สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาตรัง จัดโครงการอบรมทบทวนทักษะคนประจำเรือและเทคนิคการแก้ไขปัญหาทางวิกฤต โดยจะทบทวนทักษะตั้งแต่การตรวจความพร้อมของเรือ การเทียบท่า การจัดผู้โดยสารลงเรือ การจัดการบนเรือ จนถึง”เทคนิคการอพยพผู้โดยสาร และการสละเรือในภาวะวิกฤต”
ที่ท่าเทียบเรือปากเมง อำเภอสิเกา จังหวัดตรัง นายวินัย หมื่นสุวรรณ ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาตรัง เป็นประธานในพิธีเปิดการอบรมทบทวนทักษะคนประจำเรือ และเทคนิคการแก้ปัญหาในภาวะวิกฤต เป็นที่ทราบกันดีว่า “เมืองตรัง” เป็นเมืองท่า ด้านการค้าระหว่างประเทศที่เก่าแก่ และยิ่งใหญ่ที่สุดในฝั่งอันดามัน วิวัฒนาการมาเป็นลำดับจนถึงขณะนี้ นอกจากจะยังคงเป็นเมืองท่าด้านการค้าแล้ว ยังได้พัฒนาเป็นเมืองท่า…แห่งการท่องเที่ยวที่โดดเด่น ขึ้นชื่อระดับสากล เพราะความสวยงาม และความสมบูรณ์ของธรรมชาติทางทะเล อาทิ เกาะมุกด์ เกาะกระดาน ถ้ำมรกต สัตว์ทะเลหายาก และอื่น ๆ อีกมากมาย
โดยมีการจัดกิจกรรมทางน้ำประจำปีปีละหลายครั้ง เป็นที่จดจำแก่บุคคลทั่วไป ซึ่งในวันปกติจะมีนักท่องเที่ยว เข้า – ออก ท้องทะเลตรัง ไม่น้อยกว่าปีละกว่า 3 แสนคนมีเรือโดยสารให้บริการอยู่ในพื้นที่ จำนวน 135 ลำ เรือเร็ว (สปิดโบ๊ก) จำนวน 56 ลำ เรือเพลาใบจักรยาว 1,554 ลำ และเรือประมงอีก 1,067 ลำ จากข้อมูลข้างต้น จะเห็นได้ว่าการท่องเที่ยวทางน้ำ เป็นแหล่งรายได้ที่สำคัญของจังหวัดตรัง ส่งผลต่อรายได้ภาพรวมของประเทศ แต่การที่จะทำให้การท่องเที่ยวทางน้ำที่เป็นแหล่งรายได้มหาศาล มีความยั่งยืนเป็นที่น่าเชื่อถือนั้นต้องสร้างความมั่นคงในความปลอดภัยของการเดินทางทางน้ำ อันประกอบด้วย เรือ ท่าเรือ และคนประจำเรือสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาตรัง จึงได้ร่วมกับหน่วยงานภาคีทางน้ำ และภาคเอกชน กำหนดจัดอบรมทบทวนทักษะคนประจำเรือในเมืองท่าตรังขึ้นในวันนี้ ซึ่งมีผู้เข้ารับการอบรมตามโครงการจำนวน 50 คน
โดยจะทบทวนทักษะตั้งแต่การตรวจความพร้อมของเรือ การเทียบท่า การจัดผู้โดยสารลงเรือ การจัดการบนเรือ จนถึง “เทคนิคการอพยพผู้โดยสาร และการสละเรือในภาวะวิกฤต” เพื่อสร้างความเชื่อมั่นแก่นักท่องเที่ยว ให้เดินทางมาท่องเที่ยวเมืองท่าตรังเพิ่มขึ้น ซึ่งจะเป็นการเพิ่มรายได้ให้แก่พี่น้องประชาชน นำไปสู่การพัฒนาคุณภาพชีวิตต่อไป
