ชัยภูมิ – ปลุกสำนึกสานพลังชุมชนเข้มแข็งนำร่องเนื่องในวันวันแห่งความรัก(วันวาเลนไทน์)อีกมุมได้ช่วยกันออกมาร่วมใจกันอนุรักษ์ฟื้นฟูป่าต้นน้ำฟื้นภูเขาป่าหลากสีคืนสู่เมืองแห่งต้นกำเนิดแม่น้ำชีอย่างยั่งยืนได้อีกทาง
( 13 -14 ก.พ.61 ) ขณะที่จ.ชัยภูมิ เนื่องในวันแห่งความรักหรือวันวาเลนไทน์ปีนี้ หลายคนอาจจะคิดว่าเป็นวันที่เป็นการให้ความรักของคนหนุ่มสาวคู่รักกันเท่านั้น แต่คำว่าความหมายของความรัก ก็มีอีกหลายๆด้านที่ยังสามารถแสดงออกได้ ในวันนี้ได้ไม่ต่างกัน และเป็นการช่วยกันสร้างภูมิคุ้มกันไม่ให้เกิดความเข้าใจในค่านิยมผิดๆให้กับวัยรุ่นในปัจจุบัน
ซึ่งในปีนี้ที่ทางจังหวัดชัยภูมิ เองก็ได้เล็งเห็นความสำคัญของความรักในวันวาเลนไทน์ ที่ปัจจุบันวัยรุ่นอาจจะไปสนใจค่านิยมที่ผิดๆว่าจะต้องยอมเสียตัวให้กับคนรัก หรืออะไรไปต่างๆนาๆให้กับคู่รักเท่านั้น แต่การแสดงความรักในวันวาเลนไทน์ ยังสามารถออกมาร่วมกันแสดงออกในความรักด้านอื่นๆได้ไม่แพ้กัน
โดยเฉพาะปัญหาบ้านเมืองในปัจจุบันการเกิดปัญหาด้านการทำลายทรัพยากรธรรมชาติ ป่าไม้ พื้นที่ป่าต้นน้ำถูกทำลายจนลดน้อยลง และนำไปสู่การเกิดปัญหาภัยธรรมชาติน้ำท่วม ภัยแล้ง ฝนไม่ต้องต้องตามฤดูกาล จากความเสื่อมโทรมของป่าต้นน้ำ ที่นับวันได้รับความเสียหายและลดน้อยลงมาต่อเนื่องทุกปี
การเกิดการออกมาร่วมแรงร่วมใจของของชาวชัยภูมิ ในปีนี้ เนื่องในวันแห่งความรัก ทั้งด้านนายณรงค์ วุ่นซิ้ว ผู้ว่าราชการจ.ชัยภูมิ พร้อมด้วยตัวแทนทุกภาคส่วนในพื้นที่ทั้งฝ่ายทหาร ตำรวจ พล.ต.ต.สมพจน์ ขอมปรางค์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจ.ชัยภูมิ(ผบก.ภ.จว.ชย.) รวมไปถึงผู้บังคับบัญชาสูงสุดของฝ่ายสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ทั้งจากตัวแทน พล.ต.ท.วิสนุ ปราสาทโอสถ ผช.ผบ.ตร. และพล.ต.ท.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบช.ตร.ภาค 3
เองในวันนี้ก็ได้ออกมาร่วมใจกันทุกฝ่าย ในพื้นที่จ.ชัยภูมิ เพื่อจัดกิจกรรมวันรักป่าต้นน้ำโล่ใหญ่ชัยภูมิ ในโครงการนำร่องในพื้นที่เขาหัวโล้นในเนื้อที่กว่า 13,000 ไร่ ที่จะใช้เป็นจุดเริ่มต้นในการช่วยกันออกมาแสดงความรักต่อธรรมชาติ ช่วยกันฟื้นฟูป่าต้นน้ำ ที่ถือว่าจ.ชัยภูมิ เป็นจังหวัดที่เป็นแหล่งป่าที่มีความอุดมสมบูรณ์เป็นแหล่งต้นกำเนิดแม่น้ำชี ที่ใช้หล่อเลี้ยงชาวอีสาน หรือชาวภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มายาวนาจนปัจจุบัน ที่กำลังได้รับความเสื่อมโทรมอย่างหนัก
ภายใต้กิจกรรมจิตอาสาทำความดีด้วยหัวใจ “ปลูกป่า สร้างฝาย ถวายพ่อ” ที่ใช้ความรักเป็นจุดเริ่มต้นการเดินหน้าให้ความรักวันวาเลนไทน์ ในอีกด้านที่จะมุ่งเน้นในการช่วยกันรักใส่ใจช่วยกันฟื้นฟูปลูกป่า สร้างฝายถวายพ่อของแผ่นดินในหลวง รัชกาลที่ 9 มาต่อเนื่อง เพื่อช่วยกันฟื้นคืนธรรมชาติป่าต้นน้ำโล่ใหญ่ชัยภูมิ ในเขตอุทยานแห่งชาติตาดโตน ของจ.ชัยภูมิ บนภูเขาหัวโล้นป่าโล่ใหญ่ในเนื้อที่รวมกว่า 13,000 ไร่ ให้ฟื้นคืนกลับคืนมาสร้างความอุดมสมบูรณ์ของป่าต้นแม่น้ำชีที่จ.ชัยภูมิ ให้ได้อีกทาง
ที่จะมีกิจกรรมจากนี้ไปต่อไปต่อเนื่อง ที่จะให้ทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐเอกชน ทุกฝ่ายมีส่วนเข้ามารับผิดชอบในการช่วยกันดูแลปลูกป่า สร้างฝายน้ำล้น สร่างผืนป่าซับน้ำ ในพื้นที่ให้เกิดเป็นภูเขาป่าหลากสี มีพันธุ์ไม้นานาชนิด ไม่ว่าจะเป็นสีต่างๆทั้งเหลือง แดง ส้ม ม่วง ฯลฯ ได้เกิดขึ้นมาทดแทนบนเขาหัวโล้นแห่งนี้นำร่องในเนื้องที่กว่า 1.3 หมื่นไร่อย่างยั่งยืนในอนาคต และได้เป็นต้นแบบให้เป็นแหล่งรวมพันธุ์ไม้ตามโทนสีต่างๆตามมา ในแต่ละฤดูกาล และคาดว่าจะนำไปสู่การเปิดเป็นแหล่งท่องเที่ยวศึกษาชมพันธุ์ไม้ธรรมชาติเป็นศูนย์เพาะพันธุ์พืชพันธุ์ไม้ป่า หายากตามมาในอนาคตต่อไปได้ด้วยดีต่อไปในเป้าหมายต่อเนื่องไม่น้อยกว่า 10 ปีจากนี้ไป
ซึ่งนายณรงค์ วุ่นซิ้ว ผู้ว่าราชการจ.ชัยภูมิ กล่าวว่า การแสดงสัญญาลักษณ์ในจุดเริ่มต้นที่ยิ่งใหญ่เนื่องในวันวาเลนไทน์ หรือวันแห่งความรักปีนี้ ที่ทุกภาคส่วนของชาวจ.ชัยภูมิ เองถือว่าเป็นอีกจุดเริ่มต้นหนึ่ง ที่จะเป็นแบบอย่างที่ดี ที่จะนำไปสู่การเริ่มต้นให้กับความรักในหลายๆรูปแบบมากขึ้น ที่อาจจะไม่ใช่แค่ความรักเฉพาะคนหนุ่มสาวด้านเดียว แต่ความรักในพี่น้องครอบครัว คนในสังคมคนรอบข้าง และความรักต่อสิ่งแวดล้อม ธรรมชาติของชาวชัยภูมิ ที่มีต่อวิถีคนต้นน้ำชีทั้งหมด การได้ออกมาแสดงความรักได้ออกมาช่วยกันฟื้นฟูป่าไม้ ที่ยังสามารถให้ความรักให้แก่กันได้อีกมากมาย และนำไปสู่การเกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชนสังคมโดยรวม เนื่องในวันแห่งความรักหรือวันวาเลนไทน์ปีนี้ เราก็สามารถสร้างคุณค่าความรักในหลายรูปแบบที่นำไปสู่การเกิดประโยชน์ต่อตนเอง คนรัก สังคม และประเทศชาติได้อย่างยั่งยืนด้วยได้เช่นกัน
ขณะที่ด้านพล.ต.ต.สมพจน์ ขอมปรางค์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชัยภูมิ กล่าวทิ้งท้ายอย่างน่าคิดอีกว่า ในการแสดงความรักที่หลายฝ่ายทุกภาคส่วนร่วมใจกันจัดขึ้นครั้งนี้ ที่จะร่วมกันสานสร้างภูเขาหลากสีแห่งความรักครั้งนี้เกิดขึ้น ก็ถือเป็นความรักอันบริสุทธิ์ที่เรามีต่อการช่วยกันฟื้นฟูธรรมชาติป่าต้นน้ำโล่ใหญ่ที่จ.ชัยภูมิ ครั้งนี้ให้เกิดขึ้นด้วยเช่นกัน และในส่วนตร.ชัยภูมิทั้งหมดที่มีกว่า 2,000 นาย เพื่อให้เกิดการนำไปสู่การฟื้นฟูปลูกป่าต้นน้ำให้กลับคืนมาอย่างยั่งยืน ที่ต่อไปไม่ใช่แค่ปลูกแล้วเสร็จ จะเป็นจะตายไม่ติดตามดูก็ไม่เกิดประโยชน์ เพื่อความยั่งยืนในจุดนี้ตร.ชัยภูมิ ทุกนายที่มาร่วมปลูกป่าฟื้นฟูต้นน้ำครั้งนี้ 1 ต้น ต่อ 1 นาย จะมีการติดตามดูว่าของใครตาย ของใครเกิดต่อได้ จะต้องมีการเข้ามาร่วมแรงความรักความใส่ใจกับต้นไม้แต่ละต้นให้มากขึ้น ต้นของใครตาย ก็ต้องกลับมาปลูกใหม่ เพื่อให้แต่ละคนรับผิดชอบ และให้ต้นไม้แต่ละต้นที่ปลูกไปยังเกิดอยู่สืบทอดต่อลูกหลานชาวชัยภูมิ คนแต่ละในพื้นที่มาช่วยกันดูต่อแลต่อไปให้ได้อย่างยั่งยืนต่อไปด้วย
