ชัยภูมิ – หลังให้ช่างมาใช้อุปกรณ์เครื่องเชื่อมซ่อมแซมเบาะหน้ารถที่ขาดพังเสียหาย พอซ่อมเสร็จได้ไม่นานรีบนำมาจอดเรียงคิวรอบรรทุกนำน้ำแข็งไปส่งให้ลูกค้า อยู่ดีกลับเกิดเพลิงไหม้วอดเสียหายทั้งคันอย่างรวดเร็ว ซึ่งโชคยังดีรถที่จอดอยู่ข้างเคียงอีกหลายสิบคันไม่ถูกไฟไหม้รุกลามครั้งนี้จนระเบิดรุนแรงตามไปด้วย จนสร้างความเสียหายหนักกลางโรงงานครั้งนี้รอดไปได้อย่างหวุดหวิด!
เมื่อเวลา 19.25 น.วันที่ 21 พ.ค.61 ร.ต.อ.ศิริ จันดีศรี รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองชัยภูมิ รับแจ้งจาก 191สถานีตำรวจภูธรเมืองชัยภูมิ ว่ามีเหตุไฟไหม้รถ ภายในโรงน้ำแข็งประสงค์ทรัพย์ ที่ตั้งอยู่หมู่ที่ 3 ตำบลหนองนาแซง อำเภอเมือง จังหวัดชัยภูมิ จึงเร่งรุดไปตรวจที่เกิดเหตุ พร้อมหน่วยกู้ภัยสว่างคุณธรรมชัยภูมิ
ในที่เกิดเหตุ พบรถยนต์ 6 ล้อดัดแปลงเป็นรถบรรทุกน้ำแข็ง ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว-ฟ้า ป้ายทะเบียน 81-3090 หมวดจังหวัดบุรีรัมย์ ซึ่งพนักงานภายในโรงงานกำลังช่วยกันฉีดน้ำและนำถังเคมีช่วยสกัดเพลิงจนดับเรียบร้อยแล้ว เหลือเพียงความเสียหาย และควันไฟบริเวณด้านหน้าของตัวรถยนต์คันดังกล่าว
และจากสอบถามไปยัง นายชูศักดิ์ เชาว์พลกรัง อายุ 50 ปี อาศัยบ้านเลขที่ 29ห มู่ที่ 2 ตำบลหนองโดน อำเภอจัตุรัส จังหวัดชัยภูมิ ซึ่งเป็นผู้ดูแลโรงน้ำแข็งผลิตนำแข็งดังกล่าว ให้การว่า ตนได้ให้ลูกน้องซึ่งขับรถคันดังกล่าวได้ไปเรียกช่างมาซ่อมแซมเบาะรถในด้านหน้าที่ขาด หลังจากที่ได้ทำเสร็จได้ไม่นาน ก่อนให้นำรถดังกล่าวมาจอดรอภายในโรงงานที่ต้องต้องรอรับน้ำแข็งไปส่งให้ลูกค้า แต่จู่ๆได้เกิดไฟไหม้ขึ้นที่บริเวณหน้ารถดังกล่าว ก่อนที่จะเรียกให้พนักงานภายในโรงงานทั้งหมดมาช่วยกันดับไว้ที่โชคยังดีไม่เกิดไฟที่ไหม้ระเบิดกล่าว เกิดระเบิดรุนแรงจนกระจายไปลุกลามรถคันอื่นที่จอดอยู่ใกล้กันอีกหลายสิบคันไว้ได้ทันครั้งนี้ ก่อนรีบแจ้งจนท.ตร.ให้มาช่วยตรวจสอบ
ซึ่งด้าน ร.ต.อ.ศิริ จันดีศรี รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองชัยภูมิ หลังได้เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ และหาสาเหตุ การเกิดเหตุเพลิงไหม้รถที่จอดอยู่ดีๆครั้งนี้ ก่อนสอบถามไปยังเจ้าของบริษัท ซึ่งไม่ติดใจสาเหตุการเกิดเพลิงลุกไหม้รถของบริษัมเองในครั้งนี้หรือไม่ ทางบริษัทไม่ได้ติดใจ เนื่องจากให้ลูกน้องพนักงานจ้างให้คนมาซ่อมรถไปทำเบาะมาเอง และคาดว่าสาเหตุเกิดมีประกายไฟจากเครื่องเชื่อมในช่วงทำเบาะเกิดขึ้นและหลังทำเสร็จแล้วเหล็กในตัวรถยังเกิดความร้อนอยู่จึงทำให้เกิดเพลิงไหม้รถขึ้นครั้งนี้เอง และไม่มีทรัพย์สินเสียหายรุนแรง และจะได้เข้มงวดในเรื่องความปลอดภัยด้านนี้ภายในโรงงานให้มากขึ้น
