ตรัง ผู้สมัครส.อบจ.เข้าติดตามการทำสำนวนคดีซื้อเสียงหวั่นมวยล้ม

ตรัง – ผู้สมัครส.อบจ.เข้าติดตามการทำสำนวนคดีซื้อเสียงหวั่นมวยล้ม “สาธร” ร้อง “กิจ หลีกภัย” แจกถุงยังชีพน้ำท่วมอาจเข้าข่ายจูงใจเลือกตั้ง เป็นทรัพย์สินที่อาจคิดคำนวนเป็นเงินได้
ตรัง – ผู้สมัครส.อบจ.ตรัง เขตเลือกตั้งที่ 1.อ.วังวิเศษ เข้าพบผู้กำกับการ สภ.เขาวิเศษ เพื่อเร่งรัดติดตามความคืบหน้าคดีซื้อเสียง โดยตั้งข้อสังเกตว่าเวลาผ่านมาครบ 1 เดือนแล้ว แต่ตำรวจยังสอบพยานและผู้เกี่ยวข้องไม่แล้วเสร็จ และพบมีกระแสข่าวความไม่ชอบมาพากลในการเรียกสอบพยานหวั่นคดีจะพลิก เอาผิดผู้สมัครไม่ได้ ขณะเดียวกัน กกต.กลางยังไม่รับรองผลการเลือกตั้งนายก อบจ.ตรัง และพบมีการร้องเรียนอดีตนายก อบจ.นำถุงยังชีพของประธานสภาผู้แทนราษฎรไปช่วยผู้ประสบภัยแต่ยกนิ้วขอคะแนนเสียงให้ผู้สมัครนายก อบจ.คนหนึ่ง

ทั้งนี้เมื่อวันที่ 15 มกราคม 2564 ที่ผ่านมา กกต. ประกาศรับรองผลการเลือกตั้งนายก และสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ครบถ้วนทั้ง 76 จังหวัดแล้ว โดยในส่วนของนายก อบจ. นั้น กกต.ประกาศรับรองผล 32 ราย ส่วนอีก 44 ราย กกต.ยังไม่ประกาศรับรอง เนื่องจากอยู่ระหว่างการตรวจสอบเรื่องร้องเรียน และ ส.อบจ.ประกาศรับรองแล้วรวม1,946 ราย จากจำนวนสมาชิกที่ได้รับการเลือกตั้งทั้งหมด 2,316 ราย ขณะเดียวกันมี ส.อบจ. ที่ กกต.ยังไม่ประกาศรับรอง เนื่องจากมีเรื่องร้องเรียน 370 ราย โดยกรณีนายก อบจ. ที่ถูกร้องเรียน และอยู่ระหว่างถูกสอบข้อเท็จจริงนั้น กกต.จะมีอำนาจพิจารณาตามกรอบกำหนดเวลาถึงวันที่ 19 กุมภาพันธ์2564

“จังหวัดตรัง” เป็นหนึ่งในพื้นที่ที่มีเรื่องร้องเรียน และในพื้นที่ก็มีบรรยากาศตึงเครียดมาตั้งแต่วันนับคะแนน โดยผลการเลือกตั้งอย่างไม่เป็นทางการ ปรากฏว่า ’โกเล้ง’ หรือ ‘นายบุ่นเล้ง โล่สถาพรพิพิธ’ หัวหน้าทีม“กิจปวงชน” เบอร์ 1 พี่ชายของ ‘โกหนอ’หรือ ‘นายสมชาย โล่สถาพรพิพิธ’ อดีต ส.ส.ตรัง พรรคประชาธิปัตย์หลายสมัย และมีศักดิ์เป็นลุงของ “ท่ามเฮง” หรือ “นางสาวสุณัฐชา โล่สถาพรพิพิธ”ส.ส.ตรัง พรรคประชาธิปัตย์ เป็นผู้ชนะการเลือกตั้ง ได้คะแนน 162,419 คะแนน ขึ้นเป็นว่าที่นายก อบจ.ตรัง

อย่างไรก็ดี “บุ่นเล้ง โล่สถาพรพิพิธ”เบอร์ 1 ก็ถูก “นายสาธร วงศ์หนองเตย” ร้องเรียนกล่าวหาว่ากระทำการทุจริตเลือกตั้งในหลายกรณี พร้อมยื่นพยานหลักฐานจำนวนมากประกอบการพิจารณา โดยปัจจุบันเอกสารหลักฐานเหล่านี้ อยู่ระหว่างการสอบสวนของ กกต.ตรัง นอกจากนี้ยังมีคดีจับกุมการกระทำทุจริตซื้อเสียงเลือกตั้งได้อย่างคาหนังคาเขา มีผู้ต้องหาให้การรับสารภาพในชั้นพนักงานสอบสวนถึง 2 คดี

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 19 มกราคม เวลา 14.30 น ที่สภ.เขาวิเศษ อำเภอวังวิเศษ จังหวัดตรัง นายเทพวิทูล ม้าฤทธิ์ ผู้สมัครสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดตรัง เขต.1 อ.วังวิเศษ พร้อมด้วยทนายความ เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.มนตรี มีเภตรา ผกก.สภ.เขาวิเศษ เพื่อขอความเป็นธรรมและสอบถามความคืบหน้าคดี การกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2563 โดย สภ.เขาวิเศษ ได้จับกุมตัวนายวิชิต พลอินทร์ อดีตผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 10 ต.ท่าสะบ้า อ.วังวิเศษ และ ตรวจค้นตามร่างกายและในกระเป๋าพบของกลางเป็นเงินสด จำนวน 1,200 บาท ที่เหลือจากการแจกชาวบ้านเพื่อซื้อเสียงพร้อมสายรัดเงินมัดละ 10,000 บาท บัญชีรายชื่อจำนวนหนึ่ง จากการสอบสวนเบื้องต้นนายวิชิตฯ ให้การรับสารภาพ หัวคะแนนผู้สมัครสมาชิกสภา อบจ.ตรัง เขต 1 อ.วังวิเศษ คนหนึ่ง โดยจ่ายเงินซื้อเสียงในราคาหัวละ 300 บาท ซึ่งพนักงานสอบสวน สภ.วังวิเศษ แจ้งข้อหาดำเนินคดีในข้อหาหาเสียงในเวลาต้องห้าม และการจัดเตรียมเงินเพื่อให้เงิน หรือ แจกจ่ายเงินให้แก่ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ตามพระราชบัญญัติการเลือกตั้ง มาตรา 65 และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง

โดยการเข้าพบผู้กับกับการสภ.วังวิเศษในครั้งนี้ ใช้เวลานานเกือบ 1 ชั่วโมง โดยผกก.สภ.เขาวิเศษ ไม่อนุญาตให้ผู้สื่อข่าวรับฟังแต่อย่างใด ซึ่งหลังการให้ข้อมูลเพิ่มเติมจากนายเทพวิมล และ ทนายความ พ.ต.อ.มนตรี มีเภตรา ผกก.สภ.เขาวิเศษ ปฏิเสธไม้ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวแต่อย่างใด โดยอ้างว่าคดีแบบนี้เป็นอำนาจของ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตรัง ในการให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน แต่ได้ตอบคำถามผู้สื่อข่าวเพียงสั้นๆ ว่า ตนยืนยันจะทำงานอย่างเต็มที่

ทั้งนี้หลังการเข้าพบ ผกก.เขาวิเศษ ในวันนี้ นายเทพวิทูล ม้าฤทธิ์ และ ทนายความ ได้เดินทางไปยังสำนักงานกกต.ตรัง เพื่อยื่นหนังสือคัดค้านการเลือกตั้งสมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัดตรังและนายกอบจ.ตรัง โดยได้เข้าสอบถามความคืบหน้าการสอบสวนในส่วนของกกต.ตรังกับ นายชัชชัย งามวิวัฒน์อนันต์ พนักงานสืบสวนและไต่สวนชำนาญการรักษาการในตําแหน่งกลุ่มงานสืบสวนสอบสวนและพรรคการเมืองประจำกกต.จังหวัดตรังเป็นระยะเวลานานกว่า 1 ชั่วโมง

นายเทพวิทูล ม้าฤทธิ์ กล่าวว่า หลักฐานทุกอย่างมีความชัดเจน ซึ่งตอนนี้ทั้งเอกสารหนักฐานยังมีอยู่ ซึ่งมีปรากฏตามรายงานของสื่อมวลไปแล้ว ซึ่งตนทราบว่าการติดตามตัวพยานบุคคล ที่มีชื่อระบุในบัญชีรายชื่อชาวบ้านทีมีการจ่ายเงินให้ จำนวน 40 คน ทางเจ้าหน้าที่ตร.เรียกบุคคลเหล่านั้นมาสอบสวนเป็นบางรายเท่านั้น ประเด็นตรงนี้ตนก็ยังมีความกังขาอยู่ นอกจากประเด็นนี้แล้วตนคิดว่าขั้นตอนการสอบสวนเป็นไปด้วยความล่าช้ากว่าที่ควรจะเป็น

ด้านนายธเนศณัฏฐ์ สุคนธพันธ์ ทนายความ กล่าวว่า การเข้าพบ พ.ต.อ.มนตรี มีเภตรา ผกก.สภ.เขาวิเศษ ในวันนี้ทางนายเทพวิมลฯ ได้ให้ปากคำเพิ่มเติม และ ให้รายเพิ่มเติมเรื่องโทรศัพท์มือถือที่มีความเกี่ยวโยงกับผู้ที่อยู่เบื้องหลังการกระทำผิดทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นผู้ใช้ ผู้บงการ และผู้อยู่เบื้องหลัง ทั้งหมด รวมไปจนถึงบัญชีรายชื่อชาวบ้าน โดยเรียกร้องให้ติดตามตัวมาสอบสวนให้ครบทั้ง 40 คน ซึ่งผู้กำกับได้รับปากว่าจะนำทุกคนมาสอบสวนให้ครบตามข้อเรื่องร้องที่ทางตนเสนอ และ เรียกร้องให้มีการตรวจสอบที่มา เส้นทางของเงินที่ใช้ในการกระทำความผิด ว่ามาจากธนาคารไหน ใครเป็นผู้เบิก เพื่อจะได้สาวถึงตัวผู้กระทำผิด และ ผู้บงการอยู่เบื้องหลัง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นอกจากนี้ยังมีประเด็นต้องจับจากรณีนายบุ่นเล้ง โล่สถาพรพิพิธ ว่าที่นายกอบจ.ตรัง ผู้สมัครเบอร์ 1 ถูก นายสาธร วงศ์หนองเตย ผู้สมัครนายกอบจ.ตรัง เบอร์ 2 หัวหน้าทีมตรังพัฒนาเมืองตรัง ร้องเรียนกล่าวหาว่ากระทำการทุจริตเลือกตั้งในหลายกรณี พร้อมยื่นพยานหลักฐานจำนวนมากประกอบการพิจารณา โดยปัจจุบันเอกสารหลักฐานเหล่านี้ อยู่ระหว่างการสอบสวนของ กกต.ตรัง โดยมีประเด็นข้อร้องเรียนที่มีความน่าสนใจ คือร้องเรียนถึงพฤติกรรมการปฏิบัติอันอาจขัดต่อกฎหมายเลือกตั้งของ นายกิจ หลีกภัย อดีตนายกอบจ.ตรัง อดีตหัวหน้าทีมกิจปวงชน ในฐานะของที่ปรึกษาหาเสียงของทีมกิจปวงชนปัจจุบันที่นำโดยนายบุ่นเล้ง

รายงานข่าวจากกกต.ตรัง แจ้งว่า ข้อมูลการร้องเรียนดังกล่าว คือ กรณีคำร้องคัดค้านการเลือกตั้งนายก และ ส.อบจ.ตตรัง ลงนามโดยนายสาธร วงศ์หนองเตย โดยระบุการเลือกตั้งดังกล่าวเป็นไปโดยไม่สุจริตหรือเที่ยงธรรม และไม่ชอบด้วยกฎหมาย มีการกระทำความผิดเลือกตั้ง ตามพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่นพ.ศ. 2562 และระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้ง ว่าด้วยการเลือกตั้ง สมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ. 2562 ระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้งว่าด้วยวิธีการหาเสียงและลักษณะต้องห้ามในการเสียงตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ . 2563 พร้อมกับมีการแนบรูปภาพเอกสารมาด้วย

โดยนายสาธร ยื่นคำร้องกล่าวหาดังนี้ 1.นายกิจ หลีกภัย อดีตหัวหน้าทีมกิจปวงชน และอดีตนายก อบจ.ตรัง 2.นายบุ่นเล้ง โล่สถาพรพิพิธ ผู้สมัครรับเลือกตั้งนายก อบจ.ตรัง โดยนายสาธร กล่าวอ้างว่า นายกิจ หลีกภัย เป็นผู้ช่วยหาเสียงให้กับนายบุ่นเล้ง โล่สถาพรพิพิธ นอกจากนี้นายบุ่นเล้ง ยังได้เข้าปรึกษาหารือกับนายกิจ เพื่อวางนโยบายอีกด้วย โดยปรากฎข้อเท็จจริงตามคำสัมภาษณ์ และการโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก นอกจากนี้นายกิจยังหาเสียงให้กับทีมกิจปวงชน ในหลายพื้นที่เขตเลือกตั้ง จ.ตรัง โดยพฤติการณ์ของนายกิจ หลีกภัย ได้นำถุงยังชีพ ซึ่งเป็นทรัพย์สินอันอาจคำนวณเป็นเงินได้ แจกจ่ายแก่ผู้มีสิทธิเลือกตั้งในเขตเลือกตั้ง จ.ตรัง หลายครั้ง โดยเผยแพร่ภาพถ่ายโดยการโพสต์ภาพ และข้อความในระบบสื่อออนไลน์(เฟซบุ๊ก)ของนายกิจเอง