เจ้าหน้าที่กอ.รมน.และป่าไม้ ลาดตระเวนตรวจสอบพื้นที่สวนปาล์มน้ำมันหมดสัมปทานจุดมีปัญหากลุ่มอิทธิพลจ้างวานฆ่าแกนนำ เพื่อเฝ้าระวังการบุกรุกพื้นที่ป่า และลดปัญหาความขัดแย้งของนายทุน กลุ่มอิทธิพล และกลุ่มชาวบ้านในพื้นที่ พบยังมีการเข้าลักลอบตัดผลปาล์มรอยใหม่ๆ ด้านเจ้าหน้าที่ระบุที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่จับกุมผู้บุกรุก และลักลอบเก็บของป่าได้อย่างต่อเนื่อง ทั้งตัวนายทุนกลุ่มผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ ซึ่งเรียกค่าเสียหายสูงถึง 45 ล้านบาท เรื่องยังอยู่ในชั้นอัยการ และชาวบ้านที่ลักลอบเข้ามาหาของป่า แต่ยอมรับดูแลยาก เพราะพื้นกว้างใหญ่ ส่วนใหญ่ลักลอบเข้ามากลางคืน ขณะนี้รอความชัดเจนจากหน่วยงานระดับสูงจะแก้ปัญหาเรื่องสวนปาล์มน้ำมันหมดสัมปทานทั้งระบบอย่างไร เพราะเป็นปัญหาเหมือนกันหมดทั่วประเทศ
วันที่ 20 พฤษภาคม 2564 กำลังเจ้าหน้าที่กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน และหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ ตง.(ย่านตาขาว-ปะเหลียน) เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษป่าไม้ตรัง นำโดย พ.อ.สุริยา ช่วยบำรุง หัวหน้ากลุ่มนโยบายแผนและการข่าว กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดตรัง และนายสมนึก กุนหลัด หัวหน้าชุดปฏิบัติการพิเศษป่าไม้ตรัง ลงพื้นที่ลาดตระเวนพื้นที่สวนปาล์มน้ำมันหมดสัมปทาน ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าสายควน – ป่าคลองร่มเมือง และป่าเกาะอ้ายกลิ้ง หมู่ 3 ต.วังมะปราง อ.วังวิเศษ จ.ตรัง ซึ่งเดิมนั้น บริษัท ตรังค์ธารทอง จำกัด ได้ขออนุญาตสัมปทานใช้พื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติฯ ปลูกปาล์มน้ำมัน เนื้อที่ 638.18 ไร่ ตั้งแต่ 14 ส.ค. 2545 และสิ้นอายุการขออนุญาต เมื่อ 19 ธ.ค.2558 จึงเกิดปัญหาความขัดแย้งระหว่างนายทุน ,ผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ที่เข้ายึดครอบครองพื้นที่ เพื่อเก็บผลอาสินปาล์มน้ำมันอย่างต่อเนื่อง กับชาวบ้านที่เรียกร้องให้ทางหน่วยงานของรัฐจัดสรรที่ทำกินให้กับผู้ยากไร้ ไม่มีที่ดินทำกิน ซึ่งกรมป่าไม้อยู่ระหว่างกำหนดแนวทางการปฎิบัติ เนื่องจากมีปัญหาในลักษณะเดียวกันทั่วประเทศ โดยที่จ.ตรัง ล่าสุด กลุ่มอิทธิพลที่เข้าไปครอบครองได้จ้างวานฆ่านายสมศักดิ์ อ่อนชื่นจิตร หรือทนายเหว่า แกนนำชาวบ้านจนเสียชีวิต เมื่อวันที่ 4 พฤษภาคมที่ผ่านมา โดยเจ้าหน้าที่สามารถจับผู้ต้องหาได้แล้วจำนวน 3 คนตามข่าวที่นำเสนอไป ทั้งนี้ การลาดตระเวนดังกล่าว ตามโครงการเพิ่มประสิทธิภาพด้านการป้องกันและปราบปรามการบุกรุกทำลายทรัพยากรป่าไม้ เพื่อเฝ้าระวังการบุกรุกพื้นที่ป่า และลดปัญหาความขัดแย้งของนายทุนกลุ่มอิทธิพล และกลุ่มชาวบ้านในพื้นที่ ทั้งนี้ พบว่ายังมีการลักลอบเข้าไปตัดผลปาล์มรอยใหม่ๆ บางต้นยังทิ้งทลายปาล์มอ่อนและตัดทางปาล์มทิ้งไว้ที่โคนต้น คาดเป็นฝีมือของเยาวชนติดยาเสพติด และคงมีการลักลอบเข้ามาตัดในเวลากลางคืน อาจมองไม่เห็นผลปาล์มที่ยังอ่อน
ด้านนายสมนึก กุนหลัด หัวหน้าชุดปฏิบัติการพิเศษป่าไม้ตรัง กล่าวว่า ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่จับกุมผู้บุกรุก และลักลอบเก็บของป่าได้อย่างต่อเนื่อง รวมแล้ว 4 คดี ได้ตัวผู้ต้องหา 2 ราย และไม่ได้ผู้ต้องหาอีก 2 ราย ของกลางที่ได้จะเป็นรถมอเตอร์ไซพ่วงข้าง และผู้ต้องหารายที่เป็นนายทุนกลุ่มผู้มีอิทธิพลและมีตำแหน่งเป็นกำนันดังคนหนึ่งในอ.ห้วยยอด พร้อมเครื่องจักรกลซึ่งเรียกค่าเสียหายสูงถึง 45 ล้านบาท เรื่องยังอยู่ในชั้นอัยการ แต่ยอมรับดูแลยาก เพราะพื้นกว้างใหญ่ ส่วนใหญ่ลักลอบเข้ามาตอนกลางคืน ส่วนแนวทางแก้ปัญหาขณะนี้ ต้องรอความชัดเจนจากหน่วยงานระดับสูงจะแก้ปัญหาเรื่องสวนปาล์มน้ำมันหมดสัมปทานทั้งระบบอย่างไร เพราะเป็นปัญหาเหมือนกันหมดทั่วประเทศ เจ้าหน้าที่ในพื้นที่ทำได้เพียงการลาดตระเวนป้องกันไม่ให้คนบุกรุกและลักลอบเข้าไปหาของป่า พร้อมเตือนประชาชนเนื่องจากพื้นที่สวนปาล์มน้ำมันหมดสัมปทานแล้ว ย่อมตกเป็นของรัฐใครจะเข้าบุกรุกและเก็บของป่าเป็นการทำผิดกฎหมาย จะจับกุมดำเนินคดีอย่างเด็ดขาด
