ชาวเมืองชัยภูมิสุดสะเทือนใจวอนทบทวนสั่งให้พระนักพัฒนาลงจากเขาถ้ำวัวแดง-ต้องยุบศูนย์ปฏิบัติธรรมดังทิ้ง!(คลิป)

ชัยภูมิ – ชาวเมืองชัยภูมิสุดสะเทือนใจ แห่เดินทางให้กำลังใจพระอาจารย์ชื่อดังนักพัฒนาของจังหวัดชัยภูมิ กันต่อเนื่องไม่ขาดสาย หลังทราบข่าวทางหน่วยงานป่าไม่ที่เกี่ยวข้องให้ออกจากพื้นที่ในช่วงไม่เกิน 15 ก.พ.65 นี้!

( 3 ก.พ.65 ) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่ จ.ชัยภูมิ ได้มีตัวแทนกลุ่มชาวบ้านชาวจังหวัดชัยภูมิ พร้อมตัวแทนเด็กนักเรียนนักศึกษา และหน่วยงานสถานศึกษาองค์กรต่างๆ รวมทั้งตัวแทนสมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวจังหวัดชัยภูมิ เดินทางมาเพื่อให้กำลังใจหลวงพ่อกุหลาบ เจ้าอาวาสวัดถ้ำวัวแดง พร้อมพระอาจารย์พินทุ  มหาปัญโญ พระนักพัฒนาชื่อดังของจังหวัดชัยภูมิ ในฐานะประธานที่พักสงฆ์ถ้ำวัวแดง วัดถ้ำวัวแดง ต.บ้านเจียง อ.ภักดีชุมพล จ.ชัยภูมิ

โดย ดร.อรอุมา  ไชยเศรษฐ์ ในฐานะเป็นตัวแทนกลุ่มชาวบ้านชาวจังหวัดชัยภูมิ ที่เดินทางมาครั้งนี้ เปิดเผยว่า หลังทราบว่าทางเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าตะเบาะ-ห้วยใหญ่ จังหวัดเพชรบูรณ์และจังหวัดชัยภูมิ ที่เป็นพื้นที่รอยต่อติดกันกับวัดถ้าวัวแดงดังกล่าวในพื้นที่ จ.ชัยภูมิ ซึ่งมีการสั่งให้ทางคณะพระสงฆ์ที่เปิดศูนย์ปฏิบัติธรรมอยู่ในพื้นที่บนเขาถ้ำวัวแดงมานานกว่า 14 ปี โดยมีพระอาจารย์พินทุ  มหาปัญโญ เป็นพระประธานที่พักสงฆ์และศูนย์ปฏิบัติธรรมดังกล่าว และให้พระทั้งหมดที่อยู่ในจุดดังกล่าวลงจากเขาออกจากพื้นที่ทั้งหมดภายในไม่เกินช่วงวันที่ 13 ก.พ.65 นี้ ซึ่งก็ทำให้ศูนย์ปฏิบัติธรรมดังกล่าวต้องถูกยุบทิ้งตามมาด้วย

ซึ่งหลังชาวบ้านทราบเรื่องนี้ ก็ต่างพากันเกิดความไม่สายใจ ว่าจะมีการมาไล่พระลงจากเขาทั้งหมดครั้งนี้ และเหตุของการไล่ที่ให้พระลงจากเขาครั้งนี้ทั้งที่เคยอยู่และสร้างพัฒนาสิ่งดีให้ให้กับประชาชนในพื้นที่จังหวัดชัยภูมิ และศาสนามาด้วยดีมาตลอด ซึ่งมีแต่การเข้ามาช่วยพัฒนาช่วยดูแลรักษาป่าในพื้นที่ดังกล่าวในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าตะเยาะ-ห้วยใหญ่ ดังกล่าวมาได้อย่างดีมาต่อเนื่อง ตั้งแต่ช่วงปี 2552 ที่ผ่านมาจนปัจจุบัน

“ทั้งมีการเปิดให้เป็นศูนย์ปฏิบัติธรรมให้กับประชาชนในจังหวัดและทั่วประเทศ รวมทั้งชาวต่างชาติก็สนใจที่จะเดินทางมาร่วมศึกษาปฏิบัติธรรมะ ที่นี่ด้วยดีมาตลอดโดยเฉพาะเด็กนักเรียนได้มาฝึกปฏิบัติธรรมกันอย่างจริงจังมาช่วยสร้างเสริมคุณธรรมให้เยาวชนในจังหวัดชัยภูมิ มาอย่างต่อเนื่องแล้วนับไม่รู้กี่รุ่นมาแล้วหลายหมื่นถึงนับแสนคนที่ได้มาผ่านการศึกษาธรรมที่ศูนย์ปฏิบัติธรรมช่วยกล่อมเกลาจิตใจให้กับเด็กและเยาวชนชัยภูมิ จนมีผลงานให้เห็นได้ประจักมาแล้วจนโด่งดังไปทั่วประเทศในขณะนี้ด้วย

และเหตุผลการที่จะไล่ที่พระลงมาทั้งหมดครั้งนี้ ถ้าบอกว่าการที่จะใช้ที่ดินในจุดดังกล่าวเพื่อที่จะทำเป็นแหล่งท่องเที่ยวแหล่งใหม่หรือปิดพื้นที่และขาดการมีส่วนร่วมการเข้ามาช่วยดูแลกันรักษาป่าในจุดนี้ที่เคยมีมาได้อย่างดีมาต่อเนื่องกว่า 10 ปีแล้ว ตนเองก็คิดว่า ป่าไม้หรือหน่วยงานอาจจะเล็งในการแก้ปัญหาผิดจุดไปด้วยหรือเปล่า ซึ่งการท่องเที่ยวในจุดนี้ตลอดที่มีพระอาจารย์พินทุฯ มาอยู่ที่นี่และช่วยดำเนินการมาช่วยพัฒนาพื้นที่ที่ดีขึ้นมาต่อเนื่อง รวมทั้งยังสามารถเป็นเส้นทางมาท่องเที่ยวศึกษาธรรมะ เป็นจุดเด่นที่นี่เป็นอย่างดีอยู่แล้ว ซึ่งไม่จำเป็นที่จะมาขับไข่พระอาจารย์ที่มาช่วยดูแลที่ตรงนี้มาได้ดีต่อเนื่องตรงจุดนี้มานานกว่า 10 ปี ลงจากเขา

ซึ่งเรื่องนี้ก็อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ทบทวนคิดใหม่ ซึ่งในจุดนี้ถ้าจะนำไปเป็นแหล่งท่องเที่ยวต่อ เพราะศักยภาพเดิมที่พระอาจารย์ดำเนินการมาดีอยู่แล้ว และในส่วนของถ้ำวัวแดง ที่นี่มีจุดต่างที่ดีอยู่แล้วคือ จุดนี้น่าจะเป็นแหล่งท่องเที่ยวแหล่งศรัทธราเส้นทางธรรมและศึกษาธรรมชาติ ซึ่งในช่วงตลอดเส้นทางขึ้นมาถึงที่ถ้ำวัวแดง มีศูนย์ปฏิบัติธรรมเป็นจำนวนมากมาย ซึ่งทำไมไม่ทำให้เป็นแหล่งที่มีศูนย์ปฏิบัติธรรมที่มีความสมบูรณ์ทางธรรมชาติป่าไม้ ช่วยกันอนุรักษ์ให้คงอยู่เกิดการมีส่วนร่วมที่ยั่งยืนที่ดีอยู่แล้วให้สืบไป ซึ่งก็เพราะมีพระเข้ามาช่วยดูแลป่าและการมาอยู่ที่นี่

และในสิ่งที่มีในพื้นที่เดิมที่เสื่อมลงไปก็มีแต่การสร้างการร่วมแรงร่วมใจสร้างความรักสามัคคีทุกภาคส่วนคนในทั่วจังหวัดชัยภูมิยังได้เข้ามาช่วยกันบูรณะ และสร้างเสริมซึ่งเด็กที่เคยมาอบรมที่นี่หลายหมื่นคนขึ้นไป มาที่นี่ได้มาช่วยกันเก็บขยะช่วยกันทำความสะอาด ช่วยกันดูแลรักษาป่า ซึ่งในสภาพที่เห็นของทางขึ้นศูนย์ปฏิบัติธรรมถ้ำวัวแดงครั้งนี้ จึงมีสภาพเท่าที่เห็นไม่มีคนเก็บกวาด ก็เพราะว่าวันนี้หลังตัวแทนชาวบ้านชาวจังหวัดชัยภูมิ ที่มาวันนี้มารู้ว่าจะมีการไล่พระลงจากเขา และศูนย์ปฏิบัติธรรมก็จะต้องถูกยุบทิ้งในครั้งนี้ไปด้วย ทุกคนก็รู้สึกหดหู่หมดกำลังใจกันหมดแล้ว

เมื่อทำแล้วไม่มีประโยชน์ ทำแล้วเหนื่อยเกิดความท้อ พวกเราก็จำต้องปล่อยให้เจ้าของผู้ที่ดูแลป่าที่อยากได้พื้นที่คืน ก็เขามาดูแลเองก็แล้วกัน แล้วก็ไม่มีคนมาทำเลยอย่างน่าเสียดายซ้ำตามมาอีก แต่เมื่อพระอาจารย์มาอยู่ที่นี่ชาวบ้านทุกคนจะมาช่วยกันทำความสะอาดตลอด ที่ได้มีการช่วยกันมาชำระจิตใจไม่ใช่แค่ความสะอาด แต่ยังได้เรื่องของการมีน้ำใจ การแบ่งปัน ทุกคนที่เคยขึ้นไปบนถ้ำวัวแดง จะไม่เคยมีใครทิ้งอะไรทิ้งไว้ข้างบนให้เสียหายเลย และทุกวันนี้การที่พระอาจารย์ทำอยู่ได้มากกว่าสิ่งที่ชาวชัยภูมิได้อีกมาก

แต่สิ่งที่ทางหน่วยงานป่าไม้ที่เกี่ยวข้อง ต้องการไล่พระลงจากเขาเพื่อใคร ซึ่งที่นี่ยังมีพระพุทธศาสนาเป็นของเราชาวไทยและเป็นศาสนาประจำชาติ  ที่มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์พระเทพโลกอุดร ด้วยความศรัทธาที่ช่วยกล่อมเกลาจิตใจคนให้ทำ (ธรรม) ความดี ซึ่งอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้พระอาจารย์ลงจากเขาครั้งนี้ช่วยทบทวนต่อกรณีที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ด้วย

ด้านพระอาจารย์พินทุเอง กล่าวว่า กรณีที่เกิดขึ้นหลังมาบวชจำพรรษาอยู่ที่ถ้ำวัวแดงมาจนปัจจุบันนานกว่า 14 ปี ที่ได้มีโอกาสมาเปิดศูนย์ปฏิบัติธรรมอบรมนักเรียนนักศึกษาเยาวชนที่ทำมาอย่างต่อเนื่องผ่านมาก็นับแสนคนแล้ว รวมทั้งเคยได้พาเยาวชนเด็กจังหวัดชัยภูมิกว่า 700 คน  ได้รับพระราชทานรางวัลเยาวชนคุณธรรมระดับประเทศจากในหลวง ร.10 ที่ผ่านมาอีกด้วย

รวมทั้งการให้เด็กเยาวชนชาวบ้าน ที่เข้ามาศูนย์ปฏิบัติธรรม ได้ช่วยกันแลรักษาดูแลป่าช่วยกัน ทั้งปัญหาไฟป่า ที่เรามีชุดดับไฟป่าเพื่อป้องกับผืนป่าไม่ให้ได้รับความเสียหายมาได้ต่อเนื่องทุกปี ทั้งปัญหาขาดน้ำใช้ยามหน้าแล้ง ที่การอยู่ที่บนเขาก็มีการเข้ามาช่วยกันทำประปาภูเขาเก็บน้ำไว้ให้ชาวบ้านที่นี่ไว้ได้ใช้ยามหน้าแล้ง และปัญหาที่เกิดขึ้นครั้งนี้อาตมา ก็ขอพร้อมรับเอง หลังเมื่อช่วงปลายเดือน ธ.ค.64 ที่ผ่านมา ได้มีต้นไม้ขนาดใหญ่ยืนต้นตาย ที่ใกล้จะล้มทับกุฏิพระ อาตมาเองจึงเห็นว่าจะเกิดอันตรายรุนแรงถึงชีวิตได้ เพราะเป็นเวลาดึกแล้ว จึงรีบดำเนินการตัดต้นไม้ดังกล่าว ซึ่งไม่รู้ว่าเป็นต้นไม้อะไร มาทราบภายหลังว่าเป็นไม้หวงห้ามต้นตะแบกที่ยืนต้นตายแล้วและใกล้ล้มเหลือเพียง 30 % ก็จะล้มทับกุฏิพระที่อยู่บนเขาร่วม 18 รูป ก่อนที่จะพยายามตัดแล้วดึงให้ล้มลงไปด้านอื่น ก่อนที่ช่วงเช้าจะรีบไปแจ้งเจ้าหน้าที่ป่าไม้มาดูว่ามีการตัดต้นไม้ดังกล่าว เพื่อป้องกันการเกิดเหตุรุนแรงต่อพระในกุฏิครั้งนี้ได้ ซึ่งตั้งแต่อาตมามาอยู่ที่นี่นานกว่า 14 ปี ก็จำใจต้องตัดต้นไม้ต้นนี้เพียงต้นเดียว เพื่อไม่ให้ล้มลงไปทับกุฏิพระได้รับอันตรายรุนแรงมากไปกว่านี้ได้ ซึ่งถ้าหากจะดำเนินคดีอาตมาก็ยอม และขอพร้อมรับผิดแต่ผู้เดียวและอยากให้ทราบถึงเจตนาต่อเรื่องที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ด้วย

ก่อนทางที่ จนท.ป่าไม้ และทางอำเภอภักดีชุมพล จะเข้ามาแจ้งว่าภายในไม่เกินวันที่ 13 ก.พ.65 นี้ ทางป่าไม้จะขอพื้นที่คืนและให้พระทั้งหมดลงมาจากเขาจุดที่ตั้งศูนย์ปฏิบัติธรรมบนถ้ำวัวแดง ให้ลงมาทั้งหมดและห้ามขึ้นไปดำเนินการใดๆที่จะทำกิจกรรมใดๆอีก ซึ่งอาตมาเองขอรับผิดเพียงรูปเดียวเอง พระรูปอื่นๆ  และศูนย์ปฏิบัติธรรมฯไม่เกี่ยว และไม่อยากให้แหล่งศึกษาเส้นทางธรรมะ – ธรรมชาติ บนถ้าวัวแดง ในครั้งนี้ต้องมาถูกยุบหายต่อจากนี้ไปด้วยอีกเลย

ขณะที่ผู้สื่อข่าวได้ติดต่อขอทราบข้อเท็จจริงต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ ซึ่งนางสาวอัจฉรา  อาษาสู้ นายอำเภอภักดีชุมพล เปิดเผยข้อมูลเบื้องต้นได้เพียงว่า ขณะนี้ทางอำเภอ และหน่วยงานที่รับผิดชอบพื้นที่โดยตรงคือเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าตะเบาะ-ห้วยใหญ่ จังหวัดเพชรบูรณ์ และจังหวัดชัยภูมิ ได้เข้าไปตรวจสอบและพบว่าทางพระและศูนย์ปฏิบัติธรรมบนถ้าวัวแดง ทำผิดเงื่อนไข ซึ่งเคยมีเมื่อปี 2550 จึงจำเป็นต้องให้ทางพระและคนที่เกี่ยวข้องที่ศูนย์ปฏิบัติธรรมบนเขาถ้ำวัวแดง ออกจากพื้นที่ ซึ่งล่าสุดเองทางพระอาจารย์เอง ได้ขอเวลาที่จะเก็บสิ่งของทั้งหมดลงจากเขาทั้งหมดขอเวลามานานกว่า 30 วัน แล้วซึ่งทางเขตป่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็ให้เวลาจากเดิม 13 ก.พ.65 ก็ให้ไปจนถึงวันที่ 15 ก.พ.65 นี้ ซึ่งทางกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช จะได้ลงพื้นที่ไปตรวจสอบเพื่อหาแนวทางในการปิดพื้นที่ดังกล่าวบนถ้ำวัวแดง และข้อห้ามเข้าไปใช้พื้นที่ทั้งหมดที่ชัดเจนอีกครั้งต่อไป