ชัยภูมิ – สุดหาชมได้ยากหลังเจอโควิด-19 ระบาด การจัดงานสืบสานประเพณีท่องเที่ยวเก่าแก่มีให้ชมหนึ่งเดียวในโลกต้องว่างเว้นจัดขึ้นไม่ได้มานานกว่า 2 ปี หลังโควิดฯระบาดเริ่มคลี่คลาย เมืองพญาแลเตรียมจัดใหญ่พร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวไม่ควรพลาดระหว่าง 6-9 ต.ค.65 นี้!
( 25 ก.ย.65 ) ขณะที่ จ.ชัยภูมิ ได้มีการเปิดแถลงข่าวเตรียมการจัดงานอีกครั้งใหญ่ของ จ.ชัยภูมิ ในปี พ.ศ.2565 ที่มีประเพณีสุดยอดหนึ่งเดียว หรือแห่งเดียวในโลก ทางด้านประเพณีเกี่ยวกับพระพุทธศาสนาไทยมายาวนานแต่โบราณกว่า 3 แห่ง ที่นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางมาเที่ยวชมได้ตลอดปีครบทั้ง 3 ฤดู ที่มีประเพณีน่าชมสำคัญหลายแห่งอันซีนไทยแลนด์ ตั้งแต่ประเพณีแห่นาคโหด ที่ อ.ภูเขียว ในช่วงวันเข้าพรรษา ประเพณีแห่ผีสุ่ม ที่ อ.เมืองชัยภูมิ และสุดยอดประเพณี ก่อนส่งท้ายของทุกปีในช่วงเทศกาลวันเข้าพรรษา ด้วยประเพณีบุญแห่กระธูป ที่ อ.หนองบัวแดง จ.ชัยภูมิ
หลังต้องเว้นว่างไม่สามารถจัดงานได้เนื่องจากภาวะโควิด-19 ระบาดที่ผ่านมานานกว่า 2 ปี ของงาน “บุญแห่ขบวนต้นกระธูปอีกหนึ่งอันซีนไทยแลนด์ ที่มีการสืบสานประเพณีเก่าแก่ดังกล่าวมานานกว่า 2,600 ปี ตั้งแต่ยุคสมัยพุทธกาลการเกิดพุทธศาสนาในประเทศไทย
โดยมีนายสมบัติ ไตรศักดิ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ เป็นประธานนำแถลงข่าว พร้อมด้วย พระมหาวิฑูรย์สิทธิเมธี ป.ธ.9 ดร.รองผู้อำนวยการมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยสงฆ์ชัยภูมิ ผู้ให้ความรู้เล่าถึงประวัติความเป็นมาของการทำบุญกระธูป และมีทางด้าน นายเทพรัตน์ ตันตยานนท์ นายอำเภอหนองบัวแดง นายธนกร ภัทรบุญสิริ นายกเทศมนตรีตำบลหนองบัวแดง นางสาววรวรรณ ปราณีตพลกรัง รองผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยสำนักงานนครราชสีมา นางเรียมตา เดชเจริญ ผู้ใหญ่บ้านลาดวังม่วง และนางณัฏฐ์ชุดา นันทนิ ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดชัยภูมิ
โดย พระมหาวิฑูรย์สิทธิเมธี ป.ธ.9 ดร.รองผู้อำนวยการมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยสงฆ์ชัยภูมิ กล่าวถึงประวัติความเป็นมาของการทำบุญกระธูป และมี นายเทพรัตน์ ตันตยานนท์ นายอำเภอหนองบัวแดง เปิดเผยถึงสาระสำคัญในการจัดงานในปีนี้ ว่า เนื่องด้วยในปี 2565 นี้ การเตรียมจัดงานบุญกระธูปประจำปี 2565 และของทุกปีที่ผ่านมาถือว่าเป็นงานสืบสานประเพณีของชาวไทยพุทธมายาวนานกว่า 2,600 ปี ตั้งแต่ยุคสมัยพุทธกาล ที่ชาวชัยภูมิ ได้พากันจัดสืบทอดอนุรักษ์กันมาต่อเนื่องเป็นอย่างดีมาได้จนปัจจุบัน
และกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมที่หาชมได้ยากและเป็นประเพณีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดสร้างชื่อให้กับประเทศไทย และ จ.ชัยภูมิ โด่งดังไปทั่วโลกมายาวนาน และเป็นอีกหนึ่งสุดยอดงานสืบสานประเพณีสำคัญของชาวไทยที่ จ.ชัยภูมิ ในการจัดงาน “บุญแห่ขบวนต้นกระธูปอีกหนึ่งอันซีนไทยแลนด์ ที่มีการสืบสานประเพณีเก่าแก่ดังกล่าวมานานกว่า 2,600 ปี ตั้งแต่สมัยพุทธกาลการเกิดพุทธศาสนาในประเทศไทย” ที่มีให้ชมแห่งเดียว หรือหนึ่งเดียวในโลก ที่ อ.หนองบัวแดง จ.ชัยภูมิ ในปัจจุบัน
ที่ทุกปีถือเป็นการช่วยกระตุ้นการท่องเที่ยวให้กลับมาใน จ.ชัยภูมิ ได้คึกคักทุกปี และอีกครั้งในปีนี้หลังภาวะโควิด-19 ระบาดในพื้นที่เริ่มคลี่คลายไม่สามารถจัดงานดังกล่าวได้ในช่วงกว่า 2 ปีที่ผ่านมา
ซึ่งในช่วงเทศกาลงานบุญกระธูป ที่ห่างหายจากชาวอำเภอหนองบัวแดงและจังหวัดชัยภูมิไปถึง 2 ปี ในช่วงที่สถานการณ์โควิด 19 ระบาด เริ่มคลี่คลายการสืบสานประเพณีการจัดงานบุญกระธูป ก็ไม่ได้จางหายไปจากวิถีชีวิตชาวอำเภอหนองบัวแดง จังหวัดชัยภูมิ ลงได้ และในปีนี้จึงได้กำหนดการจัดงาน อย่างยิ่งใหญ่ขึ้นให้มีการสืบสานได้ต่อเนื่องขึ้นอีกครั้งในปีนี้ ซึ่งจะจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 6-9 ตุลาคม 2565 ที่จะถึงนี้
โดยภายในงานแถลงข่าว สาวๆอำเภอหนองบัวแดงได้จัดสาธิตวิธีการทำกระทู้แบบโบราณ ซึ่งภายในประกอบด้วยสมุนไพรที่มีอยู่ในท้องถิ่น นำมาผสมผสานเป็นธูป ที่ใช้กันมาแต่โบราณ รวมถึงผลิตภัณฑ์แปรรูปธูปหอมจากสมุนไพร ได้ยกเอาต้นกระธูป มาจัดแสดงภายในงาน สร้างสีสันสวยงามน่าติดตามที่จะเป็นการเชิญชวนนักท่องเที่ยว ทั้งภายในจังหวัดและจากต่างจังหวัด รวมไปถึงชาวต่างชาติจากทั่วโลก ได้หลั่งไหลเข้ามาเที่ยวชมงานบุญแห่ต้นกระธูป มีให้ชมหนึ่งเดียวในโลก อย่างยิ่งใหญ่อีกครั้งในปี 2565 นี้
ซึ่งประเพณีบุญกระธูปออกพรรษา เป็นการสืบสาน ภูมิปัญญา และแสดงพลังศรัทธาอันยิ่งใหญ่ที่มีต่อพระพุทธศาสนา ที่ครั้งพุทธกาลสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงตรัสรู้และเสด็จโปรดพระมารดา ในช่วงวันออกพรรษา ซึ่งอดีตชาวบ้านทั้งอำเภอหนองบัวแดง หลายหมื่นคนจะพร้อมใจกันทำต้นกระธูปจากอันเล็กๆ จนแรงศรัทธาเป็นต้นกระธูปขนาดใหญ่ขึ้นมาต่อเนื่อง รวมทั้งมีการออกแบบลวดสวยงาม ออกสู่สายตานักท่องเที่ยว ก่อนที่นำไปจุดถวายวัดต่างๆเป็นพุทธบูชาในวันออกพรรษาของทุกปี ซึ่งประเพณีงานบุญแห่ต้นกระธูปของอำเภอหนองบัวแดงจะทำขึ้นไปจุดถวายวัดต่างๆในพื้นที่ก่อนวันออกพรรษา 3 วันของทุกปี เพื่อเป็นพุทธบูชาที่ถือปฏิบัติการมาต่อเนื่องแต่โบราณไม่เคยขาดมาจนปัจจุบัน
ที่ยังมีการสืบสานการทำต้นกระธูป มาแต่สมัยโบราณมายาวนานกว่า 2,600 ปี การทำกระธูปจะใช้วัสดุภายในท้องถิ่น ประกอบด้วย ขุยมะพร้าว ใบโอ้ม ใบเนียม ใบแหน่ง และใบทองพันธุ์ชั่ง โดยนำใบไม้ทั้งหมดมานึ่ง แล้วนำไปตากแดด และนำมาบดอีกครั้ง จะได้ฝุ่นไม้ที่มีกลิ่นหอมแล้วนำมาผสมกับขุยมะพร้าวห่อด้วยกระดาษให้ได้รูปทรงยาวเหมือนธูป นำกระดาษสีสันต่างมาประดับพันให้เป็นลวดลายที่สวยงาม ทำเป็นลายไทย เช่นเดียวกับลายผ้าไทยโบราณมัดหมี่ แล้วนำไปมัดติดกับดาวที่ทำจากใบลาน นำมาติดมัดกับคันที่ทำจากไม้ไผ่คล้ายคันเบ็ด จะนำมาเสียบไว้กับแกนไม้ไผ่ที่เตรียมไว้ความสูงประมาณ 3 เมตร ให้ได้รูปทรงต้นกระธูปคล้ายฉัตรหลายชั้น ก่อนที่จะนำไปจุดไฟบูชาในวันออกพรรษา พร้อมกันนั้นได้นำเอาลูกตุ่มกาที่มีในท้องถิ่น ผ่าเป็น 2 ซีก แล้วนำน้ำมันพืชใส่เพื่อจุดไฟให้สว่างใต้ต้นกระธูป
และการตกแต่งสีสันของต้นกระธูปจะเป็นไปตามจินตนาการ ซึ่งส่วนใหญ่มักใช้ลวดลายผ้าพื้นบ้านและเรื่องราวเกี่ยวกับพระพุทธศาสนา พระมหากษัตริย์ และวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของราษฎรชาวอำเภอหนองบัวแดง เพื่อสื่อความหมายถึงเอกลักษณ์เฉพาะถิ่นแล้วนำมาประกวดกันภายในงานบุญกระธูป อย่างยิ่งใหญ่เป็นประจำปีทุกปี
โดยในปีนี้ชาวอำเภอหนองบัวแดง และชาวจังหวัดชัยภูมิ อยากขอเชิญชวนนักท่องเที่ยวที่สนใจ เดินทางมาที่จังหวัดชัยภูมิ เพื่อร่วมงานบุญกระธูปประจำปี 65 ที่อำเภอหนองบัวแดง โดยจะจัดขึ้นบนถนนที่ทอดยาวบริเวณหน้าที่ว่าการอำเภอหนองบัวแดง ที่จะมีขบวนแห่อย่างสวยงามยาวนนับหลายกิโลเมตรแน่นเมถนนแทบทุกสายในตัวอำเภอหนองบัวแดง และชมศิลปวัฒนธรรม ของดีให้นักท่องเที่ยวทั่วโลกได้รองแวะมาเที่ยวชมได้รู้จักมากยิ่งขึ้น ในช่วงวันที่ 6-9 ตุลาคม 65 ปีนี้
ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องใน จ.ชัยภูมิ ทั้งสำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดชัยภูมิ ได้มีการเตรียมความพร้อมร่วมกับหน่วยงานในพื้นที่ เพื่อดูแลเรื่องความปลอดภัยความสะดวกสบายให้กับนักท่องเที่ยว ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของที่พักร้านอาหาร รวมถึงการประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวที่สามารถเดินทางต่อออกจาก อำเภอหนองบัวแดง ไปยังสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญในจังหวัดชัยภูมิได้อย่างสะดวกมากยิ่งขึ้น เพื่อให้เป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวส่งเสริมเศรษฐกิจและส่งเสริมในเรื่องของการกระจายรายได้ให้กับชุมชน จึงไม่ควรพลาดที่จะมาเที่ยวชมงานสืบสานงานบุญเก่าแก่มายาวนานกว่า 2,600 ปีของชาวหนองบัวแดง ในระหว่าง 6-9 ต.ค.65 ปีนี้ได้กลับมาคึกคักอีกครั้งหลังโควิด-19 คลี่คลาย
