ชัยภูมิ – คุณป้าวัย 62 ปี เจ้าของร้านขายของชำสุดเจ็บใจหนักถูกหัวขโมยแสบงัดร้านค้าติดต่อกันถึง 3 ครั้ง ล่าสุดย้อนมาขโมยเอาเครื่องดื่มในร้านแช่ในถังหายไป 2 ถังน้ำแข็งแช่ แถมยังทุบกล้องวงจรปิดที่เพิ่งนำมาติดไว้หวังไว้จับภาพหัวขโมยรายนี้ยังเหิมหนักทุบกล้องพังทิ้งไว้ให้ดูต่างหน้าซ้ำอีก!
เมื่อเวลา 08.00 น.วันที่ 26 มิ.ย.65 ร.ต.อ.นิพนธ์ เพื่อนสงคราม รองสารวัตรสอบสวน สภ.เมืองชัยภูมิ พร้อมสายตรวจห้วยชั้น และชุดตำรวจสืบสวน สภ.เมืองชัยภูมิ ได้เข้าตรวจสอบที่บ้านเลขที่ 244 หมู่ 18 บ้าช่อระกา ต.นาฝาย อ.เมือง จ.ชัยภูมิ พบกับนางเสวียน คำมูล อายุ 62 ปี ซึ่งได้โทรแจ้งความว่าที่บ้านตนเอง เปิดเป็นร้านขายของชำเบ็ดเตล็ดในหมู่บ้านดังกล่าว และถูกคนมาขโมยเครื่องดื่มชนิดต่าง ๆ ในร้านหายไปจำนวนมาก
ซึ่งจากการตรวจสอบที่เกิดเหตุหัวขโมยแสบรายนี้ ได้ปีนข้ามรั้วหน้าบ้านร้านค้าดังกล่าวเข้ามาก่อเหตุ แล้วใช้อุปกรณ์เครื่องมือที่เตรียมมา ทำลายกุญแจที่ล็อกตู้แช่น้ำแข็ง ที่ทางร้านได้ใช้แช่เครื่องดื่มชนิดต่าง ๆ ทั้งเบียร์ขวด เบียร์กระป๋อง น้ำอัดลมกระป๋อง และเครื่องดื่มชูกำลังต่างๆ ไว้จำหน่ายให้กับลูกค้าหายไปเกือบหมด 2 ถังน้ำแข็งแช่ไว้ รวมมูลค่ากว่า 1 พันกว่าบาทก่อนหลบหนีไป และมิหนำซ้ำก่อนหลบหนี หัวขโมยรายนี้ยังมีการทุบพังกล้องวงจรปิดพังเสียหายอีกทั้งหมดทิ้งไว้ให้ดูต่างหน้าอีกด้วย ซึ่งเจ้าของร้านเพิ่งนำมาติดตั้งเพื่อไว้เก็บภาพคนมาขโมยของที่เคยถูกมาขโมยของในร้านมูลค่าความเสียหานนับหลายหมื่นบาทมาแล้วถึง 3 ครั้ง
โดย นางเสวียน คำมูล อายุ 62 ปี ป้าเจ้าของร้านผู้เสียหาย ได้นำเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งพนักงานสอบสวน และชุดสืบสวน สภ.เมืองชัยภูมิ ตรวจสอบบริเวณตั้งถังแช่เครื่องดื่มชนิดต่าง ๆ ตรวจสอบดูร่องรอยความเสียหายของกล้องวงจร ปิดที่ติดไว้ด้านหน้าบ้าน ที่ถูกคนร้ายใช้อุปกรณ์ที่เตรียมมาทุบทำลายจนเสียหาย และงัดเอากล้องวงจรปิดที่ติดไว้หวังไม่ให้มีหลักฐานเหลือไว้ที่จะจับใบหน้าคนร้าย ไว้ได้เอาไปด้วยอีก ซึ่งก่อนหน้านี้ไม่กี่วัน โทรศัพท์มือถืออินเตอร์เน็ตที่ใช้พ่วงกล้องวงจรปิดไม่มีสัญญาณ อินเตอร์เน็ตจากกล้องวงจรปิด มายังโทรศัพท์มือถือ จึงยังไม่สามารถจับภาพหัวขโมยรายนี้ไว้ได้
ผู้เสียหาย ยังบอกอีกว่า ก่อนหน้านี้ที่ร้านค้าของตนเอง ได้ถูกหัวขโมย แอบเข้ามาขโมยทรัพย์สินแล้ว 2 ครั้ง ๆ แรกเป็นสร้อยคอทองคำ น้ำหนัก 1 สลึง เงินสดพันกว่าบาท หายไป ในครั้งที่ 2 ได้เข้ามาขโมยเอาสิ่งของที่แช่ไว้ในตู้แช่น้ำแข็งเป็นเบียร์ขวด เบียร์กระป๋อง น้ำอัดลม รวมถึงน้ำมันเชื้อเพลิงที่กรอกใส่ขวดไว้ขาย และเครื่องดื่มชนิดอื่นๆมูลค่าความเสียหายไปแล้วอีกไม่ต่ำกว่า 1 หมื่นบาท
แต่ไม่ได้แจ้งความและมาในครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 อีกที่หัวขโมยได้แอบปีนรั้วหน้าเข้ามาภายในตัวบ้าน ในช่วงเวลาประมาณกว่า 4 ทุ่มวันที่ 25 มิ.ย.65 ที่ผ่านมาอีก ซึ่งตนเองพร้อมลูกชายอีก 2 คน ได้ยินเหมือนมีคนปีนข้ามกำแพงรั้วหน้าบ้านเข้ามาในบริเวณบ้าน ตนเองได้เดินมาเปิดประตูหน้าบ้าน ออกมาดูตรงวางถังแช่เครื่องดื่มไม่มีอะไรผิดปกติ จึงกลับเข้าไปปิดประตูหน้าบ้านเข้านอนต่อ
จนมาช่วงเช้าวันนี้ (26 มิ.ย.65) ตื่นเช้าขึ้นมาเปิดร้านขายของตามปกติ จึงมารู้ว่ามีหัวขโมย ได้แอบเข้ามาขโมยเอาทั้งเบียร์ขวด เบียร์กระป๋อง และเครื่องดื่มชูกำลัง น้ำอัดลมกระป๋องไปได้อีก ที่เจ็บใจที่สุด ในการก่อเหตุครั้งที่ 3 ของหัวขโมย นอกจากจะขโมยเอาเบียร์ เครื่องดื่มชนิดต่าง ๆ ไปเกลี้ยงตู้แช่แล้วไม่พอ ยังใช้เครื่องมือที่เตรียมมา ทุบทำลายกล้องวงจรปิดมูลค่ากว่า 7,000 กว่าบาท จนพังเสียหายแล้ว ยังนำติดตัวออกไปด้วย จึงอยากให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ช่วยติดตามจับกุมหัวขโมยสุดแสบรายนี้ มาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็วด้วย ซึ่งหวั่นว่าหัวขโมย จะเข้ามาก่อเหตุครั้งที่ 4 ได้อีก ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นวัยรุ่นในหมู่บ้านที่รู้เส้นทางเข้าออกในหมู่บ้านเป็นอย่างดี
ด้าน ร.ต.อ.นิพนธ์ เพื่อนสงคราม รองสารวัตรสอบสวน สภ.เมืองชัยภูมิ หลังตรวจสอบที่เกิดเหตุ และสอบปากคำผู้เสียหายเบื้องต้น ได้ประสานตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองชัยภูมิ ได้ระดมกำลังออกติดตามจับกุมผู้ต้องสงสัย มาดำเนินคดีตามกฎหมายในครั้งนี้ให้ได้โดยเร็วต่อไป
