X

(คลิป) ค้างคาวหน้าหมา นับ 100 อาศัยอยู่ใต้ใบปาล์มในสวนพฤกษศาสตร์ฯ แทนการอยู่ถ้ำ

ตรัง สวนพฤกษศาสตร์ชวนเที่ยวชมค้างคาวหน้าหมาหรือค้างคาวขอบหูขาวเล็ก นับ 100 ตัว ได้อย่างใกล้ชิด ภายในสวนพฤกษศาสตร์ทุ่งค่าย ค้างคาวจะใช้วิธีเฉพาะตัวกัด แทะใบปาล์มให้งุ้มลง และเข้าไปอาศัยอยู่ใต้ใบปาล์ม หลบแดดในช่วงกลางวัน แทนการอยู่ในถ้ำ  และออกหากินในช่วงค่ำคืน

วันที่ 11 เมษายน 2565 ที่สวนพฤกษศาสตร์ทุ่งค่าย ต.ทุ่งค่าย อ.ย่านตาขาว จ.ตรัง นายกอบศักดิ์ เพ็ญนุกูล หัวหน้าสวนพฤกษศาสตร์ทุ่งค่าย นำผู้สื่อข่าว ไปดูค้างคาวขอบหูขาวเล็กหรือค้างคาวหน้าหมา ซึ่งอาศัยอยู่รวมกันเป็นฝูงเล็กๆ ใต้ใบต้นปาล์มขาว/ปาล์มจีน ท่ามกลางธรรมชาติป่าดิบชื้นที่อุดมสมบูรณ์ด้วยพรรณไม้นานาชนิด โดยค้างคาวขอบหูขาวเล็กและค้างคาวหน้าหมา ที่เกาะอยู่ใต้ใบไม่ได้บินหนีปล่อยให้ผู้สื่อข่าวได้ถ่ายภาพอย่างใกล้ชิด จนเห็นลักษณะใบหน้าและลำตัวได้อย่างชัดเจน โดยพวกมันจะใช้ปาก และ เล็บจิกบริเวณด้านล่างของใบปาล์ม แล้วนอนห้อยหัวพักผ่อนอย่างสบายใจ ไม่ตื่นตกใจแม้ผู้สื่อข่าว และ เจ้าหน้าที่เดินเข้าใกล้ ซึ่งค้างคาวสายพันธุ์นี้ยังเป็นประโยชน์ในการสร้างป่า กินผลไม้และช่วยผสมเกสร

 


ด้านนายกอบศักดิ์ เพ็ญนุกูล หัวหน้าสวนพฤกษศาสตร์ทุ่งค่าย บอกว่า ค้างคาวหน้าหมา หรือค้างคาวขอบหูขาวเล็ก ส่วนหน้าเขาตาจะคล้ายสุนัข ชาวบ้านถิ่นใต้จึงเรียกกันว่า “ค้างคาวหน้าหมา” โดยปกติหากมีถ้ำ หรือบ้าน เขาจะเข้าไปพักอาศัย หรือจะพักอาศัยใต้ใบปาล์มในสวนปาล์มน้ำมัน  สำหรับสวนพฤกษศาสตร์ทุ่งค่าย มีลักษณะเป็นที่ราบ ซึ่งไม่มีถ้ำ ค้างคาวหน้าหมาเหล่านี้ จึงเข้าอาศัยอยู่ใต้ใบพืชวงศ์ปาล์ม ที่อยู่ในสวนแห่งนี้  โดยพวกมันจะใช้วิธีเฉพาะตัวกัดใบปาล์มใบงุ้มลง แล้วจะเข้าไปอาศัยหลบใต้ใบปาล์ม ซึ่งค้างคาวชนิดนี้จะพบได้โดยทั่วไป แต่ที่นี่ถือเป็นจุดชมค้างคาว เพราะพวกมันจะอาศัยใต้ใบปาล์มที่ต้นไม่สูงมาก จึงสามารถมองเห็นค้างคาวที่อยู่ใต้ใบปาล์มชัดเจน และสามารถชมได้ตลอดในช่วงเวลากลางวัน  ซึ่งเจอได้นับ 100 ตัว  ส่วนช่วงกลางคืนเขาจะออกไปหากิน ซึ่งนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยว สามารถชมได้ แต่อย่าเอาไฟฉายไปส่องพวกเขา เพราะจะทำให้เขาตกใจได้
ทั้งนี้หากอยากสัมผัสกับความสวยงามสดชื่นของสวนพฤกษศาสตร์ทุ่งค่าย ควรมาในช่วงเวลาเช้า เพราะเป็นช่วงที่อากาศดี มีหมอกอ่อนๆ

สำหรับค้างคาวขอบหูขาวเล็กเป็นค้างคาวขนาดเล็ก มีจุดเด่นคือขอบใบหูทั้งสองข้างมีขอบสีขาวอันเป็นที่มาของชื่อ มีใบหน้าคล้ายสุนัข จึงได้อีกชื่อหนึ่งว่า “ค้างคาวหน้าหมา” (Lesser Dog-faced Fruit Bat) ขนตามลำตัวหลากหลายมีตั้งแต่สีเทาจาง, น้ำตาลจาง ๆ จนถึงน้ำตาลเข้ม มีน้ำหนักตัวตั้งแต่ 28-40 กรัม ค้างคาวตัวเมียตกลูกครั้งละ 1 ตัว

พบได้ในภูมิประเทศที่มีความหลากหลายมาก ตั้งแต่ป่าดิบที่มีความสูงจากระดับน้ำทะเล 1,600 เมตร จนถึงชุมชนในเมืองใหญ่ และสวนผลไม้ต่าง ๆ โดยมักจะอาศัยอยู่รวมกันเป็นฝูงเล็ก ๆ ตามต้นไม้ใหญ่หรือต้นผลไม้ กินอาหารจำพวก ผลไม้ เช่น มะม่วง และน้ำหวานจากเกสรดอกไม้ จึงนับเป็นศัตรูของผลไม้ด้วยชนิดหนึ่ง แต่ก็มีประโยชน์ในการผสมพันธุ์และแพร่กระจายละอองเกสรดอกไม้และผลไม้ สำหรับในประเทศไทยพบได้ทั่วทุกภูมิภาค

ทั้งนี้นอกจากชมค้างคาวขอบหูขาวเล็กแล้ว ยังมีพรรณไม้ต่าง ๆ อย่างเช่น เถางูเขียวที่กำลังออกดอกให้ชมซึ่งเลื้อยอยู่บนต้นไม้ใหญ่ และแปลงรวบรวมพันธุ์หม้อข้าวหม้อแกงลิง โดยที่สวนพฤกษศาสตร์ทุ่งค่าย เปิดทุกวัน 08.30-16.30 น. (ไม่มีค่าเข้าชม)

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน