ตรัง เกษตรกรหัวใสตอนกิ่งพันธุ์มะละกอได้สำเร็จ

ทั้งนี้ เจ้าของความคิดตอนกิ่งพันธุ์มะละกอ ได้สาธิตวิธีการตอนกิ่งพันธุ์ให้ดู เริ่มจากคัดต้นพันธุ์ที่สูงและยังสมบูรณ์ แต่ยากในการเก็บผลผลิต จากนั้นใช้วิธีการตัด หรือเลื่อยต้นเก่าทิ้ง โดยให้สูงจากพื้นประมาณ 1 เมตร จากนั้นนำถุงพลาสติกไปปิดครอบลำต้นไว้ ป้องกันไม่ให้ถูกฝน จนเวลาผ่านไปประมาณ 20 – 30 วัน กิ่งใหม่ก็จะแตกขึ้นมา โดยปล่อยกิ่งใหม่จำนวน 1 กิ่ง ให้เจริญเติบโต โดยใช้เวลาประมาณ 6 เดือน ก็จะออกผล ก็สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตต่อไปได้อีก ส่วนกิ่งอื่นๆ ที่ยาวประมาณ 20 – 25 เซนติเมตร สามารถตอนเป็นกล้าพันธุ์ได้ ซึ่งวิธีการตอน คือ นำขุยมะพร้าวและถ่านแกลบสีดำที่ผ่านการเผา นำมาคลุกเคล้าให้เข้ากัน จากนั้นหมักทิ้งไว้ แล้วนำมาบรรจุใส่ถุงพลาสติดใส

ส่วนวิธีการตอนกิ่งตาที่แตกแขนงออกมาจากลำต้นนั้น 1.ใช้มีดกรีดที่ใต้ตากิ่ง ให้ลึกเข้าไปเป็นปากฉลาม ประมาณ 3 ส่วน 4 จากนั้นใช้กาบไผ่ที่ตัดเป็นแผ่นเล็กๆ นำไปสอดไว้ เพื่อไม่ให้เนื้อเยื่อเชื่อมติดกัน จากนั้นใช้มีดกรีดถุงที่บรรจุขุยมะพร้าวแล้ว รดน้ำให้ชุ่มแล้วนำไปประกบกับกิ่งที่ปาดแผลไว้แล้วบีบให้อัดแน่น จากนั้นใช้เชือกฟางมัดส่วนบน และส่วนล่างให้ยึดแน่นติดกัน ปล่อยทิ้งไว้ประมาณ 30 -45 วัน ก็จะเกิดราก สามารถตัดกิ่งตอนไปเพาะชำ หรือนำไปปลูกลงดินได้เลย ต้นที่ได้จะออกผลเร็ว ต้นเตี่ย ลูกดกเหมือนเดิม ไม่กลายพันธุ์ ประหยัดต้นทุน

นายสุเทพ เอี่ยมอักษร อายุ 49 ปี เกษตรกร กล่าวว่า มะละกอเรดเลดี้ เดิมซื้อกล้าพันธุ์จากศูนย์เพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ มาจาก จ.เชียงใหม่ ในราคาต้นละ 90 – 100 บาท และต้องเสียเงิน และเสียเวลาเดินทางไปรับที่สนามบินหาดใหญ่ หรือที่สนามบินจ.กระบี่ ไม่สามารถจะใช้บริการขนส่งพัสดุได้ แต่ขณะนี้สามารถตอนกิ่งพันธุ์ได้ ก็ลองผิดลูกถูกมานาน ว่าจะต้องใช้วิธีการตอนแบบไหน ปาดกิ่งแบบไหน เพราะต้นมะละกอไม่มีแกนไม้ หรือจะปาดกี่เปอร์เซ็นต์ของลำต้น ก็ทดลองเรื่อยๆ แรกๆล้มเหลว สุดท้ายก็ค้นพบวิธีการและทำสำเร็จด้วยวิธีดังกล่าว หากจำหน่ายทันที กิ่งละ 100 -110 บาท หรือหากนำไปปักชำในกระถางก่อน จำหน่ายต้นละ 150 บาท คุณภาพที่ได้คือ ต้นเตี้ย ออกผลเร็ว ลูกดก ไม่กลายพันธุ์ และยังประหยัดต้นทุนในการซื้อกล้าพันธุ์ของชาวสวนด้วย ทั้งนี้ หากจะขยายพันธุ์โดยวิธีการเพาะเมล็ดจะกลายพันธุ์ถึง 90% แต่การขยายพันธุ์โดยวิธีการตอนกิ่งจะได้คุณภาพผลผลิตเช่นเดียวกับแม่พันธุ์