X

นศ.แฟชั่นดีไซน์ม.ธุรกิจบัณฑิต ลงพื้นที่เนรมิตผ้าขาวม้านาหมื่นศรี เป็นสินค้าแฟชั่น สีสันคัลเลอร์ฟูล ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ 

ตรัง นักศึกษาสาขาออกแบบแฟชั่นและธุรกิจ ม.ธุรกิจบัณฑิต ร่วมกับ บริษัทไทยเบฟเวอเรจจำกัด(มหาชน) เพิ่มมูลค้าผ้าขาวม้า จากวิสาหกิจชุมชนทอนาหมื่นศรี ต.นาหมื่นศรี อ.นาโยง จ.ตรัง เป็นเสื้อผ้าและสินค้าแฟชั่น ร่วมสมัย-สีสันคัลเลอร์ฟูล เหมาะกับกลุ่มวัยรุ่น-คนรุ่นใหม่ เป็นเพิ่มฐานลูกค้าให้เข้าถึงทุกเพศทุกวัย 

เมื่อเร็วๆนี้ ที่วิสาหกิจชุมชนผ้าทอนาหมื่นศรี ต.นาหมื่นศรี อ.นาโยง จ.ตรัง อาจารย์-นักศึกษาสาขาการออกแบบแฟชั่นและธุรกิจ คณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ (Fashion Business DPU) ร่วมกับ บริษัทไทยเบฟเวอเรจจำกัด(มหาชน) และบริษัทประชารัฐรักสามัคคีตรังจำกัด นำเสนอผลงานออกแบบตัดเย็บต่อยอดผลิตภัณฑ์ผ้าขาวม้าของผ้าทอนาหมื่นศรีให้เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีความร่วมสมัยตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ โดยไม่ทิ้งความเป็นเอกลักษณ์ของผ้าทอนาหมื่นศรี และยังเรียนรู้กรรมวิธีการทอผ้าด้วยการทอในเฟรม การย้อมเส้นใยด้วยสีธรรมชาติ เยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ผ้าทอ ซึ่งสมาชิกวิสาหกิจชุมชนผ้าทอนาหมื่นศรีได้ให้การต้อนรับ และให้ข้อมูลต่างๆแก่นักศึกษาเพื่อประโยชน์ในการเพิ่มมูลค่าให้สินค้าของกลุ่มร่วมกันต่อไป

ทั้งนี้ การนำเสนอผลงานการออกแบบตัดเย็บครั้งนี้เป็นการนำเสนอผ้าทอนาหมื่นศรี โดยการนำผ้าขาวม้าทอมือทั้งแบบทอลายตารางธรรมดาและแบบทอแบบยกดอกไปออกแบบตัดเย็บเป็นเสื้อผ้าแฟชั่น รวมสินสินค้าที่ระลึกเป็นไอเทมร่วมสมัย มีการกำหนดสีตามเทรนด์แฟชั่น ประเภทการใช้งาน อาทิ หมวกแก๊ป พวงกุญแจดอกศรีตรัง ตุ๊กตาที่ระลึก รูป ปลา เต่าทะเล กระเป๋า เป็นต้น โดยชูเอกลักษณ์ของความมีสีสันสดใสสไตล์ผ้าทอนาหมื่นศรีที่เป็นเอกลักษณ์ เพื่อให้ตรงกับความสนใจของกลุ่มวัยรุ่น และเพิ่มฐานลูกค้าให้กับผลิตภัณฑ์ชุมชน

น.ส.ปริญญา วัฒนาวิทย์ ดีไซน์เนอร์นักศึกษาสาขาการออกแบบแฟชั่นและธุรกิจ คณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ กล่าวว่า ตนวางคอนเซ็ปต์ด้านเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าของชุมชน ให้สามารถเข้าถึงกลุ่มวัยรุ่นได้มากขึ้น วัสดุที่เลือกใช้เน้นใช้สีฉูดฉาดซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของผ้าทอนาหมื่นศรี เพราะเห็นว่าน่าจะเจาะกลุ่มวัยรุ่นได้ เพราะสีสันคัลเลอร์ฟูลกำลังมาแรง เช่น ชุด เสื้อกับกระโปรงและมีเสื้อคลุม

.

“จากการลงพื้นที่และการออกแบบ เรามองว่าจุดเด่นของผ้าขาวม้านาหมื่นศรีคือเรื่องของสีสัน และมีลวดลายเอกลักษณ์ เรารู้สึกว่าผ้าไทยสามารถพัฒนาต่อยอดได้ อยากให้ทุกคนอย่ามองว่าผ้าไทยนั้นเชย หากมองดีๆ จะมีความสวยงาม มีความเป็นไทย”น.ส.ปริญญากล่าว

ด้านนาย ปรัชญา พิระตระกูล หัวหน้าหลักสูตรออกแบบธุรกิจแฟชั่น คณะศิลปกรรมศาสตร์มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ กล่าวว่า หลักสูตรออกแบบธุรกิจแฟชั่นของมหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์เปิดมากว่า 10 ปี แล้ว ได้สร้างบัณฑิตแฟชั่นออกไปมากมาย และช่วง 4-5 ปี ที่ผ่านมา ทางภาควิชาได้เข้ามาทำงานร่วมกับชุมชนมากขึ้น โดยเน้นให้นักศึกษาสร้างตราสินค้าขึ้นมาเป็นสำคัญ ไม่ใช่แค่การออกแบบเพียงอย่างเดียว จนตอนนี้ทางนักศึกษาได้นำผลิตภัณฑ์ชุมชนมาสร้างเป็นตราสินค้า เช่น ชุมชนในจังหวัดลำปาง , สุโขทัย , นนทบุรี , ประจวบคีรีขันธ์

นายปรัชญา กล่าวอีกว่า สำหรับผ้าทอนาหมื่นศรี ถือเป็นก้าวแรกๆของการสร้างสินค้าให้กับผลิตภัณฑ์ของชุมชน โครงการครีเอทีฟ ยัง ดีไซน์เนอร์ โดยไทยเบฟฯ เป็นโครงการที่ไทยเบฟฯต้องการให้มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิต ร่วมกับนักศึกษา พัฒนาผลิตภัณฑ์ของชุมชน ที่นาหมื่นศรีเราเน้นใช้ผ้าขาวม้า ในการสร้างสรรค์ชิ้นงานแฟชั่นขึ้นมา โดยชุมชนมีโจทย์ว่าอยากให้ผลิตภัณฑ์ออกไปสู่ลูกค้ากลุ่มใหม่ และกลุ่มวัยรุ่น หลังจากนั้นทางมหาลัยได้ลงพื้นที่สำรวจข้อมูลต่างๆ รวมถึงวิถีชุมชนเพื่อนำไปพัฒนาออกแบบ ซึ่งการลงพื้นที่นักศึกษาได้เห็นกระบวนการทำงาน ผลิตภัณฑ์ และวิถีชุมชน และนำสิ่งที่เห็นมาเปรียบเทียบกับสิ่งที่นักศึกษาทำขึ้น และชาวบ้านได้มาชื่นชมกับผลงานที่นักศึกษาทำขึ้น ถือเป็นสิ่งที่ดี เพราะยังมีสินค้าชุมชนอีกมากที่ต้องการเข้าถึงกลุ่มวัยรุ่น ต้องการความรู้และแนวคิดใหม่ๆมาสร้างสรรค์ผลงานนำสู่การเพิ่มมูลค่า สามารถเปิดตลาดใหม่ๆ ได้ ส่งผลให้เศรษฐกิจชุมชนดีขึ้น

“นักศึกษาเองในช่วงแรกอาจจะรู้สึกขัดแย้งบ้าง อาจรู้สึกว่าเชย แต่เมื่อทำงานร่วมกัน มีการศึกษาหาข้อมูลที่จะทำให้ผลิตภัณฑ์เมื่อสำเร็จเป็นชิ้นงานแล้วมีรูปแบบหน้าตาที่ร่วมสมัย ลักษณะเด่นของผ้าทอนาหมื่นศรีมีสีสดกว่าชุมชนในภาคอื่น การทอมีการใส่ลูกเล่น ใส่ลวดลายยกดอกเข้าไป ซึ่งแตกต่างจากที่อื่น ถ้าใครเห็นก็จะดูออกว่ามีความแตกต่างและเป็นจุดเด่น ทั้งนี้ขอเสนอแนะชุมชนว่า เส้นใย วัตถุดิบ ถ้าสามารถจะหาได้ ควรใช้เส้นด้ายที่เป็นธรรมชาติหรือออแกนิค จะเข้ากับความสนใจของปัจจุบัน ส่วนเรื่องสี ควรจัดกลุ่มคู่สีให้ลงตัว การที่มีโครงการดีๆแบบนี้ ทำให้มีนักศึกษาหลายคนเข้ามาทำผลิตภัณฑ์ของชุมชน ชุมชนเองก็มีการต่อยอดต่อไป นำสิ่งที่นักศึกษาออกแบบไปขาย มีรายได้กลับมา ซึ่งทางคณะฯยังคงให้ความสำคัญกับการทำงานร่วมกับชุมชน เพราะผลิตภัณฑ์ชุมชนเป็นฐานสำคัญที่จะส่งเสริมอาชีพ รายได้ เศรษฐกิจของไทย นักศึกษาควรจะลงมือทำงานร่วมกับชุมชน ถ้าเราไม่เข้าไปกระตุ้นการรับรู้ เขาจะไม่เห็นว่าสิ่งเหล่านี้ยังมีอยู่ และสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มและพัฒนาเป็นสากลได้”นายปรัชญา ระบุ

ขณะที่นางจำรัส ทองแจ้ง สมาชิกวิสาหกิจชุมชนผ้าทอนาหมื่นศรี กล่าวว่า ตนทอผ้ามานานแล้ว และเข้ามาเป็นสมาชิกกลุ่ม 20 ปีแล้ว วันนี้รู้สึกดีใจและภูมิใจมาก ที่นักศึกษาได้นำผลิตภัณฑ์ผ้าทอนาหมื่นศรีไปเพิ่มมูลค่า ตัดเย็บเป็นเสื้อผ้า กระเป๋า ที่สวยทันสมัย ดูแล้วมีคุณค่าและมูลค่าเพิ่มขึ้น และขอขอบคุณทุกๆ คนที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการต่อยอดสินค้าชุมชนให้เป็นรูปธรรม

สำหรับผ้าทอนาหมื่นศรี เป็นผ้าทอโบราณของจ.ตรังอายุกว่า 200 ปี กี่ที่ใช้ทอผ้ามี 2 ชนิด ได้แก่ 1. กี่พื้นเมือง หรือกี่แบบโบราณ และ 2.กี่กระตุก แบ่งตามลักษณะโครงสร้างของผืนผ้า ได้ 3 ชนิด ได้แก่ ผ้าพื้น ผ้าตา และ ผ้ายกดอก ซึ่งแต่ละชนิดแบ่งย่อยเป็นชื่อลายต่างๆได้อีกหลายลาย โดยผ้าพื้น เป็นผ้าที่ใช้ด้ายยืนสีเดียว มีผ้าพื้นธรรมดา แบ่งเป็นผ้าพื้นสีเรียบและผ้าพื้นสีเหลือบ ผ้าหางกระรอก และผ้าล่อง หรือผ้าริ้ว มีลายต่างๆ ได้แก่ ลายหัวพลู ลายดอกเข็ม ลายดอกข่อย ส่วนผ้าตา เป็นผ้าที่ใช้ด้ายยืนสลับกันตั้งแต่สองสีขึ้นไป ลายตาสมุก ลายลูกโซ่ตาราง ลายตานก และ ลายดอกมุด และผ้ายกดอก เป็นผ้าที่ใช้ด้ายพุ่ง 2 ชนิด เกิดจากการทอด้วยวิธียกดอก หรือการสร้างลวดลาย โดยการเพิ่มด้ายพุ่ง มักใช้ลวดลายดั้งเดิมที่มีความซับซ้อน ใช้จำนวนตะกอ (เขา) มาก ในอดีตมีการทอผ้าเป็นคำสอนในพระพุทธศาสนา ซึ่งมีจำนวนตะกอนับร้อย ลวดลายเฉพาะของผ้ายกนาหมื่นศรี ได้แก่ ลายลูกแก้ว ลายลูกแก้วโข่ง ลายลูกแก้วสี่หน่วยใน ลายราชวัตร ลายดอกจัน ลายเกสร ลายดอกกก ลายดอกพิกุล ปัจจุบันมีลวดลายที่นิยมทอเพิ่มอีกกว่า 30 ลาย เช่น ลายพิกุลแก้ว ลายดาวล้อมเดือน ลายแก้วชิงดวง เป็นต้น โดยล่าสุด ลายแก้วชิงดวง ได้รับคัดเลือกให้เป็น “ผ้าอัตลักษณ์” ประจำจ.ตรัง เพื่อกระทรวงวัฒนธรรมจะดำเนินการจัดทำหนังสือ “ภูษาศิลป์ จากท้องถิ่น สู่สากล” เนื่องในโอกาสพระชนมพรรษา 90 พรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ในวันที่ 12 สิงหาคม พุทธศักราช 2565 เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติและน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ ที่ทรงพระวิริยะอุสาหะปฏิบัติพระราชกรณียกิจในการส่งเสริมเรื่อง “ผ้าไทย”

 

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน