ตรัง ยังไม่จบ! เขต 1 เพื่อไทยตรัง ศึกชิงว่าที่ผู้สมัครจาก 3 ให้เหลือ 1 รัตน์-ปกิต จี้พรรคทำโพลยุติปัญหา หวั่นประชาชนเกิดความสับสน
อายุของสภาผู้แทนราษฎรกำลังจะสิ้นสุดลง อีกไม่กี่วันข้างหน้า ซึ่งคาดว่าจัดการเลือกตั้งตามปฏิทิน กกต. 7 พ.ค.เป็นวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรฯ ทางพรรคการเมืองต่าง ๆ ได้มีการคัดสรรผู้สมัครลงชิงเลือกตั้ง แต่ละเขตเลือกตั้ง พร้อมขึ้นป้ายชูนโยบายของพรรค ทั่วทั้งประเทศ แม้แต่พื้นที่จังหวัดตรัง โดยเฉพาะพื้นที่เขตเลือกตั้งที่ 1 ตรัง มีการขึ้นป้ายว่าที่ผู้สมัครและป้ายนโยบายพรรคเป็นจำนวนมาก ในขณะที่ว่าที่ผู้สมัคร สส.ตรัง เขต 1 พรรคเพื่อไทย มีผู้สมัครสังกัดพรรคเพื่อไทย ขึ้นป้ายว่าที่ผู้สมัคร สส.พรรคเพื่อไทย มากถึง 3 คน คือ 1.นายรัตน์ ภูกล่าง, 2.นายปกิต ยอดสนิท และ 3.ทพญ.สรวีย์ ภัทรอิสริยาไชย ต่างก็ขึ้นป้ายว่าที่ผู้สมัคร สส.ตรัง เขต 1 พรรคเพื่อไทยเช่นกัน ทำให้ประชาชนที่สนับสนุนพรรคเพื่อไทยและกองเชียร์ของผู้สมัครแต่ละคนเกิดความลังเลและสับสน
ซึ่งจากกรณีดังกล่าว นายรัตน์ ภู่กลาง ว่าที่ผู้สมัคร สส.ตรัง เขต 1 พรรคเพื่อไทย บอกว่า จากกรณีที่ ว่าที่ผู้สมัคร สส.ตรัง เขต 1 พรรคเพื่อไทย มีผู้สมัครมากกว่า 1 คน นั้น ซึ่งตอนนี้ตอนลงหาเสียงจะมีปัญหากับชาวบ้าน เขาสงสัยว่าทำไมมี 2 คน คือ มี หมอน้ำหวาน (ทพญ.สรวีย์ ภัทรอิสริยาไชย) และ นายรัตน์ ภู่กลาง ตนเองก็บอกว่าทางพรรคเพื่อไทยให้ไปหาคะแนนนิยมมาแล้วก็มีการเปรียบเทียบว่า ใครมีศักยภาพสูงกว่า จนถึงบัดนี้เวลาเขามาใกล้เข้ามาแล้ว ผมอยากให้พรรคฯ มั่นใจว่าคนหนึ่งคนใด 1 ใน 2 คนนี้จะได้รับคัดเลือก ซึ่งตนเองมองว่าทางออกที่ดีที่สุดจะต้องทำโพล ให้ออกมา ไม่ว่าจะเป็นหมอหวาน หรือรัตน์ ภู่กลาง คนหนึ่งคนใดที่โพลชี้ขาด ก็เอาคนนั้น ตอนนี้เวลาลงพื้นที่หาเสียงลำบากมาก เพราะชาวบ้านเขาลังเล ซึ่งจากเสียงสะท้อนของชาวบ้าน ก็กระทบมากเพราะความไม่มั่นใจของประชาชน ซึ่งเราถือเป็นหลักใหญ่ เป็นหลักสำคัญเพราะชาวบ้านจะได้มุ่งมั่นว่า ช่วยหาเสียงก็ดี เพราะถ้าหากได้ตนเขาก็จะเข้ามาช่วยอย่างนั้น อย่างนี้ แต่ถ้าไปได้หมอหวาน เขาจะไปช่วยพรรคอื่น หรืออย่างไรเขาก็จะได้ดำเนินการต่อไป เพราะระยะมันใกล้เข้ามาแล้ว และในส่วนเรื่องของการทำโพลในภาคใต้โดยเฉพาะที่จังหวัดตรัง มีการทำโพล ที่เขต 4 พื้นที่กันตัง ใครได้ก็เอาคนนั้นไป แต่ที่เขต 1 เมืองตรังยังไม่มีการทำโพล
แต่ครั้งนี้ตนอยากให้ทางพรรคฯได้ดำเนินการทำโพลเพราะคงไม่ยาก ใช้เวลาแค่ 1-2 วันก็เสร็จ เมื่อได้ใครแล้วก็จะสามารถทำงานเพื่อพรรคฯ ทางพรรคฯก็จะได้ผลดี จากการทำโพลครั้งนี้ ไม่ต้องมาลังเลกันไปลังเลกันมา ชาวบ้านมีปัญหามากเรื่องนี้ เรียนถึงหัวหน้าพรรคเพื่อไทยให้จัดการเรื่องนี้อย่างเร่งด่วน เพราะระเวลาเลือกตั้งก็ใกล้เข้ามาแล้ว ส่วนตนเองก็ทำงานเต็มที่ ทั้งลงพื้นที่ ไลฟ์สด เฟซบุ๊ก ลงพื้นที่วันละ 4 ครั้ง เช้า เที่ยง บ่าย และกลางคืน การจัดเวทีและละแห่งประชาชนมาร่วมไม่ต่ำจาก 100 คน จนถึงขณะนี้ลงพื้นที่พบปะชาวบ้านไม่ต่ำจาก 1 หมื่นคนแล้ว ก็อยากให้หัวหน้าพรรคเพื่อไทยเร่งรัดเรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญ และจากที่ตนเดินทางไปที่พรรคเพื่อไทย ซึ่งทางพรรคฯก็ยังให้คำตอบมากไม่ได้ เพราะเขาจะเคาะเอาคนที่มีผลงานดี แต่ตนเองก็มาทีหลังจากการเคาะของหมอหวาน แต่ตนเองเป็นคนพื้นที่โดยแท้ ไม่เหมือนหมอหวาน ซึ่งอยู่ไปอีกอำเภอหนึ่ง และญาติพี่น้องในเขตนี้ไม่มี ส่วนตนเองในเขตนี้มีญาติพี่น้องเยอะ ตนเองเกิดที่นี่มา 70 กว่าปีแล้ว และผ่านการเลือกตั้ง สจ.ในเขตนี้ สท.ในเขตนี้ ตนเองก็มีคนที่รู้จักเยอะ และยังเป็นคนต่อต้านเสื้อเหลืองคนเดียวที่อยู่ในเขตนี้ ตนเองก็สู้ได้มาโดยตลอดเป็นเวลา 20 ปีแล้ว และไม่เคยผลัดเปลี่ยน มีหลายพรรคฯมาชวนลงสมัครแต่ตนเองไม่เอา เพราะพรรคเพื่อไทยตนเองนิยมและรักนายทักษิณ
ส่วนทางด้านนายปกิต ยอดสนิท ว่าที่ผู้สมัคร สส.ตรัง เขต 1 พรรคเพื่อไทยเช่นกัน บอกว่า ในช่วงแรกทางพรรคเพื่อไทยก็ได้ประกาศชื่อตนเองเป็นผู้ประสงค์แจ้งความจำนงค์ เป็นว่าที่ผู้สมัครพื้นที่ตรังเขต 1 และพรรคฯได้ประกาศอย่างเป็นทางการมาอย่างน้อย 2-3 ครั้งแล้ว และช่วงหลังเขาได้ประกาศคุณหมอหวาน และทุกวันนี้ชาวบ้านก็ยังคิดว่าตนเองเป็นตัวผู้สมัคร ตนเองก็ไม่รู้จะตอบชาวบ้านว่าอย่างไร ตอนนี้ก็ต้องปล่อยไปตามธรรมชาติไปก่อน ส่วนพื้นที่ในตอนนี้หลังจากที่ตนเองมาเดินร่วมกับกิจกรรมกับคุณรัตน์ ภู่กลาง ซึ่งเคยเป็นผู้สมัครพรรคไทยรักษาชาติ ซึ่งในครั้งนั้นก็โดนยุบพรรคไป ก่อนที่จะมีการเลือกตั้ง แต่ตนเองเชื่อมั่นว่าฐานคะแนนเสียงของคุณรัตน์ ภู่กลางก็ยังแน่นเหมือนเดิม และณ วันนี้คุณรัตน์ ภู่กลางเองก็ได้เดินลงพื้นที่ถือว่าเต็มพื้นที่แล้วก็ว่าได้ ชาวบ้านก็ให้การสนับสนุน คนเก่าคนแก่ ซึ่งในการที่ลงพื้นที่ไปกับคุณรัตน์ ก็พบว่าชาวบ้านในพื้นที่ก็ยังพร้อมที่จะสนับสนุนคุณรัตน์ ภู่กลาง ให้เป็นผู้แทนฯจังหวัดตรัง ในช่วงที่พรรคเพื่อไทยแลนด์สไลด์ ทั่วทั้งประเทศตามนโยบายว่า พรรคเพื่อไทยคิดใหญ่ ทำเป็น เพื่อไทยทุกคน ซึ่งการทำโพล น่าจะเป็นการที่จะทำให้พรรคฯได้มีการตัดสินใจ และมั่นใจมากยิ่งขึ้น ว่าควรจะส่งใครลงสมัคร กากทางกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทย คณะกรรมการที่ดูแลคัดสรรตัวผู้สมัคร ทางสุดท้ายแล้วน่าจะเป็นผลดีกับพรรคและตัวผู้สมัครฯ ก็ควรจะทำโพล
