“ซุ้มประตูมูลนิธิกุศลสถานตรัง” มูลนิธิฯมอบให้ทน.ตรัง “ทนายหมี” แฉ สร้าง ผิดแบบ ระยะถอยร่นไม่ถูกต้อง

“ซุ้มประตูมูลนิธิกุศลสถานตรัง” มูลนิธิฯมอบให้เทศบาลนครตรัง “ชวน หลีกภัย” ประธานรัฐสภา ประธานพิธีเปิด 10 ก.ค.นี้ “ทนายหมี” แฉ ซุ้มประตู-กำแพง ผิดแบบ ระยะถอยร่นไม่ถูกต้อง มีการทำเอกสารปลอม เอื้อประโยชน์

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันอาทิตย์ ที่  10 ก.ค. 65 มีนายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา เป็นประธานเปิดซุ้มประตูมูลนิธิกุศลสถานตรัง ซึ่งเพิ่งจะก่อสร้างเสร็จเมื่อไม่นานมานี้ โดยก่อนหน้านี้มูลนิธิกุศลสถานตรัง ได้ซื้อที่ดินซึ่งเป็นอาคารกนกภัตตาคาร ถ.วิเศษกุล เพื่อสร้างทางเข้ามูลนิธิ พร้อมกับสร้างซุ้มประตูแบบจีนขนาดใหญ่ มีความสวยงาม และเป็นทางเข้าออกมูลนิธิ ที่เดิมทีมีทางเข้าฝั่ง ถ.พัทลุง ซึ่งซุ้มประตูขนาดใหญ่มีชาวตรังให้ความสนใจ ไปถ่ายภาพ กันอย่างต่อเนื่อง และ ล่าสุดเทศบาลนครตรัง ยังได้พัฒนาริมคลองห้วยยาง ซึ่งเป็นพื้นที่ใกล้เคียงซุ้มประตู ด้วยการจัดแสดงผลงานศิลปะ “โครงการศิลป์สร้างสุข” ซึ่งได้รับความสนใจจากประชาชนชาวตรัง เช่นกัน

ล่าสุดนายกัมปนาท อินทองมาก หรือ นายหมี (อดีตสท.เทศบาลนครตรัง) โฟสเฟสบุ๊กส่วนตัว ตั้งข้อสังเกตุ และ ร่ายยาวกรณีซุ้มประตูมูลนิธิกุศลสถานตรัง ที่เพิ่งจะก่อสร้างเสร็จ

โดยทนายหมี ระบุ ก็มีคนห้ามผมนะ “อย่าพูดเรื่องนี้เลย .. เดี๋ยวคนจะไม่รัก” เพราะสิ่งที่ผมกำลังจะบรรยายถึง คือ การกระทำที่น่าจะเป็นความผิดอันอาจจะเป็นการร่วมกันทำผิดหลายฝ่าย ?? ข้อเท็จจริงมีอยู่ว่า  เรื่องคือ มูลนิธิกุศลสถานตรังได้ยื่นแบบแปลน ขออนุญาตจากเทศบาลนครตรัง ก่อสร้างทางเข้าออกและซุ้มประตู + กำแพง เมื่อวันที่ 11 มกราคม 2564 แต่ปรากฏว่ามูลนิธิฯ ได้สร้างผิดแบบและไม่ได้ร่นระยะห่างแนวซุ้มประตูให้ห่างจากคลองห้วยยาง เขตเทศบาลนครตรัง โดยต้องเว้นระยะ 3 เมตร หรือ 6 เมตร ตามกฎหมาย

ซึ่งต่อมา เมื่อวันที่ 23 มีนาคม 2564 เทศบาลนครตรังโดยนายวัลลภ ช่วยบำรุง ปลัดเทศบาลปฏิบัติหน้าที่นายกเทศมนตรีนครตรัง ได้ทำหนังสือแจ้งถึงมูลนิธิกุศลสถานตรัง เจ้าของอาคาร ผู้ครอบครอง ผู้ดำเนินการ ผู้ควบคุมงานที่ก่อสร้างสิ่งปลูกสร้างดังกล่าว มีจำนวนสามฉบับ

1)เรื่องคำสั่งให้ระงับการก่อสร้างดัดแปลงหรือถอนหรือเคลื่อนย้ายอาคาร ให้ระงับการก่อสร้างอาคารจนกว่าจะได้จัดการแก้ไขให้ถูกต้อง

2)ห้ามใช้อาคาร

3)ให้ยื่นดำเนินการแก้ไขและให้ยื่นคำขอรับใบอนุญาตก่อสร้างดัดแปลงหรือเคลื่อนย้ายอาคาร  โดยดำเนินการแก้ไขเปลี่ยนแปลงให้ถูกต้องภายใน 90 วัน และให้ยื่นคำขอรับใบอนุญาตดัดแปลงอาคาร ภายใน 30 วัน

สรุปเบื้องต้นคือ มีการก่อสร้างซุ้มประตู + กำแพง ที่ผิดแบบ ตามที่เทศบาลนครตรังแจ้งมูลนิธิฯ ต้องดำเนินการภายใน 120 วัน แต่ปรากฏว่า มูลนิธิกุศลสถานตรังได้ยื่นหนังสือต่อเทศบาลนครตรัง ลงวันที่ 21 สิงหาคม 2564 (นายสัญญา  ศรีวิเชียร เข้ารับหน้าที่เป็นนายกเทศมนตรีนครตรังในวันที่ 10 มิถุนายน 2564) เพื่อขอขยายเวลาคำสั่งการรื้อถอน และยื่นแบบใหม่  โดยขอขยายเวลาตามคำสั่งออกไปเป็นเวลา 120 วัน มีเลขรับหนังสือของเทศบาลนครตรังเรียบร้อย

สรุป การส่งหนังสือขอขยายเวลา ล่วงเลยเกิน 120 วัน ไปแล้ว แต่กลับพบว่า มีการกระทำอันน่าจะผิดกฎหมาย การปลอมเอกสารหรือใช้เอกสารปลอม  คือ “มีการแก้ไขหนังสือ” โดยให้มูลนิธิกุศลสถานตรังทำหนังสือขอขยายเวลาฉบับใหม่ นำส่งเทศบาลนครตรัง  เป็นการทำหนังสือย้อนเวลาจากวันที่ 21 สิงหาคม 2564  เปลี่ยนเป็นวันที่ 16 กรกฎาคม 2564 เพื่อให้อยู่ในช่วงเวลา 120 วัน  และปรากฏว่ามูลนิธิฯ ก็ดำเนินการสร้างซุ้มประตู + กำแพง จนแล้วเสร็จ

กลับพบปมปัญหาใหม่เพิ่มเติม คือ ต่อมา นายสัญญา ศรีวิเชียร ผู้บริหารเทศบาลนครตรัง  ได้นำญัตติเสนอนายประเวช ไกรเทพ ประธานสภาเทศบาลนครตรัง เพื่อให้สมาชิกสภาเทศบาลนครตรังพิจารณารับมอบการยกถนนและซุ้มประตู โดยได้มีการประชุมสภาเทศบาลนครตรัง ในวันที่ 23 พฤษภาคม 2565  ปรากฏว่าสมาชิกสภาเทศบาลนครตรังชุดนายสัญญา ยกมือรับซุ้ม ประตูกำแพงที่ไม่ได้ ร่น เว้นระยะตาม พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร ซึ่งเทศบาลฯได้แจ้งให้มูลนิธิฯ รื้อถอน แก้ไขแบบเมื่อวันที่ 23 มีนาคม 2564

มีคำถามต่อมาว่า ขณะนี้ ซุ้มประตู + กำแพง ถูกต้องตาม พ.ร.บ.ควมคุมอาคารแล้วหรือยัง?? และขณะนี้ ซุ้มประตูและถนน เป็นของใคร ตอบได้ว่าเป็นของเทศบาลนครตรัง ตามเจตนาของมูลนิธิฯ ที่นำเสนอนายกเทศฯ และส่งเข้าที่ประชุมสภาเทศบาลฯแล้ว

โดยสรุปภาพรวมของเรื่องนี้ มีการเอื้อประโยชน์กันหรือไม่? อย่างไร? มีใครได้ประโยชน์อันเป็นตัวเงินจากการนี้บ้าง ? มีการทำและใช้เอกสารปลอมหรือไม่?

หากซุ้มประตูชำรุดเสียหาย เสื่อมลง เทศบาลนครตรังเป็นเจ้าของที่ได้พิจารณารับมอบมาแล้ว จะต้องใช้เงินพัฒนาปรับปรุงของเทศบาลฯ เพราะมูลนิธิฯได้มอบให้เป็นของเทศบาลนครตรังแล้ว ซึ่งข้อนี้ ไม่ได้เสียหายต่อเทศบาลนครตรังเพราะมีงบประมาณเพียงพอ

แต่เทศบาลนครตรัง จะต้องทำอย่างไร กับซุ้มประตูที่เทศบาลเคยมีคำสั่งให้รื้อถอน ซึ่งขณะนี้ถือได้ว่าเทศบาลนครตรังเป็นเจ้าของตามเจตนาที่ส่งเข้าที่ประชุมสภาเทศบาลฯแล้ว

และผมตั้งข้อสังเกตว่า หากมูลนิธิฯ สร้างถูกต้องตามแบบ โดยที่เทศบาลนครตรังไม่เคยสั่งให้รื้อเลย มูลนิธิฯจะส่งมอบซุ้มประตู ถนน ให้เทศบาลหรือเปล่า ??? ผมไม่ทราบครับ ??? (ลงชื่อ นายกัมปนาท อินทองมาก)