่ไม่เป็นปัญหา เพราะ “โกหนอ” ยังมีคอนเน็กชั่นต่อติดได้กับ “ทวี” เพื่อนเก่าที่เคยไปช่วยเวที “คนไม่เอาสาทิตย์” กันมา รวมถึง “กำนันผู้มากบารมี” ผู้ให้การสนับสนุน “ถนอมพงศ์” จน “นายหัวชวน” ต้องออกมาพูดถึงด้วย

หลังผลการเลือกตั้ง ท่ามกลางสปอทไลท์การเมือง ที่สาดส่องย้ายมุมมายัง “บ้านใหญ่” อ.ย่านตาขาวตรัง “โกหนอ” เปิดใจบอกเล่าในทุกคำถาม ทั้งฉากหน้า และหลังม่านการเมือง

@มีข่าวว่าทางปชป.ดีลกับก้าวไกลในการร่วมจัดตั้งรัฐบาล
โกหนอ : จริงๆ ผมไม่ได้มีตำแหน่งอะไรในพรรค ไม่ได้มีบทบาทในกำหนดทิศทางของปชป.ว่าจะไปร่วมกับใครหรือไม่อย่างไร แต่ในฐานะที่เป็นหัวคะแนน เป็นอดีตส.ส.ปชป.ตรัง ที่ได้ดูแลเขต 3 และ 4 จนประสบความสำเร็จ ก็ต้องถือโอกาสขอบคุณประชาชนในทั้ง 2 เขต แต่ในเรื่องของพรรคที่มีส.ส.24 เสียง จะไปเข้าร่วมกับพรรคก้าวไกลเพื่อยกมือสนับสนุนโหวตนายกฯหรือไม่นั้น เป็นเรื่องของกรรมการบริหารพรรค ซึ่งจะมีการประชุมเลือกกันใหม่ในวันที่ 24 พ.ค.นี้ แต่โดยส่วนตัวคิดว่าเป็นไปได้ยาก เพราะปชป.ได้หาเสียงว่าจะเทิดทูนชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ หากก้าวไกลจะแก้ไขหรือยกเลิกมาตรา 112 ผมคิดว่าเป็นไปได้ยาก เพราะปชป.ยืนหยัดมาแบบนี้ตลอด

ผมว่าก้าวไกลตั้งไม่ได้ เพราะติดเรื่องแก้ไขมาตรา 112 ต้องออกมาแถลงให้ชัด ซึ่งต้องเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ เมื่อพรรคลำดับที่ 1 ตั้งไม่ได้ ก็ต้องเป็นพรรคที่ 2 ขึ้นไปจัด ไม่ใช่ว่าที่ 1 จัดไม่ได้แล้วจะต้องจัดอยู่อย่างนั้น เพราะต้องได้ 376 เสียง ไม่ใช่จะไปร้องห่มร้องไห้หาคนมาช่วยยก แต่เป็นหน้าที่ของคุณที่ต้องไปหามาให้ครบ ไม่ว่าจะจากพรรคการเมืองก็ดี หรือ จากส.ว.ก็ดี 2-3 วันนี้ได้ข่าวว่าไปประท้วงที่สภาอีก ก็เหมือนไปกดดันเขานะ กดดันเขาไม่ได้ ต้องพูดกันดีๆ ให้เข้าใจกัน
.
@กระแสของผู้สนับสนุนพรรคอยากให้ปชป.ไปจับขั้วรัฐบาลหรือหรือให้เป็นฝ่ายค้าน
โกหนอ : ส่วนใหญ่คนปชป.ไม่อยากให้ร่วมกับพรรคที่แก้ไขมาตรา 112 แต่กระแสสังคมจะเรียกร้อง กระแสสังคมที่ว่านั้นมาจากหลายฝ่าย ต้องขึ้นอยู่กับกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่จะเลือกหรือตัดสินใจอย่างไร เรื่องนี้ต้องรอบคอบ
.
@ในฐานะเพื่อน มองท่าทีของนายเฉลิมชัยอย่างไร
โกหนอ : นายเฉลิมชัยก็ต้องออกนะตามสัญญาประชาคมที่ได้ให้ไว้ ว่าหากได้ที่นั่งส.ส.น้อยกว่าเดิมจะเลิกเล่นการเมือง ผมคิดว่านายเฉลิมชัยมารับตำแหน่งอะไรไม่ได้ ทั้งตำแหน่งในพรรคและตำแหน่งในรัฐบาล แต่ต้องยอมรับความจริงที่ว่านายเฉลิมชัยยังต้องดูแลสมาชิกพรรคอยู่ โดยความความผูกพันหรือเหตุผลอีกหลายๆ อย่าง เขาก็ต้องดูแลอยู่ และคิดว่ายังนายเฉลิมชัยยังคงมีบทบาทในพรรคอยู่ ถึงแม้จะไม่มีตำแหน่ง
.
@จากผลการเลือกตั้ง มองปชป.ในภาพรวม และปชป.ตรังในวันนี้อย่างไรในแง่ความนิยมประชาชน
โกหนอ : “ผมมองว่าปชป.ต้องรีแบรนด์ใหม่ทั้งหมด จะเอาแต่ด่าคนอื่น เอาดีใส่ตัว เอาชั่วให้คนอื่นคงไม่ได้แล้ว ต้องปรับแนวทางใหม่ทั้งหมด ยิ่งด่ายิ่งเละ ถ้าดีแต่พูดมันคงไปไม่รอด เพราะบริบททางการเมืองเดี๋ยวนี้มันเปลี่ยนใหม่ หลังจากที่ คสช.ยึดอำนาจมา 8 ปี มันเปลี่ยนไปหมดแล้ว มีคนรุ่นใหม่เกิดขึ้นเยอะ ควรจะไปในรูปแบบของออนไลน์มากกว่า”
.
@ทำไมเขต 3-4 ตรัง ที่คุณสมชายดูแลอยู่ จึงยังรักษาฐานที่มั่นไว้และได้เพิ่มมาได้
โกหนอ : เราก็เหนื่อยนะ เขต 3 และ 4 ที่ผมดูแลและเป็นหัวคะแนนให้ แต่เราก็รอดผ่านมาได้ ก็ด้วยความสนิทสนม ความคุ้นเคย ความผูกพันกับผู้นำองค์กรต่างๆ เช่น ผู้นำท้องที่ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน นายกฯอบต.ต่างๆ ซึ่งได้ช่วยกันพาให้ผ่านพ้นมาได้

“ที่ผ่านมาผม นายกฯชาย และนายเฉลิมชัย ได้ใช้ระบบทำโพลเลือกว่าที่ผู้สมัครตรังเขต 4 พอได้นายกาญจน์มาแล้วตอนนั้นมีคนในพรรคพูดว่า ถ้าเลือกตั้งแล้วนายสมบูรณ์ ชนะ นายกาญจน์ ผมจะรับผิดชอบอย่างไร ผมว่าผมรับผิดชอบ ให้ทำอะไรบอกมาเลย แล้วผมก็ถามกลับว่า แล้วถ้าผลโพลออกมาว่านายสมบูรณ์แพ้นายกาญจน์ และน.พ.ตุลกานต์ มักคุ้น ผู้สมัครเขต 1 สอบตก แล้วใครจะรับผิดชอบ ก็เงียบกันหมด ไม่มีใครพูด” 
.
@ในอนาคตหากยังช่วยพรรคอยู่ เขต 1 และ 2 จะส่งผู้สมัครลงไปแย่งเก้าอี้ส.ส.กลับมาเป็นของปชป.ไหม
โกหนอ : “ถ้าร่วมมือสามัคคีกันหมด จ.ตรังยังไปได้ แต่ตอนนี้ต้องยอมรับข้อเท็จจริงว่า มันแตกแยกกันจนเป็นช่องโหว่ เป็นรอยร้าวให้พรรคอื่นมาแทรกได้ ความไม่สามัคคีกันและเมื่อมีปัญหาระหว่างกัน ก็ไม่มีคนมาเคลียร์ หรือ มาประสานงาน ทำไมต้องมาแยกมาแย่งกัน ตัวอย่างเรื่องการเลือกตั้งนายกฯอบจ.ตรัง ทำไมผู้ใหญ่ไม่มาเคลียร์ สุดท้ายต้องมาแข่งกันจนก่อให้เกิดความแตกแยก ผมว่ามาจากจุดนี้สำคัญที่สุด”

ผมว่าเกิดจากความแตกแยกในตรัง แล้วไม่มีใครมารับผิดชอบดูแลหรือไกล่เกลี่ยเพื่อให้เป็นเนื้อเดียวกัน ปล่อยปัญหาให้คาราคาซังและขยายวงกว้างขึ้น เมื่อแต่ละเขตไม่ช่วยเหลือเกื้อหนุนกัน ความแตกแยกมาก ทำให้แต่ละคนโดดเดี่ยวโดนโจมดีได้ง่าย ซึ่งหากทุกคนเป็นเนื้อเดียวกันในตรังใครจะมาตีปชป.คงยาก และเราจะไม่เห็นแลนด์สไลด์ในเขต 2 ที่ส่งผลมาจากการเลือกตั้งนายกฯอบจ.ตรัง ต้องยอมรับความเป็นจริง มีใครจะคาดคิดว่าส.ส.7 สมัย(นายสาทิตย์) จะได้คะแนนเลือกตั้งแค่หมื่นกว่าคะแนน และคู่แข่งที่เคยได้แค่ 5,000 คะแนน(นายทวี) กลับมาได้คะแนนถึง 60,000 กว่าคะแนน จะเห็นได้ว่าอะไรก็เปลี่ยนแปลงหมด ฉะนั้นต่อไปเราจะดีแต่พูดไม่ได้แล้ว ต้องทำด้วย
.
@อย่างพรรคภูมิใจไทยพยายามเข้ามาเจาะตรังในเขต 1 และ 4 ด้วย ต้องสู้หนักไหม
โกหนอ : ภูมิใจไทยพยายามจะตอกเสาเข็ม แต่เสาเข็มหักหมดทั้ง 2 เขต แม้ผู้สมัครของเขาจะแข็งแกร่ง แต่เขตของเราก็แข็งแกร่งเหมือนกัน เพราะเรามีฐานระดับท้องถิ่นหนาแน่น

@ภูมิใจส่ง นายดิษฐ์ธนิน ภาคย์อิชณน์ ซึ่งเป็นหลานของคุณสมชายเองลงสมัครเขต 4 แต่ต้องแพ้อีก จะเพิ่มรอยร้าวระหว่างคุณสมชายกับหลานรวมถึงกับภูมิใจไทยไหม
โกหนอ : เรื่องความเห็นไม่ตรงกันกับหลาน ยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงนะ แต่รออาจจะมีโอกาสดีได้คุยกัน เพราะมันคงไปไม่ได้แล้ว แม้จะเป็นลูกหลาน แต่การเลือกตั้งรอบก่อน (ปี 2562 )เขาก็ได้มาแข่งกับน.ส.สุณัฐชา ในเขต 3 และการเลือกตั้งรอบนี้ ก็มาลงนามพรรคภูมิในใจในเขต 4 ผมว่าโอกาสดีๆ จะได้คุยกัน จริงๆ แล้วเขต 4 ตรัง เสียงของปชป.เองก็ไม่ค่อยจะดีเท่าไหร่ เพราะมีคนที่อยู่ฝั่งข้ามปชป.ค่อนข้างเยอะ

@จากผลการเลือกตั้งมองความนิยมต่อปชป.ลดลงหรือไม่
โกหนอ : ลดลงครับ ในอดีตคนจ.ตรังที่ไม่เลือกปชป.มีประมาณ 50,000 คน ไม่ว่าจะลงนายกฯอบจ. หรือ ส.ส.ก็แล้วแต่  แต่เดี่ยวนี้คนไม่เลือกปชป.มีมากถึง 2 แสนคน เมื่อก่อนคนเฒ่าคนแก่ในตรังจะโทรไปหาลูกหลานที่กทม.หรือต่างจังหวัด ว่าให้เลือกปชป. แต่ตอนนี้กลับกัน คนตรังที่อยู่กทม.กลับโทรมาบอกพ่อแม่พี่น้องว่าให้เลือกพรรคอื่น นี่คือความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นจริง ซึ่งบางคนยังไม่รู้ แต่นี่คือข้อเท็จจริง

@แล้วปชป.หลังจากนี้ต้องเปลี่ยนแปลงตัวเองอย่างไร
โกหนอ : ต้องเปลี่ยนแปลงเป็นอย่างมาก ทั้งระดับพรรคและระดับพื้นที่ ไม่อย่างนั้นก็ไม่รู้ว่าจะเหลืออีกกี่คน หรือจ.ตรัง อาจจะไม่เหลือที่นั่งเลยก็ได้ ถ้าหากยังอยู่แบบนี้ เขาบอกว่าเที่ยวนี้นโยบายเราทันสมัย แต่ในความรู้สึกของประชาชนไม่รู้เขาจะคิดว่าทันสมัยรึเปล่า แต่ในแนวทางปชป.ก็เป็นแบบนี้ตลอด นโยบายไม่ค่อยกินใจคน

หลังจากคุณจุรินทร์ลาออกและต้องตั้งหัวหน้าพรรค-กรรมการบริหารพรรคใหม่ เรื่องขั้วอาจจะเปลี่ยน ว่าใครเข้าไปกุมอำนาจมากก็ได้เป็นฝ่ายนั้น ซึ่งตัวเลือกก็มีหลายคน ขึ้นอยู่กับเสียงส่วนใหญ่ของเขา ผมไม่มีอำนาจอะไรจะไปเสนอ เป็นเรื่องของกรรมการบริหารในชุดรักษาการชุดเก่ากับชุดใหม่ที่ต้องเชื่อมต่อรอยต่อนี้ให้เข้ากัน เพื่อให้พรรคเดินไปข้างหน้าได้ ปชป.เราไม่หมดหวังไปเสียทีเดียว ผมเชื่ออย่างนั้น

@การหาหัวหน้าพรรคปชป.คนใหม่ ตอนนี้มีการพูดชื่อ มาดามเดียร์-น.ส.วทันยา วงษ์โอภาสี , ดร.เอ้-สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ หรือแม้แต่ ให้คุณนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ กลับมาฟื้นฟูพรรค
โกหนอ : คุณอภิสิทธิ์ คงไม่ใช่ ส่วนมาดามเดียร์ต้องยอมรับว่าเป็นคนเก่ง ซึ่งตอนนี้ยังไม่มีตัวเต็ง ตอนนี้บริบทการเมืองมันเปลี่ยนไปเรื่อย

@การปราศรัยในหลายๆ ครั้งของนายชวน พูดถึงกระแสเงินบุกภาคใต้ โดยเฉพาะที่ตรังที่มีทั้งเงินและอิทธิพลของกำนันคนดังที่ผลต่อคะแนนเลือกตั้ง
สมชาย : “มีผล แต่ไม่รู้ลบหรือบวก ก็ดูคะแนนที่ออกมาเอาเอง บางทีการว่าคนโน้นคนนี้ บางครั้งข้อเท็จจริงไม่ปรากฎ จึงไม่ทราบว่าเป็นบวกหรือลบ ผมจึงบอกว่าวันนี้ต้องรีแบรนด์ใหม่ ปรับปรุงใหม่”

@หลังเลือกตั้งได้คุณกับนายชวนบ้างหรือไม่ และ ได้คุยกับนายทวี ในฐานเพื่อนเก่าไหม
โกหนอ : กับนายชวนผมไม่ได้เจอท่านเลย ท่านคงมีภารกิจ  ส่วนคุณทวี เขาได้โทรศัพท์มาขอบคุณ ซึ่งผมว่าผมไม่ได้ช่วยอะไรคุณทวีเลย แต่โทรมาขอบคุณผมคนเดียว ซึ่งผมเริ่มต้นจากรวมพลคนไม่เอาสาทิตย์ แต่ตอนหลังผมก็ไม่ได้เข้าไปในเขต 2 เลยนะ แต่มันอาจจะเป็นผลพวงที่เกาะเกี่ยวกันมาตลอด

“รอบนี้ผมมีสายสัมพันธ์กับผู้นำท้องที่ผู้นำท้องถิ่นเยอะ หลายคนก็เข้ามาช่วยกัน ผมเป็นหัวคะแนนคนหนึ่ง อย่าไปว่าผมเป็นบ้านใหญ่หรือบ้านเล็กเลยครับ ผมพยายามทำหน้าที่ในฐานะที่เป็นอดีตส.ส.ประชาธิปัตย์ แต่ผมประกาศตลอดว่าจะสนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์ ประสบความสำเร็จ 2 เขตถือว่าดี แต่โอกาสหน้าถ้าจะเอาจริงๆต้องทำใหม่หมด”

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน