X

ตรัง-ปชป.ตรังยังวุ่น! “สมบูรณ์” โต้ ไม่ได้เป็นหลุมดำปชป.ตามที่ “สมชาย” ปรามาส อ้าง “นายหัวชวน” หนุนลงส.ส. เป็นสิทธิชอบธรรม

ปชป.ตรังยังวุ่น! “สมบูรณ์” โต้ ไม่ได้เป็นหลุมดำปชป.ตามที่ “สมชาย” ปรามาส แถมไม่เคยสอบตก-ไม่เคยแพ้ ตรังเขต4 ได้คะแนนที่ 1 ของจังหวัด อ้าง “นายหัวชวน” หนุนลงส.ส. ถือเป็นสิทธิชอบธรรม มั่นใจ ประชาชนยังเลือก คะแนนนิยมยังมี ขอเน้นทำการเมืองสุจริต เพราะเป็นแค่ครู ครอบครัวไม่มีผลประโยชน์-ธุรกิจเอื้อการเมือง

.

จากกระแสปัญหาความไม่ลงตัวของการส่งว่าที่ผู้สมัครรับเลือกตั้งในหลายจังหวัดทางภาคใต้ของพรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) อาทิ พังงา กระบี่ ตรัง ซึ่งมีหลายเขตเลือกตั้งที่มีผู้ประสงค์ลงสมัครรับเลือกตั้งส.ส.ในนามพรรคมากกว่า 1 คน จนเกิดปัญหาการแข่งขันและความขัดแย้งกันเองในหมู่สมาชิกพรรค รวมทั้งแกนนำพรรคที่ต่างฝ่ายต่างให้การสนับสนุนคนของตัวเองลงสมัครในเขตนั้นๆ โดยเฉพาะในพื้นที่จังหวัดตรัง บ้านเกิดของนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร และประธานที่ปรึกษาพรรคปชป. ซึ่งมีปัญหาทับซ้อนกันในพื้นที่เขตเลือกตั้งที่ 4 อำเภอกันตัง และอำเภอสิเกาบางส่วน ซึ่งเป็นพื้นที่เดิมของนายสมบูรณ์ อุทัยเวียนกุล เลขานุการประธานสภาผู้แทนราษฎร อดีตส.ส.ตรัง เขต 4 หลายสมัย หลังล่าสุดคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)มีการแบ่งเขตเลือกตั้งใหม่ ทำให้จังหวัดตรังกลับมามีส.ส.ได้ 4 คน ใน 4 เขตเลือกตั้ง เพิ่มจากการเลือกตั้งครั้งล่าสุดเมื่อปี 2562 ที่แบ่งเพียง 3 เขตเลือกตั้ง มีส.ส.ทั้งจังหวัดเพียงแค่ 3 คน โดยในการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา นายสมบูรณ์ต้องขยับขึ้นไปลงสมัครในระบบบัญชีรายชื่อและพลาดตำแหน่ง ซึ่งเขต 4 เดิมได้ถูกตัดแบ่งเป็น 2 ส่วน ไปรวมเป็นเขต 3 และมีน.ส.สุณัฐชา โล่สถาพรพิพิธ บุตรสาวนายสมชาย โล่สถาพรพิพิธ อดีตส.ส.ปชป. ได้เป็นส.ส.ตรังเขต 3 คนปัจจุบัน และแบ่งไปเป็นเขต 2 ของนายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ส.ส.ตรังเขต 2 หลายสมัย โดยล่าสุดนายสมชายและน.ส.สุณัฐชา ได้ออกมาเคลื่อนไหวให้การสนับสนุนนายกาญจน์ ตั้งปอง ส.ท.เมืองกันตัง เป็นว่าที่ผู้สมัครในนามพรรค ขณะที่นายสมบูรณ์เองก็ยืนยันว่าจะลงสมัครในนามพรรคเช่นกัน ทำให้เกิดความไม่ลงตัว จนนายเดชอิศม์ ขาวทอง ส.ส.สงขลาพรรคปชป. ในฐานะรองหัวหน้าพรรคดูแลภาคใต้ ต้องออกมายุติปัญหาด้วยการเตรียมทำโพลสอบถามความเห็นประชาชนในพื้นที่ในช่วงปลายเดือนสิงหาคมนี้ ว่าจะเลือกใครลงเป็นผู้สมัครในนามพรรค โดยอ้างว่าได้รับไฟเขียวจากนายชวน , หัวหน้าพรรคปชป. และเลขาธิการพรรคปชป.แล้ว ขณะที่นายชวนโยนลูกให้นายเดชอิศม์ และกรรมการบริหารพรรค ยุติความขัดแย้งรวมถึงสรรหาผู้สมัครในเขต 4 ตามขั้นตอนของพรรค ตามที่ได้นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น

นายสมบูรณ์ อุทัยเวียนกุล เลขานุการประธานสภาผู้แทนราษฎร อดีตส.ส.ตรัง เขต 4 หลายสมัย กล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า เมื่อวันที่ 6 ส.ค.ที่ผ่านมา ตนจัดกิจกรรมสัมมนาเครือข่ายพรรคประชาธิปัตย์ เรื่องการเมืองสุจริตและระดมความคิดเพื่อพัฒนาจังหวัดตรังในพื้นที่มีนายชวนมาเป็นประธาน โดยให้สมาชิกพื้นที่ตรัง เขต 4 จำนวน 600 คนร่วมกิจกรรม เพราะตนเน้นการเมืองสุจริต ไม่ใช้เงินซื้อเสียง ส่วนเรื่องการสรรหาผู้สมัครในเขต 4 มีคณะกรรมการสรรหาของพรรคที่จะไปดูว่าในละเขตมีใครเป็นผู้สมัครบ้าง สำหรับเขต4 ตรัง ตนก็ได้แสดงความจำนงไปแล้วว่าต้องการลงสมัคร โดยนายชวนเองก็ให้การสนับสนุน ให้ตนเป็นผู้สมัครของพรรค เหตุผลก็คือเดิมการเลือกตั้งเมื่อปี 2562 เขตเลือกตั้งจากเดิมที่มี 4 เขต ถูกยุบให้เหลือ 3 เขต ตนขึ้นไปอยู่ในระบบบัญชีรายชื่อ วันนี้ตรังกลับมาเป็น 4 เขต โดยสิทธิของตนจึงได้แสดงความประสงค์ขอลงที่เขต 4 และตลอดชีวิตการเมืองตนไม่เคยแพ้การเลือกตั้ง ฉะนั้นเป็นสิทธิโดยชอบธรรม

.

“เมื่อการเลือกตั้งปี 2554 ผมได้คะแนนสูงสุดในตรัง ได้คะแนนกว่า 74,000 คะแนน ในเรื่องความนิยม ผมจึงเชื่อว่าประชาชนคงยังลงคะแนนให้ผมอยู่ ในช่วงที่ผ่านมาผมทำหน้าที่เลขานุการประธานสภา และมีหน้าที่ในฐานะอดีตส.ส. ของเขต 4 เมื่อรัฐธรรมนูญเปลี่ยน ผมก็ยังลงมาทำกิจกรรมในพื้นที่ ทั้งกิจกรรมของพรรค และกิจกรรมดูแลประชาชนในพื้นที่ เช่น สถานการณ์โควิด-19 เรื่องงบประมาณก็พยายามประสานหน่วยงานเพื่อมาพัฒนาเมืองตรังตลอดเวลา วันนี้ผมมีส่วนผลักดันให้ตรังเป็นเมืองเจ้าภาพกีฬาซีเกมส์ปี 2568 ผมพยายามทำงานเพื่อบ้านเมือง ทำงานอยู่ตลอดเวลา”นายสมบูรณ์กล่าว

 

นายสมบูรณ์กล่าวอีกว่า ส่วนที่นายเดชอิศม์จะทำโพลนั้น ไม่ขอให้ความคิดเห็น เพราะเรื่องโพลไม่ได้อยู่ในระเบียบของพรรค แต่ตามขั้นตอนของพรรค คือ จะตั้งคะกรรมการสรรหามาทำหน้าที่สรรหาผู้สมัครของพรรค ทราบว่ามีการมอบหมายให้รองหัวหน้าพรรคแต่ละภาคเป็นผู้ดูแล เป็นเรื่องการบริหารพรรค แต่โดยหลักการคณะกรรมการสรรหาจะมาดูว่าในแต่ละเขต ใครมีความเหมาะสม ใครทำกิจกรรมให้พรรค โดยหลักการการทำโพลเป็นวิธีการหนึ่งในกรณีที่ไม่สามารถตัดสินได้ เช่น กรณีในเขตเลือกตั้งนั้นมีคนทำงานให้พรรค 2-3 คน จนไม่สามารถตัดสินใจได้ว่าจะเลือกใครที่จะได้รับความนิยมในการเลือกตั้ง หรือ ในเขตเลือกตั้งนั้นมีอดีต ส.ส.ที่แพ้การเลือกตั้งอยู่ในพื้นที่ ซึ่งพรรคอาจพิจาณาคนอื่น เพื่อมาเป็นคู่แข่งกับ ส.ส.ที่แพ้เลือกตั้ง แต่ตนเชื่อว่าพรรคจะพิจารณาคนที่เหมาะสมก่อน ก่อนที่จะใช้การทำโพล

 

ผู้สื่อข่าวถามว่า นายเดชอิศม์ อ้างว่าได้รับไฟเขียวจากนายชวนให้ทำโพล ขณะที่นายสมบูรณ์ก็อ้างว่านายชวนสนับสนุนให้มาลงเขต 4 สุดท้ายแล้วจะเป็นอย่างไร นายสมบูรณ์ ตอบว่า “หลังจากที่รัฐธรรมนูญเปลี่ยนท่านชวน ได้ให้ผมกลับมาทำพื้นที่ เพราะท่านรู้ว่าผมเคยเป็นอดีต ส.ส.เขต 4 ก็ให้มาทำพื้นที่มากขึ้น โดยท่านชวนบอกว่า ผมมีสิทธิได้ลงเป็นส.ส.พื้นที่นี้ เพราะผมไม่ได้ผิดอะไร ส่วนที่นายสมชาย ปรามาสผมว่า เขต 4 มีหลุมดำประชาธิปัตย์ ถ้าดูคะแนนจากการเลือกตั้งที่ผ่านมา ผลการเลือกตั้งปี 2544 ผมได้คะแนนกว่า 49,000 คะแนน ปี 2548 ได้ 59,000 กว่าคะแนน การเลือกตั้งปี 2550 เป็นการเลือกตั้ง 2 เขตรวมกัน ผมได้คะแนน 120,000 คะแนน แล้วมีการเลือกตั้งปี 2554 ผมได้คะแนน 74,300 คะแนน เป็นคะแนนสูงสุดของจังหวัดตรัง ฉะนั้นในเรื่องคะแนน ผมขอยืนยันว่า ผมไม่ได้เป็นหลุมดำของคะแนนการเลือกตั้ง ผมเป็นที่ 1 ของ จ.ตรัง และที่ผ่านมาผมไม่เคยสอบตก เป็นผู้แทนมาโดยตลอด แต่ในปี 2562 ขึ้นไปบัญชีรายชื่อ และวันนี้เป็นสิทธิของผม ที่จะลงเป็นผู้สมัครของพรรคประชาธิปัตย์”

.

“ส่วนหากมีการเจรจาให้ผมไปลงระบบบัญชีรายชื่ออีกรอบ ผมไม่ตกลงด้วย เพราะสิทธิการเป็นผู้สมัครในระบบเขต เป็นสิทธิของผม ผมขอลงแบบเขต เพราะเคยเป็นอดีตส.ส.เขต 4 ไม่เคยแพ้การเลือกตั้ง และยังได้คะแนนอันดับ 1 ของตรังด้วย ผมก็ทำหน้าที่ของผม หากผมเป็นผู้แทน ผมจะเป็นผู้แทนที่ดี ซื่อสัตย์สุจริต ทำเพื่อบ้านเมือง ไม่เคยทำเพื่อผลประโยชน์ของตนเอง หรือ ครอบครัว เพราะผมไม่มีธุรกิจอะไรที่เกี่ยวข้องกับการเมือง ผมเคยมีอาชีพเป็นครู เลยมีความรู้สึกว่าจะทำอะไรเพื่อให้กับสังคม สร้างคนให้เป็นคนดี ทำอย่างไรให้บ้านเมืองพัฒนา”นายสมบูรณ์ยืนยัน

 

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน