ตรัง- ชาวอ.หาดสำราญ จ.ตรัง ผลิตแตงโมคุณภาพดี ปลอดภัย ป้อนตลาดสามจังหวัดชายแดนใต้ มาเลเซีย และสิงคโปร์โกยรายได้เข้าชุมชนเป็นกอบเป็นกำ คาดปีนี้ไม่ต่ำกว่า 100 ตัน รายได้แต่ละรายประมาณ 2 แสนถึงนับล้านบาทขึ้นอยู่กับจำนวนพื้นที่ปลูก ผลผลิตต่อไร่สูง โดยปราชญ์ชาวบ้านช่วยเหลือให้ความรู้เกษตรกร ร่วมวิเคราะห์ค่าดิน น้ำ สร้างผลผลิตปลอดภัย ด้านพ่อค้าคนกลาง ระบุสาเหตุที่แตงโมหาดสำราญเป็นที่ต้องการของตลาดประเทศเพื่อนบ้านสั่งจองทุกปี เนื่องจากแตงโมหาดสำราญผลใหญ่ เนื้อแน่น น้ำหนักดี รสชาติหวานกรอบอร่อย ตรงกับความต้องการของมาเลเซียและสิงคโปร์ ประกอบกับขณะนี้มีการเปิดประเทศทำให้มีนักท่องเที่ยวเข้ามาจำนวนมาก กระตุ้นยอดขายอย่างดี
ที่ตำบลหาดสำราญ อำเภอหาดสำราญ จังหวัดตรัง ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีชื่อเสียงเรื่องแตงโมหวาน และเป็นแหล่งปลูกแตงโมใหญ่สุดในจังหวัดตรัง เพราะอยู่ติดชายฝั่งทะเล พื้นที่ปลูกร่วม 400 ไร่ ในหนึ่งปีจะปลูกได้ 3-4 รอบ ซึ่งแต่ละรอบเกษตรกรจะมีรายได้หลักแสนถึงหลักล้าน เพราะแตงโมที่อำเภอหาดสำราญ เป็นสินค้าส่งออกไปขายต่างประเทศ ได้แก่ มาเลเซีย สิงคโปร์ และส่งขายใน3จังหวัดภายแดนภาคใต้ ซึ่งเกษตรกรปลูกแตงโมหาดสำราญยึดเป็นอาชีพมานานหลายสิบปีแล้ว เนื่องจากมีสภาพพื้นที่เหมาะสม เพราะเป็นดินทรายแดงอุ้มน้ำได้ดี มีแหล่งน้ำจืดเพียงพอ
โดยในวันนี้เป็นอีกวันหนึ่งที่มีการระดมทีมเก็บแตงโม ซึ่งเป็นลูกหลานเยาวชนและประชาชนในพื้นที่ประมาณ 20 คน ลงแปลงเร่งเก็บผลผลิตที่กำลังสุก เพื่อขายให้พ่อค้าคนกลางที่เดินทางนำรถมาจอดรอรับผลผลิต เป้าหมายเพื่อส่งต่อไปขายในต่างประเทศคือ มาเลเซีย สิงคโปร์ และ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพราะแตงโมหาดสำราญถือเป็นแหล่งที่ขึ้นชื่อมายาวนานต่อเนื่อง ทำให้เกษตรกรยึดเป็นอาชีพหลัก สร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำ โดยมีปราชญ์ชาวบ้านซึ่งเป็นเจ้าของร้านจำหน่ายปุ๋ยในพื้นที่คอยเป็นพี่เลี้ยง นำดินและน้ำ ไปตรวจวิเคราะห์หาแร่ธาตุ และให้คำแนะนำในการปลูก เพื่อให้ได้ผลผลิตที่มีคุณภาพ และปลอดภัย สามารถผลิตเป็นสินค้าส่งออกของอำเภอหาดสำราญมาอย่างต่อเนื่อง
นายเขียน ปราบเสร็จ (เสื้อลายสก๊อต สวมหมวก มีหนวด คนแรกไฟล์ 2 ) อายุ 46 ปี กล่าวว่า ตนปลูกแตงโมหลายแปลง รวมทั้งหมดประมาณ 20 ไร่ ได้ผลผลิตประมาณ 4 ตันต่อไร่ ราคาขายกก.ละ 14-16 บาท คิดเป็นรายได้ประมาณ 1 ล้าน 2 แสนบาท สำหรับแปลงที่กำลังเก็บผลผลิตวันนี้ เนื้อที่ 2 ไร่เศษ ราคากก.ละ 15 บาท คาดว่าจะได้ประมาณ 1.3 แสนบาท ซึ่งถือว่าเป็นรายได้ที่ดีมาก ทำเกษตรกรผู้ปลูกยิ้มได้ทุกราย ซึ่งจะมีพ่อค้ามารับถึงที่จะส่งไปขายต่างประเทศ คือ มาเลเซีย สิงคโปร์ รวมทั้งพื้นที่สามจังหวัดชายแดนใต้ ซึ่งเป็นแบบนี้ทุกปี ต่างชาตินิยมแตงโมที่นี่เพราะลูกขนาดใหญ่ ทรงตอปิโด น้ำหนักประมาณลูกละ 6-8 กก. มีรสชาติหวานกรอบ เนื้อละเอียด โดยจะปลูก 2 สายพันธุ์ คือ พันธุ์เมญ่า และ พันธ์วันนา การปลูกแตงโมถือเป็นอาชีพหลักของชาวหาดสำราญ สำหรับตนยึดอาชีพนี้มา 10 ปีแล้ว ปีนี้ถือว่าราคาดีมากราคาหน้าสวนอยู่ที่กิโลกรัมละ 14-16 บาท
นายเชิดชัย กุลตัน (เสื้อสีเหลือง) อายุ 36 ปี กล่าวว่า ยึดอาชีพปลูกแตงโมขายเป็นอาชีพหลักมาประมาณ 7 ปีแล้ว ปีนี้ตนเองปลูกแตงโมทั้งหมด 37 ไร่ โดยตัดขายไปแล้ว 1 แปลง น้ำหนัก 12 ตัน เป็นเงินประมาณ 160,000 บาท พื้นที่หาดสำราญปลูกแตงโมได้ทั้งปี ปีนี้ตนปลูกจำนวน 4 รอบ ปีนี้ขายได้ราคาดีกว่าปีก่อนที่ราคาจะอยู่ที่กิโลกรัมละ 10 บาท แต่ตอนนี้ขายได้กิโลละ 15 บาท ซึ่งมีพ่อค้ามารับถึงที่เพื่อส่งขายสามจังหวัดชายแดนใต้ และส่งประเทศมาเลเซีย สิงคโปร์ ซึ่งตอนนี้มีแตงโมอีก 30 ไร่ ที่รอเก็บขายในรอบถัดไป คาดคะเนว่าจะได้ผลผลิตสูงถึง 30-40 ตัน
ด้านนายณรงค์ชัย ชูเพ็ง (เสื้อสีแดง หาดสำราญสวมแว่น ) ซึ่งเป็นเจ้าของร้านจำหน่ายปุ๋ยรายใหญ่ในพื้นที่อำเภอหาดสำราญ และเป็นปราชญ์ชาวบ้านในการทำเกษตร และผลิตปุ๋ยอินทรีย์ กล่าวว่า ตนเองในฐานะที่มีความรู้ด้านเคมีภัณฑ์ และทำปุ๋ยอินทรีย์ทั้งใช้เองและจำหน่าย จะเข้ามาช่วยเหลือเกษตรกรโดยการหาข้อมูลมาส่งเสริมเกษตรกร ให้ได้เพิ่มผลผลิตมากขึ้น ให้ผลิตแตงโมคุณภาพ ปลอดภัย ให้คำแนะนำในใส่ปุ๋ยอินทรีย์ ในการเก็บตัวอย่างดิน และน้ำ ไปตรวจวิเคราะห์ เพื่อหาแร่ธาตุอาหาร ในพื้นที่หาดสำราญมีพื้นที่ปลูกแตงทั้งหมด 400-500 ไร่ เชื่อว่าไม่ต่ำกว่า 100 ตัน เม็ดเงินสะพัดเข้าพื้นที่จำนวนมาก เพราะผลผลิตปีนี้ถือว่าดีมาก ราคาดี เพราะสามารถส่งออกไปต่างประเทศได้ตามปกติ เพราะก่อนหน้านี้ติดสถานการณ์โควิด19 จึงขายส่งออกไม่ได้ทำราคาตกต่ำ แต่ปีนี้สถานการณ์กลับมาปกติโอกาสที่ดีให้เกษตรกรมีรายได้ที่เพิ่มขึ้น เพียงแค่ 2-3 ไร่ก็ทำเงินได้แล้ว เพราะผลผลิตต่อไร่ก็สูงถึง 4 ตัน ขายกิโลกรัม 15 บาท หรือราคาต่อหนึ่งคันรถกระบะแบบติดรั้วประมาณ 60,000 บาท ซึ่งพื้นที่ประมาณ 2 ไร่ ก็สามารถทำรายได้เกือบ 2 แสนบาท ซึ่งการปลูกแตงโมเป็นการสร้างงาน สร้างรายได้ในคนในท้องถิ่นด้วย ทั้งเกษตรกร การรับจ้างเก็บแตงโม หาบแตงโม ที่คิดค่าจ้างกันกันที่ 60 สตางค์ต่อกิโล ทำให้เด็ก เยาวชนและประชาชนมีรายได้เลี้ยงครอบครัว ซึ่งหาดสำราญเป็นพื้นที่ของดินทราย ร่วนซุย แต่อุ้มน้ำได้ดี มีแร่ธาตุที่เหมาะสม แหล่งน้ำจืดที่มีคุณภาพ มีค่าความเป็นกรดด่างที่เหมาะสม ทำให้แตงโมมีรสชาติดี หวาน กรอบ อร่อย โดยแตงโมที่หาดสำราญตนเองนำจุลินทรีย์มาให้เกษตรกรใช้ด้วย เพื่อลดการใช้สารเคมี ทำให้ได้ผลผลิตที่คุณภาพ ปลอดภัย แตงโมหาดสำราญจะเป็นทรงตอปิโดทั้งหมด เป็นที่นิยมของลูกค้าใน 3 จังหวัดชายได้แดนภาคใต้
นายรภัทเดช แสนแจ่มใส (มีหนวดเครา สวมหมวก ) พ่อค้ารับซื้อแตงโม อายุ 34 ปี ชาวจ.นครศรีธรรมราช บอกว่า ตนมารับซื้อเพื่อส่งออกไปยังประเทศมาเลเซีย และสิงคโปร์ ซึ่งต่างประเทศนิยมรับประทานแตงโมผลใหญ่ น้ำหลักลูกละตั้งแต่ 4-6 กิโลกรัมขึ้นไป มีรูปทรงรีหรือทรงตอปิโดจะเป็นที่ต้องการ ประกอบกับรสชาติของแตงโมหาดสำราญมีชื่อเสียงอยู่แล้ว เรื่องความหวาน เนื้อแน่น กรอบอร่อย นอกจากนี้ตนยังส่งขายในโซนภาคใต้ทั้งหมด ไล่ตั้งแต่ชุมพร จนถึงจังหวัดชายแดนภาคใต้ หลังจากนี้จะมีออเดอร์จาก 3 จังหวัดชายแดนเข้ามาเยอะ เพราะเข้าสู่เดือนถือศีลอดของพี่น้องมุสลิม นอกจากนี้ยังส่งไปขายในเมืองท่องเที่ยวด้วย ประกอบกับขณะนี้มีการเปิดด่าน เปิดประเทศทำให้มีนักท่องเที่ยวเข้ามาจำนวนมาก ออเดอร์แตงโมหาดสำราญจึงเข้ามาจำนวนมาก ช่วงนี้เป็นช่วงต้นฤดูกาลของแตงโมหาดสำราญ ตนได้มารับซื้อไปแล้ว 25 ตัน ทั้งหมดส่งไปมาเลเซีย สิงคโปร์ ปีนี้ถือว่าราคาดีมาก ถือว่าเป็นโอกาสที่ดีของเกษตรกรที่ได้ขายแตงโมราคาดี ซึ่งแตงโมที่หาดสำราญเป็นที่รู้จักในโซนภาคใต้ และแม่ค้าพ่อค้าจะทราบกันว่าแตงโมที่นี่มีผลขนาดใหญ่ มีคุณภาพ ตนมาซื้อแตงโมที่นี่ติดต่อกันเป็นปีที่ 3 แล้ว เป็นที่ต้องการของตลาด
ด้านนายสมพงษ์ ประภากรกุล (สวมเสื้อสีเหลือง เขียวด้านใน) นายกอบต.หาดสำราญ บอกว่า พื้นที่หาดสำราญมีการปลูกแตงโมกันมานานแล้ว เติมทีหาดสำราญมีพื้นที่ปลูกข้าวแต่เมื่อในอดีตราคาข้าวตกต่ำ เกษตรกรจึงหันมาปลูกแตงโมแทนหลังฤดูเก็บเกี่ยวเป็นรายได้เสริม และต่อมาได้ยึดเป็นอาชีพหลักจนถึงปัจจุบัน ซึ่งแตงโมที่นี้เป็นที่รู้จักของชาวจังหวัดตรัง และจังหวัดใกล้เคียง รวมทั้งสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ปัจจุบันมีพื้นที่ปลูกแตงโม 400 ไร่ ด้วยปัจจัยของสภาพพื้นที่ทำให้แตงโมหาดสำราญหวาน กรอบ อร่อย สีแดงสวย ซึ่งตนในฐานะผู้นำท้องถิ่นอยากส่งเสริมให้กลุ่มอาชีพต่างๆรวมตัวกัน จัดตั้งเป็นวิสาหกิจชุมชน ในอนาคตจะเข้ามาส่งเสริมในด้านต่างๆ เพราะการปลูกแตงโมได้สร้างงานให้กับคนในชุมชนด้วย เช่น การจ้างเก็บแตงโม ที่จะคิดค่าจ้างกันที่กิโลกรัมละ 60-80 สตางค์
