ตรัง ปิดประกาศบังคับคดี รร.ตรังแล้ว ขับไล่จำเลย บริวาร และทรัพย์สินออกจากอาคารตามคำพิพากษาศาล ภายใน 15 วัน ผู้เช่าค้างค่าเช่าตั้งแต่ปี 2555 จำนวน 50 ลบ. คำนวณเป็นมูลค่าเสียหายทางธุรกิจนับร้อยล้าน ส่วนผู้เช่ารายย่อยให้ติดต่อเช่ากับทาง ทน.ตรัง หลังจากนี้เตรียมตั้งคณะกรรมการตรวจสอบทรัพย์สิน เคาะประมูลหาผู้เช่ารายใหม่
เมื่อเวลา 10.00 น.ของวันนี้ (2 มีนาคม 65) ว่าที่ร้อยตรีสุวิทย์ นาคะวัจนะ นิติกรเจ้าของสำนวน เจ้าพนักงานบังคับคดี สำนักงานบังคับคดีจังหวัดตรัง พร้อมเจ้าหน้าที่เทศบาลนครตรัง เข้าปิดประกาศบังคับคดี ตามคำพิพากษาศาลจังหวัดตรัง ที่มีหมายบังคับคดีให้ขับไล่ลูกหนี้ตามคำพิพากษาและบริวาร พร้อมทั้งขนย้ายทรัพย์สินออกไปจากอาคารโรงแรมตรังรวมทั้งอาคารพาณิชย์ในสัญญาสัมปทานเช่ากับทางเทศบาลนครตรัง
ทั้งนี้ ประกาศให้ผู้ที่อ้างว่าไม่ใช่บริวารของบรัษัทเกาะหวังเนเจอรัลรีสอร์ท จำกัด หรือบริษัทเกาะหวังเนเจอรัลรีสอร์ท จำกัด หรือ บริษัทอ่าวสวรรค์ จำกัด ลูกหนี้ตามคำพิพากษายื่นคำร้องแสดงอำนาจพิเศษต่อศาลภายใน 15 วัน นับแต่วันที่ปิดประกาศ มิฉะนั้นจะถือว่าเป็นบริวารของ บริษัทบริษัทเกาะหวังเนเจอรัลรีสอร์ท จำกัด หรือบริษัทเกาะหวังเนเจอรัลรีสอร์ท จำกัด หรือบริษัทอ่าวสวรรค์ จำกัด และเจ้าพนักงานบังคับคดีจะดำเนินการบังคับคดีตามกฎหมายต่อไป
ซึ่งเมื่อเจ้าหน้าที่บังคับคดีไปถึงโรงแรมตรัง พร้อมด้วยเจ้าหน้าเทศบาลนครตรัง และ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้พบกับพนักงานของบริษัทเกาะหวังเนเจอรัลรีสอร์ท จำกัด จำนวน 1 คน ซึ่งมีศักดิ์เป็นหลานชายของเจ้าของบริษัทฯ โดยเจ้าหน้าที่ได้แสดงตัวและแสดงหมายขับไล่ให้ทราบ โดยบรรยากาศเป็นไปด้วยความตึงเครียด ในขณะที่พนักงานได้ให้คำตอบกับเจ้าหน้าที่ว่าตนเป็นเพียงพนักงานคนหนึ่ง ไม่มีสามารถตอบคำถาม หรือ ให้ความชัดเจนได้ และการดำเนินการต่าง ๆ ต้องขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของผู้ทางผู้บริหาร
นายสัญญา ศรีวิเชียร นายกเทศมนตรีนครตรัง เปิดเผยว่า ตั้งแต่ตนเข้ามารับตำแหน่งนายกเทศมนตรีนครตรัง ตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2564 ได้ดำเนินการเรื่องคดีค้างเก่าของเทศบาลนครตรัง และคดีของโรงแรมตรัง ที่มีปัญหาเรื้อรังมานาน ซึ่งผู้เช่าโรงแรมตรังจากเทศบาลนครตรัง ตั้งแต่ปี 2555 – ปัจจุบัน ไม่จ่ายค่าเช่าให้ทางเทศบาล เท่าให้เทศบาลนครตรังนั้นได้รับความเสียหายเนื่องจากผู้เช่าไม่ปฏิบัติตามสัญญา ทางเทศบาลนครตรังได้ฟ้องร้องต่อศาลเพื่อขับไล่ผู้เช่า ให้ออกจากพื้นที่พร้อมด้วยอาคารใต้โรงแรมตรัง จำนวน 8 ห้อง ซึ่งได้เช่าช่วงจากคู่สัญญาของเทศบาลนครตรัง ซึ่งเทศบาลนครตรังไม่ได้ประโยชน์ มูลค่าความเสียหายที่เกิดขึ้นจนถึงปัจจุบันเกือบ 50 ล้านบาท โดยค่าเช่ารายเดือนตกเดือนละ 3 แสนบาทเศษ คำนวณจากปี2555 – ปัจจุบัน และยังมีเงินค่าเช่าต่างตอบแทนอีกปีหนึ่งกว่า 2.5 ล้านบาท ต้องจ่ายทุกเดือนกันยายนของทุกปี
เทศบาลตรังยื่นฟ้องต่อศาลขอขับไล่ ขอชดใช้ที่ทางเทศบาลสูญเสียไปทั้งหมด ศาลชั้นต้นตัดสินให้เทศบาลนครตรังเป็นผู้ชนะคดี หลังจากนั้นผู้เช่าได้อุทธรณ์ ซึ่งผลให้ผู้เช่าออกไป วันนี้ทางเทศบาลนครตรังได้แจ้งไปยังสำนักงานบังคับคดีจ.ตรัง ให้ปิดหมายขับไล่ นับจากวันนี้อีก15 วัน ถ้าไม่ออกจากโรงแรมตรัง เราจะดำเนินคดีตามกฎหมาย เพราะหากเทศบาลไม่ทำก็เท่ากับละเว้นเช่นกัน
หลังจากการขับไล่สิ้นสุดลง ทางเทศบาลจะจัดสรรการใช้ประโยชน์โรงแรมตรังนั้นต้องเปิดให้มีการประมูลต่อไป ส่วนสภาพภายในโรงแรมนั้นตั้งแต่ผู้เช่าเข้าไปดำเนินกิจการตนไม่ได้เข้าไปดู ไม่ทราบว่าด้านในโรงแรมตรัง มีสภาพเป็นอย่างไร หลังจากนี้หากดำเนินการเสร็จสิ้นจะต้องตั้งคณะกรรมการเพื่อจะไปดูว่า อะไรที่เป็นทรัพย์ของเทศบาลนครตรังที่ยังตกค้างอยู่ หรือ สมบัติใดของผู้เช่าตกค้างอยู่ เราต้องมาทำรายการเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาต่อไปในภายภาคหน้า
การคำนวณความเสียหายทางธุรกิจ หรือ ผลประโยชน์ที่ทางเทศบาลนครตรังควรได้รับ หากให้คิดเป็นตัวเลข คิดว่าน่าจะเกิน 100 ล้านบาท ซึ่งหมายรวมถึงค่าเสียหายจากเช่าช่วง ค่าเช่าบ้าน จำนวน 8 คูหา อย่างน้อยที่สุดตกค่าเช่าเดือนละ 18,000-25,000 บาท ต่อคูหา และในส่วนของผู้เช่ารายย่อยตอนนี้เขายังเสียค่าเช่าอยู่ หลังจากนี้ไปผู้เช่ารายย่อยต้องมาติดต่อเช่ากับเทศบาลนครตรัง เพื่อให้ถูกต้องตามกฎหมาย
