X

ตรัง-สมาคมปาล์มจี้รัฐเร่งแก้ปัญหาปาล์มทั้งระบบ

ตรัง-สมาคมปาล์มจี้รัฐเร่งแก้ปัญหาปาล์มทั้งระบบ

สถานการณ์การรับซื้อผลผลิตปาล์มน้ำมันใน จ.ตรัง ยังคงมีปัญหาอย่างหนักและต่อเนื่อง โดยเฉพาะเรื่องของการที่รถบรรทุกผลผลิตปาล์มไปเข้าคิวจอดรอขายอยู่หน้าโรงงานจำนวนมากนับร้อยคัน  ปัญหาราคาผลผลิตที่ตกต่ำลง ปัญหาลานเทส่วนใหญ่ที่หยุดรับซื้อชั่วคราว  แต่จุดรับซื้อบางแห่งที่ยังเปิดรับซื้ออยู่นั้น ราคาจะตกต่ำกว่าที่ควรจะเป็น หรือแตกต่างจากราคารับซื้อของโรงงานมาก เพราะต้องซื้อในราคาเผื่อความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้น ทั้งการค้างผลปาล์มไว้ในลานรอขาย  และหรือขนส่งไปขายแต่ต้องเข้าคิวรอนานข้ามวันข้ามคืน ทำน้ำหนักหาย ผลผลิตเน่าเสียหาย หรือคุณภาพลดต่ำลง ทำให้ต้องซื้อในราคาที่ต่ำกว่าความเป็นจริงและแตกต่างจากราคาของโรงงานมาก  เช่น ขณะนี้ลานรับซื้อทั่วไปเหลือประมาณกก.ละ 3.40 -3.50 บาท ในขณะที่โรงงานรับซื้อในราคากก.ละ 4.60 -4.70 บาท

นายอภิชาติ  โสภณมงคลกุล หัวหน้าแผนกจัดซื้อวัตถุดิบ  บริษัท ล่ำสูง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)  กล่าวว่า  ปัญหาปริมาณผลผลิตปาล์มเกินกำลังการผลิตของโรงงาน เริ่มมาตั้งแต่ต้นปี  สาเหตุเกิดจากช่วงเทศกาลปีใหม่หยุดยาว และมีโรงงานหลายโรงหยุดชัตดาวน์ซ่อมแซมเครื่องจักร  ดังนั้น เปิดปีใหม่มาทำกำลังการผลิตของแต่ละโรงงาน  และของแต่ละจังหวัดได้ไม่เต็มที่โดยเฉพาะจังหวัดกระบี่หยุดหลายโรง ของจ.ตรังซ่อมแซมและเปิดล่าช้า 1 โรง แต่ตอนนี้ตรังเดินเครื่องปกติทุกโรง   ซึ่งพอหลังปีใหม่มาเกษตรกรเริ่มตัดจำนวนมาก ประกอบกับมีข่าวว่าราคาจะตกลงหลังปีใหม่ จึงทำให้คนแห่กันตัด   ขณะนี้ ของโรงงานล่ำสูง จำกัด  กำลังการผลิตเต็มที่ประมาณ 800 ตันต่อวัน  เดินเครื่องจักรเต็มกำลัง 24 ชั่วโมงต่อเนื่องกันมาตั้งแต่วันที่ 4 มกราคม แต่เดินเครื่อง 24 ชม.ก็ต้องมีบ้างที่ต้องหยุดพักเครื่องและซ่อมแซมกันไปด้วย แต่ปริมาณปาล์มมากจริงๆจนไม่สามารถที่จะผลิตหมดได้ในแต่ละวัน  จึงส่งผลเป็นทอด ๆ ตั้งแต่โรงงานมีปัญหาสกัดไม่ทันปาล์มล้นโรงงาน ไปถึงจุดรับซื้อที่เป็นลานเอกชนหลายแห่งหยุดรับซื้อ ส่งผลต่อเกษตรกร   ดังนั้น ในช่วงนี้หลายฝ่ายแนะนำให้เกษตรกรยึดเวลาการตัดออกไปก่อน  เพื่อจะได้ช่วยกันประคองราคา เพราะเกษตรกรทุกคนไม่สามารถนำมาขายตรงให้แก่โรงงานได้ จะต้องผ่านจุดรับซื้อ ซึ่งจุดรับซื้อต่าง ๆ นั้น จะต้องซื้อในราคาที่ต่ำกว่าความเป็นจริง เพราะเอกชนมีต้นทุนในการรับซื้อ มีความเสี่ยงในเรื่องคุณภาพที่จะต้องถูกตัดราคา เพราะคุณภาพปาล์มต่ำลง  เรื่องของน้ำหนักที่สูญหาย เรื่องของค่าใช้จ่ายรถที่ต้องจ่ายเพิ่มมากขึ้น เพราะว่ารถต้องมาค้าง ค่าจ้างรถ ค่าจ้างคนขับที่ต้องมาจอดรอ  จ้างจากที่อื่นมาใช้คนขับรถ ส่วนของโรงงานขณะนี้พยายามเดินเครื่องเต็มที่  เพื่อจะเร่งระบายสินค้าที่ค้างอยู่ในสต๊อก และพยายามจะเร่งระบายปริมาณปาล์มที่มาจอดรอหน้าโรงงาน ซึ่งขณะนี้มากกว่า 40 พ่วง หรือประมาณ 1,000 ตัน และวันต่อไปก็จะมาเพิ่มอีก  ตอนนี้ไม่สามารถที่จะประเมินสถานการณ์ได้ต้องดูภายใน 1-2 อาทิตย์นี้ ซึ่งเหตุการณ์รถจอดรอคิวขายไม่เคยมีช่วงเทศกาลปีใหม่ แต่จะมีในช่วงเทศกาลสงกรานต์ เมย.-พค. เพราะเป็นช่วงหยุดยาว และผลผลิตออกสู่ตลาดจำนวนมาก แต่ปีนี้เกิดปรากฎการณ์นี้ เชื่อว่าคงเป็นเพราะปีที่ผ่านมาฝนฟ้าอากาศดีมาก ความสมบูรณ์ในปาล์มค่อนข้างสูง จึงเร่งรอบให้สุกเร็วขึ้น จึงทำให้เหตุการณ์มาเร็วกว่ากำหนด

ขณะที่คนขับรถบรรทุกมาจอดรอขาย บางคนมาจาก จ.กระบี่ บางคนมาจากในพื้นที่ จ.ตรัง บอกว่า มา 2 วัน 2 คืนบ้าง มารอแล้ว 3 วัน 3 คืนบ้าง แต่ยังต้องรอคิวขายและเทปาล์มต่อไป ซึ่งยอมรับว่าน้ำหนักปาล์มก็จะหายไปด้วย และเสี่ยงผลผลิตเสียหาย

ส่วนที่ทำการสมาคมชาวสวนปาล์มน้ำมันจังหวัดตรัง ถนนวิเศษกุล ต.ทับเที่ยง อ.เมือง จ.ตรัง สมาคมชาวสวนปาล์มน้ำมันจังหวัดตรัง เรียกประชุมด่วนสมาชิกสมาคมชาวสวนปาล์มน้ำมัน ซึ่งประกอบด้วยตัวแทนจากฝ่ายต่าง ๆ ทั้งผู้ประกอบการลานเท  ตัวแทนปาล์มแปลงใหญ่จังหวัดตรัง ตัวแทนเกษตรกร  ตัวแทนสภาเกษตรกรจังหวัดตรัง  นำโดยนายชัยวัฒน์  โภคาวัฒนา นายกสมาคมชาวสวนปาล์มน้ำมันจังหวัดตรัง เพื่อหารือปัญหาเกี่ยวกับสถานการณ์ปาล์มน้ำมันที่เป็นอยู่ขณะนี้คือ  ราคาตกต่ำ , ผลผลิตปาล์มไม่มีที่ขาย เนื่องจากโรงงานสกัดๆน้ำมันไม่ทัน ทำไม่มีพื้นที่จัดเก็บจนล้นโรงงาน โดยมีรถจอดรถขายปาล์มน้ำมันอยู่บริเวณด้านหน้าโรงงานอีกจำนวนมาก  ส่งผลต่อลานเทเกือบทั้งหมดหยุดรับซื้อชั่วคราวไม่มีกำหนด  ทำเกษตรกรเดือดร้อน และปัญหาน้ำมันปาล์มขวดมีราคาแพง ไม่สอดรับกับสถานการณ์ปาล์มล้นตลาด ทั้งนี้  ทางสมาคมเรียกร้องให้รัฐ ทั้งพล.อ.ประวิทย์ วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานคณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ รวมทั้งกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งมีหน้าที่กำกับดูแลราคาและบริการส่วนกลาง และผู้ว่าราชการจังหวัดในฐานะกำกับดูแลราคาและบริการภายในจังหวัด ให้เร่งทำหน้าที่ตรวจสอบให้ราคาปาล์มน้ำมันเป็นไปตามกลไกของตลาดที่แท้จริง  หาวิธีการรับมือกับผลผลิตปาล์มในฐานะที่รัฐส่งเสริมให้มีการปลูกที่จะออกผลผลิตมามากในเดือนกุมภาพันธ์ – พฤษภาคม เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาซ้ำ   ทั้งนี้ เตรียมจะเข้าพบผู้ว่าราชการจังหวัด และอาจจะมีการยื่นหนังสือถึงรัฐบาลให้เร่งแก้ปัญหา ให้ทำหน้าที่ของตัวเองต่อไป

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน