นายอำเภอกันตังเปิดบ้านพัก ใช้พื้นที่ว่างริมรั้วข้างบ้านพักปลูกผักสวนครัวหลากชนิดเป็นตัวอย่างแก่ราษฎร ภายใต้โครงการ 90 วัน สร้างความมั่นคงทางอาหาร เพื่อแบ่งปันแจกจ่ายให้แก่เจ้าหน้าที่อาสาสมัครรักษาดินแดน และเพื่อนบ้านใกล้เคียง และเป็นแบบอย่างให้แก่ผู้นำและชาวบ้านเพื่อนำไปต่อยอดขยายสู่ลูกบ้านต่อไป โดยตั้งชื่อสวนนี้ว่า “บ้านพักมีรัก ปลูกผักแบ่งปัน”
วันที่ 7 สิงหาคม 2563 ที่บ้านเลขที่ 1 ถนนเขื่อนเพ็ชร อ.กันตัง จ.ตรัง ซึ่งเป็นบ้านพักของนายจักรพงษ์ รัชนีกุล นายอำเภอกันตัง ได้ใช้บริเวณพื้นที่ว่างข้างบ้านพักปลูกพืชผักสวนครัวกว่า 30 ชนิด เพื่อเป็นตัวอย่างแก่ราษฎรในพื้นที่ ได้แก่ เสาวรส ผักบุ้ง ผักเหมียง ผักหวาน กระชาย ข่า ตะไคร้ ขมิ้น พริก มะเขือ ถั่วฝักยาว มะนาว มะกรูด ผักชีฝรั่ง ปูเล่ มะขาม ต้นคูน กะเพรา ชะอม แค กะเพรา มะเม่า และอีกจำนวนมากซึ่งล้วนเป็นพืชผักที่จำเป็นและอยู่คู่ครัวคนไทย ภายใต้โครงการ 90 วัน สร้างความมั่นคงทางอาหาร ยึดแนวทางตามพระราชดำรัสของในหลวง ร.9 เศรษฐกิจพอเพียง เพื่อแบ่งปันแจกจ่ายให้แก่เจ้าหน้าที่อาสาสมัครรักษาดินแดน ลูกน้องข้าราชการ รวมทั้งประชาชนที่มีบ้านอยู่ใกล้เคียงบ้านพักนายอำเภอ เมื่อทราบก็สามารถเก็บไปรับประทานได้ และเป็นแบบอย่างให้แก่ผู้นำชุมชน และชาวบ้าน โดยตั้งชื่อสวนนี้ว่า “บ้านพักมีรัก ปลูกผักแบ่งปัน” คาดหวังประชาชนปลูกพืชผักสวนครัวไว้รับประทานเองในครัวเรือน ประหยัดรายจ่าย และหากเหลือกินสามารถจำหน่ายเป็นรายได้เสริมอีกด้วย
ด้านนายจักรพงษ์ รัชนีกุล นายอำเภอกันตัง กล่าวว่า จุดเริ่มต้นมาจากโครงการพัฒนาชุมชน 90 วันมั่นคงทางอาหารได้เน้นย้ำให้ทางผู้นำ ได้ดำเนินปลูกผักสวนครัว เพื่อสร้างความมั่นคงทางอาหารช่วงโควิด 19 ซึ่งเป็นไปตามแนวพระราชดำรัสของในหลวงร.9 เรื่องของเศรษฐกิจพอเพียง ตรงนี้เองทางอำเภอเห็นว่านายอำเภอน่าจะมีบทบาทในเรื่องของการเป็นตัวอย่างให้แก่พี่น้องประชาชนในพื้นที่ จึงร่วมกับทางส่วนราชการและผู้นำท้องถิ่น ท้องที่ได้มาจัดทำโครงการ 90 วัน สร้างความมั่นคงทางอาหารขึ้น ซึ่งผักที่ปลูกไว้มีหลากหลายชนิดล้วนจำเป็นในชีวิตประจำวัน ได้แก่ ผักบุ้ง พริก มะเขือ เสาวรส ปูเล่ มะระ ถั่วฝักยาว คะน้า ผักกาด ผักน้ำ และอีกหลายชนิดประมาณ 30 กว่าชนิด จะเน้นพืชผักสวนครัวที่ชาวบ้านปลูกได้เอง เกิดขึ้นง่าย โดยใช้บริเวณพื้นที่ว่างข้างบ้านปลูกไว้ข้างริมรั้ว พืชผักเหล่านี้ที่ปลูกไว้ ใครจะมาเก็บก็เก็บไปได้ โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่อาสาสมัครรักษาดินแดน ข้าราชการ และเพื่อนบ้านใกล้เคียง โดยตั้งชื่อสวนนี้ว่า “บ้านพักมีรัก ปลูกผักแบ่งปัน” ที่สำคัญจะได้เป็นแบบอย่างให้แก่ราษฎร เพราะหลังจากนี้จะกำชับในการประชุมประจำเดือนกำนัน ผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ เพื่อขยายผลอย่างต่อเนื่องไปสู่บ้านลูกบ้านของตนเองต่อไป จะได้มีผักปลอดสารพิษไว้กินเอง ไม่ต้องจ่ายเงินซื้อ ประหยัดรายจ่ายในครัวเรือน ซึ่งผักแต่ละชนิดประชาชนสามารถปลูกเอาไว้บริเวณพื้นที่ว่างข้างบ้านได้ โดยไม่จำเป็นต้องปลูกจำนวนมาก แต่มีหลากหลายไว้ใช้รับประทานในครัวเรือน ประหยัดรายจ่ายของครอบครัว เพราะทั้งหมดเป็นพืชผักที่จำเป็นในครัวเรือน ซึ่งหากประชาชนปลูกไว้รับประทานเองในครัวเรือน นอกจากปลอดสารพิษแล้ว เชื่อว่าจะประหยัดค่าใช้จ่ายในครัวเรือนได้เป็นอย่างมาก จึงอยากส่งเสริมให้ประชาชนปลูกผักไว้รับประทานเองในครัวเรือน
