X

ลูกจ้างร้องสื่อ นายจ้างไม่จ่ายเงินเดือน”บริษัทกำจัดขยะ-ผลิตไฟฟ้า”อ้างจ้างงานแบบชิ้นต่อชิ้นไม่ใช่งานประจำ

ตรัง ลูกจ้างบริษัทกำจัดขยะและโรงงานผลิตไฟฟ้าจากขยะ ร้องสื่อ ถูกนายจ้างไม่จ่ายค่าแรง อ้างไม่ใช่จ้างแรงงาน แต่เป็นสัญญาจ้างแบบจ้างผลิตของ ชิ้นต่อชิ้น ท้าทายลูกจ้างไม่มีใครทำอะไรได้ อ้างสนิทสนมนักการเมืองดัง คนมีชื่อเสียงในจังหวัด ลูกจ้าง รุ่น 1-2-3  ตกที่นั่งเดียวกัน แต่ละคนทำงาน 3-6 เดือน  ค่าจ้างตามจริงเป็นเงิน 5-9 หมื่นบาท แต่นายจ้างจ่ายจริงคนละ 3,000-5,000.บาท   ทนอยู่ไม่ไหวต้องลาออก รวมตัวออกมาเตือนภัยสังคม เสียโอกาสทำงาน บางคนเป็นหนี้สินเพราะต้องกู้เงินมาใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน

วันที่ 24 มกราคมนี้  ที่สถานีรถไฟกันตัง อ.กันตัง จ.ตรัง   อดีตพนักงานบริษัทจกัดขยะและโรงผลิตผลิตไฟฟ้าแห่งหนึ่ง ในอำเภอกันตัง จังหวัดตรัง  รวมตัวกัน 3 คนร้องขอความเป็นธรรม พร้อมรวบรมรายชื่อเพื่อนร้วมชะตากรรมเดียวกัน กว่า10 คน ร้องต่อสื่อ กรณีนายจ้างไม่จ่ายค่าจ้างแรงงานนาน 3-6 เดือน จ่ายแต่ 3,000-5,000.บาทเท่านั้น ซึ่งลูกจ้างรุ่นที่ 1- 2-3 เกือย100 คน  ไม่ได้รับเงินเดือนตามที่ตกลงจ้างไว้ โดยก่อนหน้านี้อดีตพนักงานรวมรุ่น 3 รวมตัวกว่า 10คนเดินทาง ไปยังหน่วยงานภาครัฐ ฝ่ายปกครอง  หน่วยงานกระทรวงแรงงานในจ.ตรัง  แล้ว

จึงร้องเรียนผ่านสื่อ กรณีถูกผู้บริหารบริษัทจกัดขยะและโรงผลิตผลิตไฟฟ้าแห่งหนึ่ง ในอำเภอกันตัง ว่าจ้างให้ทำงานในบริษัทมากกว่า 3 เดือน เงินเดือนแต่ละคนจะได้รับเดือนละ 15,000.บาท พนักงานอายุงานตั้งแต่ 3 – 7 เดือน แต่ละคนเมื่อสิ้นเดือนไม่ได้รับค่าจ้าง อยู่จะครบ 3 เดือนทางบริษัทฯจ่ายให้คนละ 3,000 บาท บางคนได้ 5,000.บาทเท่านั้นที่เหลือยังไม่จ่าย พนักงานทวงถามหลายครั้งไม่ยอมจ่ายเงินเดือน จนพนักงานทยอยลาออก และออกจากงาน

ซึ่งพนักงานทั้ง 3 คนที่มาร้องผู้สื่อข่าว ว่าพวกตนเป็นพนักงานรุ่นที่ 2 ซึ่งมีด้วยกันประมาณ 30 คน เมื่อไม่ได้รับค่าจ้างแรงงานตามที่ตกลงไว้ ก็รวมตัวกันไปร้องต่อ หน่วยงานกระทรวงแรงงานที่จังหวัดตรัง ร้องศูนย์ดำรงค์ธรรมจ.ตรัง   ร้องสำนักงานอัยการจ.ตรัง(ฝ่ายช่วยเหลือประชาชน) ตำรวจ  และจะไปฟ้องศาลแรงงานแต่ต้องไปฟ้องที่จังหวัดสงขลา ทุกคนไม่มีเงินที่จะไปดำเนินคดี จึงตัดสินใจมาร้องผู้สื่อข่าว เพื่อให้ เจ้าหน้าที่รัฐช่วยเหลือแรงงาน อีกทั้งเตือนภัยสังคม เพราะผู้บริหารบริษัทนี่มีพฤติกรรมที่ส่อออกไปในทางทุจริต ไม่ยอมจ่ายค่าแรงงาน  เมื่อเจ้าหน้าที่กระทรวงแรงงานมาสอบถาม ก็อ้างว่า ไม่ใช่จ้างแรงงาน แต่เป็นสัญญาจ้างทำของ การอ้างอย่างนี้เพื่อไม่ต้องรับผิดตามกฎหมายแรงงาน แต่จะให้ลูกจ้างไปฟ้องเรื่องผิดสัญญาจ้างทำของเอาเอง   ซึ่งลูกจ้างทุกคนไม่มีเงินตั้งทนายสู้คดี  พนักงานในบริษัทนี่ ออกไป 2 รุ่น รุ่นละประมาณ 30 คน  อดีตลูกจ้างที่มาร้องผู้สื่อข่าวเป็นรุ่นที่ 2 ชุดปัจจุบันเป็นรุ่นที่ 3 ยังทำงานอยู่

 

อดีตลูกจ้างบอกอกว่า บริษัทดังกล่าวอ้างความน่าเชื่อถือ ว่าสนิทกับนักการเมืองดัง และคนมีชื่อเสียง มีตำแหน่งทางสังคมในจังหวัดตรัง  เช่นนายชวน   หลีกภัย นายระลึก หลีกภัย นายกิจ หลีกภัย นายขจรศักดิ์ เจริญโสภา ผวจ.ตรัง รวมทั้งนายกองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นชื่อดัง   จึงทำให้ลูกจ้างทุกคนเกิดเชื่อมั่นว่าบริษัทนี่จะมีความมั่นคง  จึงตัดสินใจเข้าทำงานด้วย

ทั้งนี้ช่วงที่ทำงานอยู่อดีตพนักงงาน (ผู้ร้อง) ขณะนั้นได้เดินทางไปพร้อมกับผู้บริหาร ไปยังพบ นายชวน หลีกภัย  นอกจากนั้นผู้บริหารยังไปนำเรียนโครงการกำจัดขยะกับผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง และนายกองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นต่างๆ เพื่อพูดคุยเกี่ยวกับโครงการโรงงานกำจัดขยะและโรงงานไฟฟ้าจากการเผาขยะ

น.ส.นลัทพร   ทองชนะ อายุ 25 ปี กล่าวว่า  บริษัทนี้ไม่ได้เปิดรับสมัครงานในเว็บ หรือ ประกาศรับสมัครแต่อย่างใด ใช้วิธีการเข้ามาทักทาย แนะนำให้ไปสมัครงาน แนะนำผ่านคนรู้จัก ซึ่งตนเข้าไปสมัครงานที่ โรงแรมสิริลัน กันตัง ซึ่งเป็นที่ตั้งของบริษัทในตอนนั้น เมื่อเข้าไปเขาแนะนำเรื่องสวัสดิการ ได้แก่ บอกว่าถ้ามาทำงาน 3 เดือนแรกจะจ่ายเป็นค่าจ้างรายวัน วันละ 300 บาท วันไหนทำก็ได้เงิน วันไหนไม่ทำก็ไม่ได้เงิน หลังจาก 3 เดือน หากผ่านทดลองงานจะได้รับเงินเดือน เดือนละ 22,000 บาท โดยตนทำงานไปแล้ว เกือบ 4 เดือนกว่าๆ แต่ตนยังไม่ได้เงินค่าจ้าง หรือ เงินเดือนเลยสักครั้ง จึงเข้าไปคุยกับผู้บริหาร ว่าทำไมไม่มีการจ่ายเงินให้ตนเลย เขาให้คำตอบว่าให้รอเงินก้อนใหญ่ที่กำลังจะเข้ามา ให้อดทน หลังจากนั้น 3-4วัน ทางบริษัทโอนเงินให้พนักงานคนละ 5,000 บาท โดยบอกว่าให้ไปใช้กันก่อน  ตนก็รอเงินเดือน โดยทำทำงานที่ต่ออีกเกือบ 6 เดือน ดูทีท่าจะไม่ได้เงิน จึงตัดสินใจลาออก

โดยบริษัทฯ แจ้งกับเราเป็นบริษัทรับกำจัดขยะ เอาขยะของชุมชนมากำจัดฟรีและเปลี่ยนเป็นแก๊สหุงต้ม ไฟฟ้า และจะตั้งโรงงานกำจัดขยะ ซึ่งตอนที่ตนสมัครงานออฟฟิสอยู่ภายในโรงแรมสิมิลัน อ.กันตัง ก่อนจะย้ายมาอยู่ที่ใหม่ บริเวณตรงข้ามโลตัสกันตัง

นางสาวจิตรลดา สกุลนิมิตธรรม อายุ 40 ปี กล่าวว่า พอไม่ได้รับเงินเดือนก็ได้ลาออก และได้ไปติดต่อที่แรงงานจังหวัดตรัง ซึ่งตนได้บอกกับเจ้าหน้าที่แรงงานจังหวัดตรังว่า ก่อนหน้านี้เคยมีลูกจ้างรุ่นหนึ่งมาแล้ว แต่เจ้าหน้าที่บอกว่าไม่เคยมีใครมาเลย และความจริงแล้วรุ่นที่หนึ่งไปแจ้งที่คุ้มครองแรงงานและสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน , สำนักงานประกันสังคม ซึ่งข้อมูลไม่ได้เชื่อมโยงกับแรงงานจังหวัดตรัง  ตอนที่ไปติดต่อแรงงานจังหวัดตนยังไม่ได้ลาออกจากบริษัทนั้น เพราะต้องการให้แรงงานมาตรวจสอบก่อน เพื่อจะได้ยืนยันว่าตนทำงานที่นั่นจริงๆ เป็นพยานให้ราชการได้  แต่เจ้าหน้าที่บอกว่าไม่เป็นไร ให้พวกตนลาออกได้เลย แล้วเขาจะไปตามเรื่องหลังจากนั้น  ซึ่งเหตุผลที่ตนตัดสินใจทำงานกับบริษัทนี้ เพราะเขาโน้มน้าวว่าบริษัทจะให้เงินเดือนเทียบเท่ากับ กฟผ. เงินเดือนดี สวัสดิการดี ลูก พ่อ แม่ สามารถเบิกค่ารักษาพยาบาลได้ ใครอยากเรียนต่อบริษัทจะส่งให้เรียนฟรี

น.ส.นลัทพร ทองชนะ กล่าวเสริมว่า เจ้าหน้าที่แรงงานได้ไปสอบถาม สัมภาษณ์ ตรวจสอบ ประธานบริษัท  ซึ่งก่อนจะเข้าไปทางแรงงานจังหวัดได้ส่งจดหมายไปก่อน แต่ไม่มีใครรับจดหมาย จดหมายจึงถูกตีกลับ

นางสาวจิตรลดา สกุลนิมิตธรรม กล่าวต่อไปว่า หลังจากไม่มีคนรับจดหมายเจ้าหน้าที่จึงลงพื้นที่ไปตรวจสอบ  เมื่อเจ้าหน้าที่แรงงานเข้าไป ซึ่งตนทราบว่ามีคนในบริษัทเป็นญาติกับเจ้าหน้าที่ของแรงงานจังหวัด ซึ่งตนคนคิดว่ามีลับลมคมในในการตรวจสอบข้อเท็จจริง

หลังจากการตรวจสอบ มีการระบุว่าตนและพนักงานคนอื่นๆ ไม่มีการเซ็นชื่อเข้า ออก ทำงาน แต่ความจริงแล้วมีการลงชื่อเข้าออกทุกวัน และ เป็นลักษณะของงานจ้างงานเป็นชิ้น เป็นจ๊อบ จ่ายเงินเป็นชิ้นงานไป

โดยเจ้าหน้าที่แรงงานจังหวัดตรัง แจ้งกับพวกตนว่าเรื่องนี้ไม่เข้าข่ายแรงงาน เพราะเป็นการทำงานเป็นจ๊อบ ไม่มีการลงชื่อเข้างาน แรงงานจึงดำเนินการไม่ได้ และให้พวกตนยกเลิกคำร้อง และให้ไปเดินเรื่องที่ศาลแรงงาน จังหวัดสงขลา โดยเจ้าหน้าที่ให้เหตุผลว่าถ้าพวกตนไปติดต่อศาลแรงงานด้วยตนเอง จะเสร็จเร็วกว่าให้แรงงานจังหวัดฯเป็นผู้ดำเนินการ แต่เพื่อนหลายๆคนไปที่ศาลแรงงานไม่ได้ เพราะไม่มีเงิน จึงได้ทำเป็นหนังสือมอบอำนาจให้ตนไปยื่นต่อศาลแทน ซึ่งมีประมาณ 10 กว่าคน

และตนได้ไปร้องที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดตรัง เพื่อขอความเป็นธรรมจากผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง และเจ้าหน้าที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดตรัง ได้นัดพวกตนไปให้ข้อมูลเพิ่มเติม และเจ้าหน้าที่แนะนำให้ไปแจ้งความไปแจ้งความ  แต่จนถึงทุกวันนี้ยังไม่มีอะไรคืบหน้า

หลังจากนั้นตนและเพื่อนได้ไปติดต่อที่อัยการจังหวัดตรัง และทางอัยการแนะนำให้ไปคัดสำเนาหนังสือรับรองการทดทะเบียนบริษัท กับสนง.พาณิชย์จังหวัดตรัง อัยการแนะนำให้ตนกับเพื่อนรวมตัวไปแจ้งความที่สถานีตำรวจ รวมตัวกันได้ 12 คน ไปแจ้งความที่สถานีตำรวจ

นายกฤษณ์ จิตรมิตรมงคล อายุ 43 ปี กล่าวว่า เมื่อไปที่สถานีตำรวจ ตำรวจให้คำตอบกับพวกตนว่า เป็นคดีอาญา หากฟ้องเขาหากเขาไม่เคยทำความผิดมาก่อน โทษก็แค่ปรับนิดหน่อย แล้วเรื่องก็จบ และแนะนำตนและเพื่อนไปยื่นเรื่องที่ศาลแรงงาน ซึ่งตนได้ปรึกษากับทนายความคนหนึ่ง ซึ่งทนายแนะนำว่าหากชนะ บริษัทอาจจะจ่ายเงินให้พวกตนแค่งวดสองงวด หลังจากนั้นอาจไม่จ่ายเลยก็เป็นไปได้ ซึ่งคงต้องฟ้องต่อไปเรื่อยๆ พอฟังอย่างนั้นก็ทำให้รู้สึกท้อ

นายกฤษณ์  กล่าวเพิ่มเติมว่า ในขณะที่พฤติกรรมของนายจ้างก็ยังทำอย่างนี้อย่างต่อเนื่อง ยังใช้วิธีชวนคนให้มาทำงาน บอกว่าได้รับเงินเดือนดี ได้สวัสดิการดี เทียบเท่ากับรัฐวิสากิจชั้นนำของไทย และนายจ้างยังอ้างอีกว่า เขารู้จักกับผู้มีชื่อเสียงในจังหวัดตรัง เช่น ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง นายชวน หลีกภัย(ประธานรัฐสภา) นายกิจ หลีกภัย (อดีตนายกอบจ.ตรัง) นายระลึก หลีกภัย (น้องชายนายชวน หลีกภัย) ตลอดทั้งนายกเทศบาลต่างๆ และนายกอบต.หลายแห่ง

โดยการกระทำของนายจ้างทำให้พวกตนเสียโอกาส บางคนต้องกู้หนี้ยืมสินมาใช้จ่ายระหว่างรอเงินเดือนในแต่ละเดือน ต้องเสียโอกาสในการทำงานที่อื่น เช่นตนตัดสินใจลาออกจากบริษัทขนส่งพัสดุแห่งหนึ่งเพื่อมาทำงานที่นี่ ขณะนี้พวกตนไม่ได้รับเงินค่าจ้างจากบริษัทนี้ คนละ 30,000-50,000 บาท จึงอยากออกมาเตือนภัย ให้คนที่หางานทำให้ตรวจสอบข้อมูลของบริษัทที่รับสมัครงานให้ดีเสียก่อน

 

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน