X

ตรัง กาแฟทำมือสินค้าขึ้นชื่อ อ.รัษฎา

เกษตรกรชาว อ.รัษฎา หันหลังให้กับการทำสวนยางพารา และสวนปาล์มน้ำมัน ที่ราคาไม่แน่นอน หันปลูกกาแฟ และเพาะขยายกล้าพันธุ์ส่งขายต่างจังหวัด รวมทั้งนำผลผลิตจากแปลงตนเอง และของเกษตรกรในพื้นที่มาแปรรูปเป็นกาแฟคั่วมือ และแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ ภายใต้ชื่อ Ratsada Coffee หรือกาแฟรัษฎา ส่งขายเป็นสินค้าขึ้นชื่อของ อ.รัษฎา อีกทั้งช่วยเหลือเกษตรกรในพื้นที่มีตลาดรองรับ โดยเกษตรกรแนะประชาชนควรปลูกกาแฟไว้กินเองในครัวเรือนละ 5 ต้น และนำมาแปรรูปง่ายๆกินเอง และกากกาแฟนำมาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ใช้เองในครัวเรือนได้ด้วย

วันที่ 5 สิงหาคม 2563 ที่วิสาหกิจชุมชนกาแฟรัษฎาและแปรรูปผลผลิตทางการเกษตร หมู่ 8 บ้านหนองครก ต.หนองปรือ อ.รัษฎา จ.ตรัง ของนางกนกวรรณ คำเนตร และครอบครัว เดิมประกอบอาชีพทำสวนยางพารา และสวนปาล์มน้ำมัน บนเนื้อที่ 8 ไร่ แต่ขณะนี้ได้ทยอยตัดโค่นสวนยางพารา และสวนปาล์มน้ำมันทีละเล็กละน้อย หันทำการเกษตรแบบผสมผสานแทนทั้งการ เลี้ยงไก่ เลี้ยงหมู ที่สำคัญหันปลูกพืชเศรษฐกิจที่สำคัญคือ กาแฟพันธุ์ โรบัสต้า อีกทั้งการนำเมล็ดพันธุ์มาเพาะผลิตกล้าพันธุ์จำหน่ายทั้งในพื้นที่และต่างจังหวัด เช่น จ.ระนอง ,จ.กระบี่ ,จ.พัทลุง และจ.นครศรีธรรมราช เป็นต้น นอกจากนั้นยังได้นำผลผลิตเมล็ดกาแฟจากสวน และรับซื้อจากเกษตรกรในพื้นที่มาแปรรูปเป็นกาแฟคั่วมือ โดยใช้ภูมิปัญญาชาวบ้าน เช่น ตำกับครก คั่วด้วยมือและตากแดดแทนการอบ เป็นต้น จะได้กาแฟสดที่มีรสชาติกาแฟแท้ๆ และปราศจากสารเคมีมาจำหน่าย และแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ ภายใต้ชื่อ แบรนด์ของตนเอง “ Ratsada Coffee “ หรือกาแฟรัษฎา ที่ใช้ประโยชน์จากทุกส่วนของกาแฟ เช่น ก้านดอกกาแฟมาตากแดดทำเป็นชาดอกกาแฟ, เมล็ดกาแฟทำเป็นเมล็ดกาแฟสำเร็จบรรจุถุง และกาแฟผงคั่วมือบรรจุในซอง พร้อมซองสำหรับชงดื่ม , กากกาแฟที่ผ่านมาการชงมาแล้ว 1 ครั้ง นำมาทำเป็นผงสครับ สำหรับขัดผิว ทำสบู่อาบน้ำ ทำก้อนน้ำหอม เพื่อจำหน่ายให้แก่โรงแรม รีสอร์ท ตามเกาะต่างๆ เรียกได้ว่านอกจากเป็นกาแฟสดสำหรับคอกาแฟแล้ว ยังสามารถส่วนอื่นที่ปกติอาจเหลือทิ้ง นำมาแปรรูปเป็นสินค้าได้ทุกส่วน ปลอดสารเคมี ไร้สารพิษ ที่สำคัญสำหรับกาแฟ เกษตรกรสามารถปลูกแซมในสวนยางพารา และปาล์มน้ำมันได้ด้วย และกลายเป็นแหล่งศึกษาดูงานสำหรับเกษตรกร และประชาชนทั่วไปด้วย

นางกนกวรรณ คำเนตร วิสาหกิจชุมชนกาแฟรัษฎาและแปรรูปผลผลิตทางการเกษตร กล่าวว่า นอกจากปลูกกาแฟเอง เน้นพันธุ์โรบัสต้า ตนเองยังเพาะเมล็ดเป็นกล้าพันธุ์เพื่อจำหน่ายผ่านระบบออนไลน์ให้แก่เกษตรกรที่สนใจด้วย โดยขณะนี้มีลูกค้าทั้งในพื้นที่และต่างจังหวัด เช่น จ.ระนอง,จ.พัทลุง,จ.กระบี่ และจ.นครศรีธรรมราช เป็นต้น สั่งซื้อเป็นจำนวนมาก ตั้งแต่ 100 – 500 ต้น นอกจากนั้นตนเองยังได้รับซื้อผลผลิตเมล็ดกาแฟจากเกษตรกรในพื้นที่ด้วย เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรที่ปลูกกาแฟได้มีตลาดรองรับ โดยตนเองนำมาแปรรูปสร้างมูลค่าด้วยภูมิปัญหาชาวบ้าน เป็นกาแฟโบราณแบบคั่วมือ โดยตากแดด คั่วมือ บทด้วยเครื่องบดธรรมดา แทนใช้เครื่องจักรเหมือนโรงงานผลิตกาแฟทั่วไป เสน่ห์ที่ได้จะเป็นกาแฟสดโบราณคั่วมือ คงรสชาติของกาแฟแท้ ส่วนกากกาแฟที่เหลือยังนำมาแปรรูปทำเป็นผลิตภัณฑ์อื่นๆอีกหลายรายการ โดยขณะนี้มีผลิตภัณฑ์แล้วทั้งหมดหลายรายการ เช่น ก้านดอกกาแฟมาตากแดดทำเป็นชาดอกกาแฟ, เมล็ดกาแฟทำเป็นเมล็ดกาแฟสำเร็จบรรจุถุง และกาแฟผงคั่วมือบรรจุในซอง พร้อมซองสำหรับชงดื่ม , กากกาแฟที่ผ่านมาการชงมาแล้ว 1 ครั้ง นำมาทำเป็นผงสครับ สำหรับขัดผิว ทำสบู่อาบน้ำ ทำก้อนน้ำหอม เพื่อจำหน่ายให้แก่โรงแรม รีสอร์ท ตามเกาะต่างๆ ภายใต้ชื่อแบรนด์ “ Ratsada Coffee” หรือกาแฟรัษฎา ซึ่งเป็นสินค้าขึ้นชื่อของ อ.รัษฎา โดยปัจจุบันส่งขายออนไลน์ทัวไป เสียงตอบรับดีมาก ทั้งนี้ สำหรับการตอนการทำผลิตภัณฑ์จากกาแฟต่าง เช่น ก้านดอกกาแฟที่ถูกต้นสลัดทิ้งหลังติดผล จะนำมาตากแดดให้แห้ง ทำเป็นชากาแฟ จะได้รสชาติชาที่หวาน และออกขมนิด จะหอมกรุ่นอร่อยมาก, ส่วนเมล็ดกาแฟสำหรับทำเป็นกาแฟ จะนำมาตากแดดให้แห้ง เพื่อกะเทาะเปลือกออก จากนั้นนำเมล็ดมาตากซ้ำ และนำไปตำในครก เครื่องมือตำข้าวแบบโบราณ จากนั้นคัดแยกเปลือกทิ้ง แล้วนำไปตากแดดอีกครั้งประมาณ 2 -3 อาทิตย์ เพื่อให้ได้เมล็ดกาแฟแท้ที่แห้งเป็นอย่างดี ไม่มีความชื้น เมื่อนำไปคั่วจะหอม ในขั้นตอนนี้สามารถนำมาบรรจุเป็นเมล็ดกาแฟสำเร็จ ใส่ถุงๆ ละ 1 กิโลกรัม เพื่อคนซื้อจะได้นำไปคั่วและบดเอง เป็นกาแฟคั่วสดทำมือด้วยตัวเองได้ หรือจะนำเมล็ดกาแฟที่ตากแดดจนแห้งแล้วไปคั่วด้วยกระทะทองเหลือง จนร้อนจัดจนกลายเป็นสีดำ จากนั้นนำมาใส่เครื่องบดเล็กๆ จะได้กาแฟผงสำเร็จ พร้อมชงดื่ม หรือวางไว้ให้เย็น จากนั้นบรรจุผง จำหน่ายให้คอกาแฟนำไปบดเอง พร้อมดื่มก็ได้ด้วย โดยเมล็ดกาแฟสำเร็จยังไม่บด น้ำหนักถุงละ 1 กิโลกรัม ราคาจำหน่ายถุงละ 180 บาท ส่วนกาแฟคั่วมือ บรรจุซองๆ ละ 20 พร้อมถุงชง

ส่วนกากกาแฟ หากนำมาบดให้ละเอียดเป็นพิเศษ จะได้ผงสครับ ขัดผิว ขัดหน้า ขัดตัวช่วยผลัดเซลล์ผิว ขจัดสิวเสี้ยน ลดความมันบนใบหน้า หรือหากท่านใดจะนำไปผสมกับสมุนไพรอื่นสำหรับขัดผิว เช่น นำไปผสมกับผงขมิ้น ขมิ้นชัน ผงทานากา หรืออื่นๆ ตามที่ชอบ จะช่วยขัดผิวทำให้ผิวสวยกระจ่างใสได้ โดยไม่มีสารเคมีเจือปน ทำลายผิว โดยผงสครับขัดผิว ราคากล่องละ 20 บาท

ส่วนสบู่และก้อนน้ำหอม วิธีทำง่าย ๆ เพียงนำหม้อบรรจุน้ำ นำไปวางบนกระทะที่มีน้ำร้อน จากนั้นใส่ก้อนกลีเซอรีนลงไปต้มจนละลาย โดยกลีเซอรีนเป็นส่วนช่วยหล่อลื่น เหมือนมอยซ์เจอร์ไรเซอร์เพื่อปกป้องผิวไม่ให้แห้งและดูดซับความชื้น ไม่เป็นอันตรายต่อผิว (เหตุที่ไม่ต้มกลีเซอร์รีนบนเตาโดยตรง เพราะกลัวไหม้ และความร้อนสูงเกินไป ) จากนั้นใส่ผงกาแฟคั่วบดละเอียดลงไป และคนให้เป็นเนื้อเดียวกัน โดยหากคนจะต้องคนไปทางใดทางหนึ่ง เพื่อให้ละลายเป็นเนื้อเดียวกัน ไม่จับเป็นก้อน จากนั้นเติมหัวน้ำหอมลงไปเล็กน้อย เมื่อได้แล้วก็นำไปเทลงในเบ้ารูปร่างต่างๆ จะได้ก้อนสบู่ และก้อนน้ำหอมที่หอมกรุ่น รูปร่างและขนาดจะแตกต่างกันไป ราคาก็แตกต่างกันด้วย เช่น ก้อนสบู่สำหรับครัวเรือน จำหน่ายก้อนละ 25 บาท ก้อนเล็กๆขนาดพกพา รูปดอกกุหลาบ ก้อนละ 2.50 บาท

ส่วนราคาจำหน่าย สำหรับต้นกล้าพันธุ์กาแฟโรบัสต้า ใช้เวลาเพาะเลี้ยงประมาณ 1 ปี ก็สามารถจำหน่าย นำไปปลูกได้แล้ว ราคาต้นละ 30 บาท หากอายุ 7 – 8 เดือน ราคาต้นละ 20 บาท

นางกนกวรรณ กล่าวอีกว่า อยากให้ประชาชนที่ชอบดื่มกาแฟ ปลูกกาแฟไว้รับประทานเองที่บ้าน เพียงครัวเรือนละ 5 ต้น สามารถเก็บเมล็ดมาตากแดด และคั่วบดไว้กินเอง สะอาดปลอดภัย ไม่มีสารพิษ ส่วนก้านดอกกาแฟมาทำเป็นชากาแฟได้ด้วย ส่วนกากกาแฟที่ผ่านการชงแล้ว ก็นำมาแปรรูปทำเป็นสบู่ล้างหน้า อาบน้ำ หรือใช้สำหรับขัดผิว ไม่ต้องเสียเงินไปซื้อจากที่ผลิตจากโรงงาน ซึ่งไม่ปลอดภัย ส่วนชาวสวนที่มีพื้นที่ก็อยากให้ปลูกกาแฟแซมในสวนยางพารา ถือเป็นพืชเศรษฐกิจตัวใหม่ ทั้งได้กินเอง และได้ขาย มีรายได้เสริมตลอดปี ไม่ต้องพึ่งพายางพาราและปาล์มน้ำมันเพียงอย่างเดียว ซึ่งราคาขึ้นลงไม่แน่นอน หากใครสนใจ ซื้อพันธุ์กาแฟโรบัสต้า ติดต่อได้ทางเฟซบุ๊ก Ratsada Coffee วิสาหกิจชุมชนกาแฟรัษฎาและแปรรูปผลผลิตทางการเกษตร 093 – 7074031

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน