ชัยภูมิ – หนุ่มใหญ่วัย 46 ปี วิ่งโร่ฝากวิงวอนผ่านสื่อช่วยเปิดภาพหลักฐานกล้องวงจรปิดจับภาพ 2 คนร้าย วางแผนมาเป็นอย่างดีอย่างแนบเนียนขณะลงมือขโมยรถ จยย.ของตนเองจอดไว้ย่านตลาดถนนคนเดิน พากันหลบหนีหายนานนับสัปดาห์ยังลอยนวล วอนพลเมืองดีที่อาจพบเห็นรถ จยย.และผู้ต้องสงสัยช่วยกันแจ้งเบาะแสเพิ่มเติมต่อจนท.ตร.เพื่อช่วยกันเร่งคลี่คลายคดีโดยเร็ว!!
เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 5 มิถุนายน 2562 ขณะที่ จ.ชัยภูมิ ได้มีนายพงษ์พันธ์ หาโชค อายุ 46 ปี อาศัยบ้านเลขที่ 313 หมู่ที่ 4 ตำบลรอบเมือง อำเภอเมือง จังหวัดชัยภูมิ เดินทางเข้าร้องต่อทีมข่าวจ.ชัยภูมิ หลังเกิดเหตุรถจักรยานยนต์ของตนเองที่ให้ลูกชายขี่มาทำงานมาจอดใว้ที่บริเวณตลาดถนนคนเดิน ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดชัยภูมิ ได้หายไปตั้งแต่เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 31 พฤษภาคม 2562 ที่ผ่านมานานเกือบสัปดาห์แล้ว หลังได้เข้าแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.เมืองชัยภูมิ ไว้เป็นหลักฐานให้ช่วยเร่งติดตามคนร้ายและรถจยย.ที่หายไป ซึ่งมีกล้องวงจรปิดจับภาพระหว่างกลุ่มคนร้ายมี 2 คนที่ได้ร่วมกันก่อเหตุขโมยรถ จยย.ครั้งนี้ไว้ได้ที่บริเวณด้านหน้าทางเข้าตลาดถนนคนเดินเทศบาลเมืองชัยภูมิ
ตามภาพที่ขณะที่ผู้ประกอบเหตุกำลังเข็นรถ จยย.หลบหนี ก่อนที่จะมีเพื่อนร่วมก่อเหตุอีกคนที่สตาร์ทรถ จยย.อีกคันไว้ ก่อนที่จะขับมาประกบช่วยใช้เท้าถีบรถ จยย.ที่ขโมยหายไปทางเข้าท้ายชุมชนโนนสาทร หายไปอย่างลอยนวลมาจนปัจจุบัน
ซึ่ง นายพงษ์พันธ์ หาโชค ผู้เสียหายเล่าต่อผทีมข่าวว่า ตนเองได้ออกรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า MSX สีชมพู-ดำ ป้ายทะเบียน 1 กณ 3565 หมวดจังหวัดชัยภูมิ และวันเกิดเหตุได้ให้ลูกชายขี่มาเมื่อช่วงเย็นวันเกิดเหตุวันที่ 31 พ.ค.62 ดังกล่าวลูกชายของตนขับรถ จยย.ดังกล่าวมารับจ้างขายของช่วยนายจ้างที่บริเวณตลาดถนนคนเดิน และได้นำ รถ จยย.จอดไว้บริเวณดังกล่าว แต่พอขายของเสร็จกลับออกมาดู พบว่ารถ จยย.ของตนได้หายไปแล้ว
ก่อนที่จะเข้าแจ้งความไว้ที่ สภ.เมืองชัยภูมิ จนเวลาผ่านไปหลายวันนานเกือบสัปดาห์แล้ว คดียังไม่มีความคืบหน้า มาวันนี้จึงอยากฝากวิงวอนผ่านสื่อให้เจ้าหน้าที่ช่วยเร่งติดตามหารถและพลเมืองดีใครที่เหตุภาพรถที่ถูกขโมยไปครั้งนี้ ช่วยกันแจ้งเบาะแสต่อจนท.เพิ่มเติมเพื่อจะได้ช่วยกันเร่งติดตามผู้ประกอบเหตุมาดำเนินคดีและตามรถ จยย.ของตนเองมาคืนให้ได้โดยเร็วต่อไปในครั้งนี้ด้วย
และได้สอบถามไปยังนายจักรพรรดิ์ หาโชค อายุ 22 ปี ลูกชายเจ้าของรถและคนที่ขับรถจักรยานยนต์คันดังกล่าวมาจอดไว้ก่อนหายไปเล่าเพิ่มเติมว่า ตนได้มาขายของบริเวณดังกล่าวเป็นประจำทุกวัน โดยวันนั้นเจ้าของร้านที่ตนมาช่วยขายของได้ขอยืมรถของตนไปทำธุระนอกตลาดถนนคนเดิน ก่อนที่จะนำมาจอดที่เดิม และ นำกุญแจรถ จยย.มาคืนเให้ตนแล้วปกติ แต่ต่อมาจนกระทั้งมารู้อีกทีว่ารถที่จอดไว้ ได้หายไป
จึงไปติดต่อขอดูกล้องวงจรปิดในพื้นที่ใกล้เคียง ก็มาพบว่ามีชายลักษณะอายุประมาณ 20-25 ปี รวม 2 คน สวมหมวกกันน็อคบังคุมใบหน้าไว้ มีการเตรียมพร้อมวางแผนมาขโมยรถครั้งนี้ไว้เป็นอย่างดี โดยทั้ง 2 คนคนหนึ่งมาทำทีเข็นรถ จยย.เดินออกไปจากจุดจอด ก่อนที่ชายอีกคนจะรอจังหวะติดเครื่องรถ จยย.อีกครั้งไว้ ก่อนขับมาประกบข้างช่วยกันใช้เท้าถีบรถ จยย.ที่ขโมยเข็นไปก่อน พากันขับประคองกันเข็นถีบพารถ จยย.หลบหนีไป ทางท้ายซอยทางเข้าผ่านท้ายชุมชนโนนสาทร ที่อยู่ใกล้ย่านตลาดถนนคนเดินดังกล่าวหลบหนีไปได้หายไปอย่างลอยนวลมาได้จนปัจจุบัน
ด้าน ร.ต.อ.วัชรินทร์ หูชัยภูมิ รอง.สว.(สอบสวน)สภ.เมืองชัยภูมิ เปิดเผยถึงการเร่งติดตามตัวกลุ่มคนร้ายขโมยรถ จยย. รายนี้ ในขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ได้ตั้งทีมสืบสวนลงพื้นที่เพื่อหาเบาะแสของผู้ประกอบเหตุมาอย่างต่อเนื่องแล้ว และได้มีการเร่งติดตามแกะรอยจากกล้อมวงจรปิด และตรวจสอบที่เห็นภาพของผู้ประกอบเหตุ และพยานบุคคลใกล้เคียงที่แน่ชัดก่อนอีกครั้ง ซึ่งคาดจะได้ตัวผู้ประกอบเหตุทั้ง 2 คนได้ในไม่ช้านี้ เพื่อติดตามตัวมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็วต่อไป
