เกษตรกรชาวสวนปาล์มน้ำมัน โอดราคาปาล์มน้ำมันพุ่งสูงขึ้นในช่วงไม่มีผลผลิต ขณะที่ราคาปุ๋ยยังสูง และต้องใส่ตามปกติ
วันที่ 16 พฤศจิกายน 2563 ชาวบ้านซึ่งรับจ้างตัดผลผลิตปาล์มน้ำมันประมาณ 5 -6 คน พร้อมอุปกรณ์ตัดปาล์มน้ำมัน ยังรวมกลุ่มกันออกรับจ้างตัดผลผลิตปาล์มน้ำมันที่สุกคาต้นตามปกติ ในพื้นที่หมู่ 2 ต.หนองช้างแล่น อ.ห้วยยอด จ.ตรัง แม้ผลผลิตจะมีน้อยมาก แต่ก็ต้องตัดขาย เพราะผลร่วงสุกคาต้นและราคาสูง แม้จะได้ไม่คุ้มเหนื่อย เนื่องจากผลผลิตมีน้อยมาก ขณะที่ราคาปาล์มน้ำมันขณะนี้สูงมากถึงกิโลกรัมละ 7.80 บาท แต่มีรายได้ไม่คุ้มค่าเหนื่อย แม้จะได้ค่ารับจ้างตัดตันละ 500 บาท เนื่องจากผลผลิตมีน้อยมาก ทลายลีบ และเล็ก โดยเฉพาะแปลงนี้เนื้อที่ประมาณ 50 ไร่ สามารถตัดผลผลิตได้เพียงประมาณ 2 ตันเท่านั้น จากเดิมปกติเคยตัดได้ประมาณ 15-16 ตัน (หรือประมาณ 3 ไร่ต่อตัน )
โดยนายพร้อม ศรีสง อายุ 64 ปี เกษตรกรเจ้าของสวนปาล์มน้ำมัน กล่าวว่า ในปีนี้ต้นปาล์มน้ำมันขาดลูกตลอดทั้งปี สาเหตุเนื่องจากเมื่อช่วงหน้าแล้งของต้นปีนี้ ประมาณเดือนกุมภาพันธ์ – เมษายน 2563 ในพื้นที่จังหวัดตรังประสบปัญหาภัยแล้ง ทำให้ต้นปาล์มน้ำมันทั้งจังหวัด ต้นแห้ง ใบแห้ง จึงส่งผลทำให้ไม่แตกช่อดอก และไม่มีผลผลิต ส่วนของตนเองมีสวนปาล์มน้ำมันอยู่จำนวน 3 แปลง รวมเนื้อที่เกือบ 100 ไร่ ตั้งแต่ราคาปาล์มน้ำมันพุ่งสูงขึ้น ตนเองตัดผลผลิตขายได้แค่ครั้งเดียว ประมาณ 2 – 3 ตันเท่านั้น โดยคนงานใช้เวลาตัดแค่ประมาณ 3 วันก็เสร็จ เพราะแต่ละแปลงมีผลผลิตประมาณ 20 ทลายเท่านั้น ซึ่งถือว่าน้อยมาก จากเดิมใช้เวลาตัดนานประมาณ 1 สัปดาห์ ทั้งนี้ สาเหตุมาจากสภาพอากาศแล้งจัดตั้งแต่เมื่อต้นปี 2563 คอแห้ง ใบตาย ไม่มีช่อดอกเกิดใหม่ ทั้งนี้ หากเจอสภาพดังกล่าวต้องใช้เวลาประมาณ 1-2 ปี ในการฟื้นสภาพตัวเอง ทำให้ในปีนี้แม้ราคาปาล์มน้ำมันจะสูงขึ้น แต่ตนเอง รวมทั้งเกษตรกรเจ้าของสวนปาล์มน้ำมันทุกราย ไม่ได้ประโยชน์อะไรเลย ขณะที่ราคาปุ๋ยยังแพง และต้องใส่ตามปกติ โดยตกกระสอบละเกือบ 600 บาท ขณะนี้ตนเองสั่งมาใหม่เกือบ 100 กระสอบ โดยทางบริษัทจัดรายการพิเศษ 2 วัน ลดให้กระสอบละ 25 บาท ก็เตรียมนำมาใส่อีก โดยปุ๋ยหากมีการปรับราคาขึ้นแล้วก็จะไม่มีการปรับลงอีกเลย ทำให้เกษตรกรเดือดร้อน ขณะที่บนต้นตอนนี้ก็ไม่ดอกใหม่ คาดว่าปีหน้าก็ยังไม่มีผลผลิต และหากเจอสภาพแล้งอีกครั้งในหน้าแล้งนี้ จะยิ่งส่งผลรุนแรงมากขึ้น
