X

ส.ส.สาทิตย์จวกรัฐหย่อนยานปล่อยยิง”ทนายเหว่า”แกนนำเรียกร้องสิทธิที่ดินสัมปทาน 638 ไร่

 ตรัง – ส.ส.สาทิตย์ ระบุ คนร้ายลอบยิงแกนนำเรียกร้องที่ดินทำกินสวนปาล์มหมดสัมปทาน เกิดจากความหย่อนยานของหน่วยงานรัฐ ทั้งจังหวัด และเจ้าหน้าที่กรมป่าไม้ กระทรวงทรัพย์ ฯ ที่ปล่อยให้กลุ่มอิทธิพลเข้าไปครอบครองพื้นที่ จนเกิดเหตุขัดแย้งกับชาวบ้านที่ต้องการได้รับการจัดสรรที่ดินจากรัฐ เรียกร้องจับคนร้ายให้ได้ เพราะเหิมเกริม ไม่เกรงกลัวกฎหมาย  เชื่อหากไม่จับกุมเครือข่ายจะยังมีแกนนำตายอีก ขอตำรวจเร่งคุ้มครอง

วันที่ 5 พฤษภาคม 2564 จากกรณีเกิดเหตุคนร้ายไม่ทราบจำนวน เย้ยกฎหมายบุกยิง นายสมศักดิ์ อ่อนชื่นจิตร หรือทนายเหว่า  อายุ 54 ปี  อยู่บ้านเลขที่  164 หมู่ 4 ต.เขาวิเศษ อ.วังวิเศษ ซึ่งเป็นแกนนำเรียกร้องสิทธิที่ดินทำกินสวนปาล์มน้ำมันหมดสัมปทาน เนื้อที่ 638 ไร่ ใน อ.วังเศษ จ.ตรัง ให้แก่ชาวบ้านที่ยากไร้  โดยเสียชีวิตกลางสวนยางพารา หมู่ที่ 10 ต.วังมะปราง ใกล้สวนปาล์มน้ำมันหมดสัมปทานดังกล่าว  สภาพศพถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด.357เข้าที่บริเวณหน้าท้อง 1 นัด แขนขวา 1 นัด และบริเวณเท้าทั้งสองข้างรวม 4 นัด  โดยเหตุเกิดเมื่อเช้าวานนี้ (4 พ.ค.) ขณะที่ผู้ตายเข้าสวนยาง พร้อมมีดพร้า 1 เล่ม เพื่อเข้าไปทำสวน

โดยสาเหตุเชื่อว่า เกิดจากปัญหาการขัดขวางกลุ่มอิทธิพลในพื้นที่เข้าไปครอบครองสวนปาล์มน้ำมัน  เพราะที่ผ่านมาผู้ตายเป็นแกนนำคนสำคัญร้องเรียนหน่วยงานต่างๆ ทั้งระดับอำเภอ จังหวัด กองทัพภาค 4  ,กอ.รมน.ในพื้นที่ และส่วนกลาง และร้องเรียนคณะกรรมาธิการที่ดินฯ สภาผู้แทนราษฎร  จนต่อมาเจ้าหน้าที่ป่าไม้เพิกเฉยไม่ได้ต้องดำเนินการจับกุมกำนันดังคนหนึ่ง  ซึ่งอยู่ในกลุ่มผู้มีอิทธิพลที่ตั้งแก๊งเข้าไปครอบครองเก็บผลประโยชน์ในสวนปาล์มน้ำมันดังกล่าว  (โดยในแก๊งดังกล่าว ประกอบด้วย กำนันมีตำแหน่งปัจจุบัน 2 คน อักษรย่อ.กำนัน ล.และกำนัน พ.และนักการเมืองท้องถิ่นอีก 1 คน อักษรย่อ.ช.) โดยเข้าไปบุกรุกปรับไถพื้นที่ เพื่อยึดสวนปาล์มเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ จนกำนันคนดังกล่าวถูกจับกุมดำเนินคดี และกรมป่าไม้ เรียกร้องค่าเสียหายจำนวน 45 ล้านบาท โดยทนายเหว่า เป็นพยานปากเอกในคดีนี้  และขณะนี้เรื่องยังอยู่ในชั้นอัยการ ประกอบกับเจ้าหน้าที่ป่าไม้ ยังปล่อยให้นักการเมืองท้องคนดังในพื้นที่ อักษรย่อ ช. ยังเข้าไปเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ โดยไม่จับกุม หรือถ้าจับกุมก็จับแต่ชาวบ้านตัวเล็กๆ ที่ลักลอบเข้าไปเก็บผลผลิตปาล์ม  แต่นักการเมืองคนดังกล่าว ไม่ถูกจับกุม และมีการจ่ายผลประโยชน์ให้เจ้าหน้าที่ในพื้นที่ครั้งละ 20,000 – 200,000 บาท ล่าสุด มีรายงานข่าวว่า ก่อนเกิดเหตุประมาณ 3 วัน นักการเมืองคนดังกล่าวเข้าไปเก็บผลปาล์มน้ำมัน  แล้วไปพบกับทนายเหว่า ซึ่งเข้าสวนตามปกติ  ก็ถูกทนายโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ป่าไม้ให้เข้าไปจับกุม โดยเจ้าหน้าที่ป่าไม้เข้าไปพร้อมตำรวจ แต่ไม่มีการจับกุม สร้างความโกรธแค้นแก่นักการเมืองอักษรย่อ ช.เป็นอย่างมาก  จนมีการท้าทายกันเกิดขึ้นกลางสวนปาล์มน้ำมัน  โดยผู้ตายขู่ว่า ถ้านักการเมืองคนดังกล่าว ได้รับการรับรองผลการเลือกตั้งเมื่อไร???   จะร้องเรียนเรื่องนี้ให้หลุดจากตำแหน่ง จึงเชื่อว่าทั้ง 2 ประเด็นดังกล่าว น่าจะเป็นชนวนสำคัญ ของการที่แกนนำคนดังกล่าวถูกลอบยิงเสียชีวิตในครั้งนี้  ส่วนความรุนแรงในพื้นที่ทวีความรุนแรงขึ้นมายาวนานตลอด 1 ปีที่มีการร้องเรียน เช่น ชาวบ้านที่เข้าไปขโมยเก็บผลปาล์ม ถูกกลุ่มอิทธิพลลอบยิง การตัดฟันต้นยาง การยิงปืนข่มขู่ชาวบ้าน ซึ่งทุกฝ่ายในจังหวัด รู้ปัญหาความขัดแย้งที่รุนแรงในพื้นที่มาโดยตลอด

นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย

นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย กล่าวว่า ตนเองเห็นว่ากรณีนี้อุกอาจมาก  ซึ่งในกรณีนี้จริงๆ แล้วทุกฝ่ายในจังหวัดตรัง รวมถึงกรมป่าไม้ ได้รับทราบปัญหานี้มาโดยตลอด โดยในส่วนของผู้ตายกับตนเองได้รู้จักกันมา 2 -3 ปีแล้ว เพราะว่าเขาได้มาร้องเรียนที่ตนเอง ทั้งในฐานะ สส.ในพื้นที่ และในฐานะที่เป็นคณะกรรมาธิการการที่ดิน รวมถึงกรรมาธิการวิสามัญการแก้ปัญหาในการออกเอกสารสิทธิ์ในที่ดินด้วย และที่สำคัญก็คือ ตนเองกับคณะกรรมาธิการได้เคยลงพื้นที่นี้ไปแล้ว ตอนลงไปในพื้นที่นี้ทางผู้ตายหรือทนายเหว่า แกนนำชาวบ้านรวมถึงทางป่าไม้ทางเขต 12 รวมทั้งทางหน่วยชุดเฉพาะกิจป่าไม้ตรัง ก็อยู่ในพื้นที่ด้วยกัน แล้วชาวบ้านก็ได้เล่าให้ฟังถึงความรุนแรงที่เกิดขึ้นที่นั่น ในเมื่อสวนป่าที่นั่นหมดสัญญาการเช่ากับกรมป่าไม้ โดยหลักแล้วกรมป่าไม้จะต้องประกาศให้ผู้ที่ครอบครองอยู่ด้วยวิธีใดก็ตามที่ส่วนใหญ่ผิดกฎหมายหมดออกไปก่อน และค่อยเข้ามาจัดการพื้นที่ แต่ปรากฏว่ายังมีกลุ่มผู้มีอิทธิพลเข้าไปทำประโยชน์  ซึ่งในวันที่กรรมาธิการไปก็ได้ขอให้ทางกรมป่าไม้เข้มงวดกับเรื่องนี้และก็ดำเนินการ  ซึ่งก็ทราบว่ามีการดำเนินการบางส่วนเท่านั้น แต่ก็ยังปล่อยให้มีกลุ่มผลประโยชน์เข้าไปครอบครองพื้นที่อยู่ ซึ่งคาดหมายอยู่แล้วว่าจะเกิดความขัดแย้งกัน เพราะว่าจะมีกลุ่มชาวบ้านที่จะเข้าไปเก็บลูกปาล์มน้ำมันก็เคยมีการใช้อาวุธปืนยิงข่มขู่กันมาแล้ว  กรรมาธิการทราบเรื่องแล้วก็ได้ขอให้ทางกรมป่าไม้เข้มงวด เพื่อไม่ให้เกิดเหตุร้ายแบบนี้เกิดขึ้น แต่ว่าหลังจากนั้นได้มีความพยายามที่จะขอที่ดินที่เป็นที่หมดสัญญา ไปทำประโยชน์จัดสรรให้กับชาวบ้านที่ยากจนได้ทำกินในรูปแบบ คทช. (คณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ) ซึ่งทนายเหว่าก็เป็นแกนนำคนหนึ่งร่วมกับชาวบ้าน ซึ่งตนเองก็ไปรับทราบเรื่องนี้ แล้วก็เป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยประสานงานให้ทราบว่าทางเขตป่าไม้ได้รับทราบเรื่องนี้แล้วก็เตรียมการที่จะลงรางวัดที่ดิน เพราะมีการประชุมร่วมกับชาวบ้านไปแล้ว แต่ว่ารู้มาตลอดว่ายังมีความขัดแย้งกันอยู่ เพราะว่ากลุ่มผลประโยชน์ในพื้นที่ไม่ยอม พยายามจะอ้างต่างๆ นานา เช่น อ้างว่า จะขอต่อสัญญาบ้าง จะขอเก็บหาของป่าบ้าง ซึ่งก็ไม่มีใบอนุญาตใดๆ เพราะฉะนั้นตนเองคิดว่าเป็นเรื่องที่น่าเสียใจที่เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นมาจากการไม่เด็ดขาดไม่เอาจริงเอาจังของทั้งกรมป่าไม้ ทั้งป่าไม้เขต 12 โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตรัง ตนเองได้คุยกับผู้รับผิดชอบหลายท่าน รวมถึงผู้ว่าราชการจังหวัด  ซึ่งเคยเล่าให้ฟังครั้งหนึ่ง ซึ่งเป็นเรื่องเกี่ยวกับการขออนุญาตเก็บหาของป่าว่าทางกรมเขาไม่มีนโยบายให้แล้ว ทีนี้พอปัญหามาเกิดแบบนี้ตนเองถือว่าเป็นเรื่องที่อุกอาจ รุนแรง ไม่เกรงกลัวกฎหมาย และเป็นความหย่อนยานของเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบในเรื่องนี้ด้วย โดยทันทีที่ทราบเรื่องตนเองได้แจ้งไปทางไลน์ให้คณะกรรมาธิการการที่ดินได้รับทราบว่ามีเหตุร้ายแบบนี้เกิดขึ้น และก็เป็นส่วนหนึ่งที่กรรมาธิการที่ดินกำลังหาทางแก้ไขปัญหาอยู่แล้วด้วย  แล้วตนเองได้โทรศัพท์ไปประสานงานยังคณะทำงานผู้ใกล้ชิดของรัฐมนตรีกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมด้วย ได้มีข้อเสนอแนะไว้หลายๆ เรื่อง และยังได้คุยโทรศัพท์กับผู้ใหญ่ภายในจังหวัดได้รับทราบ เรื่องนี้ว่าเป็นเรื่องที่อุกอาจรุนแรงมาก และต้องขอให้มีการดำเนินการให้เฉียบขาดในเรื่องนี้ด้วย  ซึ่งเบื้องต้นตนเองคิดว่า 1.กรมป่าไม้จะต้องประกาศ หรือโดยป่าไม้เขต หรือใครก็แล้วแต่ว่าที่ที่เช่าที่หมดสัญญาแล้วไม่ว่าใครก็ตามต้องออกจากพื้นที่โดยเด็ดขาด  และ 2. จะต้องมีนโยบายให้ชัดว่าไม่ต่อสัญญาเช่าให้ ไม่อนุญาตให้เก็บหาของป่า และ 3.ในกรณีที่ทนายเหว่าเดินเรื่องเอาไว้แล้วกับชาวบ้านจะขอไปไปจัดสรรที่ดินรูปแบบของคทช.ให้กับชาวบ้านที่ยากจน ซึ่งทางป่าไม้ก็รับเรื่องนี้ไปแล้วซึ่งขอให้ดำเนินการต่อ และข้อที่ 4.ที่สำคัญมากจะต้องดำเนินการจับกุมคนร้ายรายนี้ ซึ่งตนเองเชื่อในฝีมือตำรวจว่าถ้าทำจริงจะทำได้ แล้วเรื่องนี้อย่าปล่อยปละละเลย เพราะว่าการทำแบบนี้เหมือนกับหยามกฎหมายของบ้านเมืองมาก แล้วยังปล่อยให้คดีนี้ลอยนวลอีก เราจะเชื่อใจคดีนี้ไม่ได้แล้ว ในเวลาเดียวกันตนเองคิดว่าหน่วยชุดเฉพาะกิจกรมป่าไม้ ทางกรมป่าไม้ก็ต้องพิจารณาด้วยว่ามีอะไรเกี่ยวข้องกับกรมป่าไม้ตอนนี้ด้วยหรือไม่ แล้วก็ขอให้สั่งการให้เฉียบขาด ชุดเฉพาะกิจจะต้องเข้าไปดำเนินการควบคุมพื้นที่ และผลักดันกลุ่มผลประโยชน์กลุ่มผู้มีอิทธิพลออกไปจากพื้นที่เสีย ซึ่งกรณีนี้ไม่ใช่เป็นกรณีเดียวที่เกิดขึ้นเคยมีเกิดขึ้นในหลายจังหวัดมาแล้ว เพราะของความไม่เด็ดขาดของกรมป่าไม้กระทรวงทรัพย์ฯ และปล่อยให้ปัญหาคาราคาซังมาชีวิตคนต้องตายไป โดยที่แก้ปัญหาอะไรไม่ได้อย่าปล่อยให้เป็นไปแบบนี้อีก เพราะตนเองเชื่อว่าเรื่องนี้ไม่จบง่ายๆ แน่ และเบื้องต้นตอนนี้ตนเองได้คุยกับฝั่งตำรวจว่าขอให้ช่วยดูแลแกนนำชาวบ้านที่ร่วมกันต่อสู้ด้วย เพราะเท่ากับว่าเหตุการณ์แบบนี้เกิดทุกคนก็เหมือนถูกคุกคามแล้ว

แฟ้มภาพ

นายสมศักดิ์ อ่อนชื่นจิตร หรือทนายเหว่า(ผู้ตาย)

 

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน