ตระกูล “โล่สถาพรพิพิธ”ตรัง นักธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง ค้าวัสดุก่อสร้างรายใหญ่ในพื้นที่ และนักการเมือง ควักกระเป๋ากว่า 4 แสนบาท จัดซื้อไข่ไก่ หน้ากากอนามัย พร้อมเงินสด 200 บาท แจกช่วยเหลือประชาชนยากจนที่ประสบความเดือดร้อนและได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด 10 ยืนยันรัฐบาลแก้ปัญหาถูกทาง และขอปชช.ร่วมมือต่อไป และเห็นด้วยคลายล๊อกเรื่องร้านอาหาร แต่ส่วนของจังหวัดตรัง คงให้คงด่านการคักกรองเข้มต่อไป เพราะยังไว้ใจในสถานการณ์ไม่ได้ หวั่นระบาดซ้ำจะรุนแรงกว่าเดิม
วันที่ 29 เมษายน 2563 ตระกูล “โล่สถาพรพิพิธ”ตรัง นักธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง ค้าวัสดุก่อสร้างรายใหญ่ในพื้นที่ และนักการเมือง ควักกระเป๋ากว่า 4 แสนบาท ช่วยปชช. โดยนายสมชาย โล่สถาพรพิพิธ อดีต สส.ตรัง พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า การจัดกิจกรรมช่วยเหลือประชาชน ในเขตเทศบาลตำบลย่านตาขาว และตำบลใกล้เคียง ที่ ประสบปัญหาความเดือดร้อนจากผลกระทบที่เกิดจากการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด 19 ในนามของครอบครัวตระกูล “โล่สถาพรพิพิธ” ซึ่งประกอบธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง ค้าวัสดุก่อสร้างรายใหญ่ในพื้นที่ และนักการเมือง เป็นการรวมใจสู้ภัยโควิด 19 โดยให้การช่วยเหลือประชาชนโดยตั้งเป้าไว้ 2,000 คน โดยให้ อสม.ในพื้นที่เป็นผู้สำรวจลดลงมาเหลือ 1,500 คน ด้วยการจัดไข่ไก่ 20 ฟอง เงินสด 200 บาท หน้ากากอนามัย 1 อันบรรจุในถุง เป็นเงินรวมกว่า 400,000บาท เป็นการคืนกำไรสู่สังคม ทางครอบครัวโล่สถาพรพิพิธขอขอบคุณประชาชนที่มารับสิ่งของดังกล่าวด้วยการตั้งแถวเว้นระยะห่างทำให้การแจกเป็นไปด้วยความเรียบร้อย โดยการแจก 1,000 คน ในเวลา 30 นาทีเท่านั้น ส่วนที่เหลือทยอยเดินทางมารับ เพราะมีการแจกคูปองไว้ล่วงหน้า เป้าหมายของกลุ่มประชาชนที่มารับในวันนี้จะต้องเป็นครอบครัวที่ยากจนประสบปัญหาความเดือดร้อนจากผลกระทบโควิด 19 โดยจะเฉพาะครอบครัวที่หาเช้ากินค่ำ เช่น อาชีพ ขับมอเตอร์ไซค์รับจ้าง แท็กซี่ พ่อค้าแม่ขาย และที่อาศัยบ้านเช่า แม้ว่าจะมีกลุ่มอื่นๆได้แจกให้ความช่วยเหลือกันบ้างแล้วก็ตาม แต่เชื่อว่าการให้ความช่วยเหลือจะต้องดำเนินการกันต่อไป จนกว่าจะเข้าสู่ภาวะปกติ สิ่งของที่นำมาแจกเล็กๆ น้อยทั้งไข่ไก่และเงิน 200 บาท ก็สามารถนำไปซื้อข้าวสารผักปลาได้เป็นการสร้างให้กระแสเงินได้หมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจอีกทางหนึ่ง
นายสมชาย กล่าวอีกว่า ในส่วนมาตรการที่ทางรัฐบาลต่อการล็อคดาวน์นั้น คิดว่าประชาชนส่วนใหญ่ก็เห็นด้วยอยู่แล้ว เพราะทุกคนอยากให้ประเทศผ่าวิกฤตินี้ไปให้ได้ ทุกคนยอมเสียสละ หากจะให้มีการคลายล็อคนั้น กลุ่มพ่อค้าแม่ค้าร้านค้าเล็กๆน้อยๆต้องเปิดให้เขาขายได้ อย่างน้อยจะได้มีรายได้เลี้ยงครอบครัวยกเว้นร้านที่ติดแอร์ แต่กลุ่มที่มีอัตราเสี่ยงสูงก็ต้องปิดไว้ก่อน อีกทั้งการตั้งด่านคัดกรองต่างๆก็ต้องยังคงดูแลให้เข้มข้นเหมือนเดิม จังหวัดหวัดตรังถือว่าน่าพอใจ และแต่ละจังหวัดจะต้องดูแลกันเองอย่างเข็มงวด ประชาชนก็ต้องให้ความร่วมมือ เพราะว่ารัฐบาลเดินทางถูกทางแล้ว หากจะมีการผ่อนคลายมากไปหากเกิดการแพร่ระบาดขึ้นมาใหม่จะแย่และควบคุมได้ยากที่ทำมาก็เหนื่อยเปล่า
ทางด้านชาวบ้านที่เดินมารับของ ก็กล่าวแสดงความดีใจที่ได้รับการช่วยเหลือ โดยบางคนบอกว่าได้รับเงินช่วยเหลือ 5,000 บาท จากรัฐบาลมาแล้ว แต่จำนวนมากบอกว่ายังไม่ได้รับเงิน 5,000 บาท แต่ไม่ทราบว่าตัวเองจะได้รับหรือไม่ เพราะลงทะเบียนไปแล้ว แต่ไม่ผ่าน
