X

ป.ป.ช.ชัยภูมิแถลงอย่าหลงเชื่อพวกแอบอ้างรู้จัก ปปช.ข่มขู่คนไม่กล้าร้องสอบทุจริต!(คลิป)

ชัยภูมิ – ทำสร้างความเสียหายต่อระบบการตรวจสอบการทุจริตแห่งชาติอย่างร้ายแรง รวมไปถึงสำนักงาน ป.ป.ช.ชัยภูมิ ในครั้งนี้ต้องได้รับความเสียหายอีกด้วย เปิดแถลงผลงานชี้มูลพบการทุจริตในพื้นที่เริ่มมีแนวโน้มสูงขึ้นต่อเนื่อง พร้อมแถลงยันกรณีมีกลุ่มไม่หวังดีปล่อยข่าวปลอม”เฟคนิวส์”ข่มขู่ชาวบ้าน พนักงาน บุคลากร ที่เกี่ยวข้องในองค์ๆต่างๆในพื้นที่ขณะนี้ว่าหากใครไปร้องเรียน ป.ป.ช.ให้ตรวจสอบการทุจริตในองค์กรต่างๆ จะถูกกลั่นแกล้งจากหัวหน้าหรือผู้บริหารองค์กร ที่แอบอ้างว่ารู้จักกับ จนท.-ผอ.ปปช.ชัยภูมิ ดีร้องไปก็ไม่มีใครสามารถทำอะไรตัวเองได้ ซึ่ง ผอ.ปปช.ยันไม่มีเด็ดขาดพร้อมหากพบใครแอบอ้างอีกพร้อมจะดำเนินการทางกฎหมายขั้นเด็ดขาดด้วยทันที ขอประชาชนอย่างหลงเชื่ออีกเด็ดขาด!

เมื่อเวลา 10.30 น.วันที่ 31 ม.ค.65 นายสมพจน์  แพ่งประสิทธิ์ ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช.ประจำจังหวัดชัยภูมิ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องของสำนักงาน ป.ป.ช.ชัยภูมิ เปิดแถลงข่าวพบตัวแทนสื่อมวลชนทุกแขนง จำนวนไม่เกิน 10 ท่าน ตามมาตรการป้องกันโควิด-19 ของจังหวัดชัยภูมิ ถึงผลการดำเนินงานของ ป.ป.ช.ชัยภูมิ ในรอบปี 2564 ที่ผ่านมา และแถลงต่อกรณีมีข่าว”เฟคนิวส์” หรือข่าวปลอม ปล่อยข่าวออกไปทั่วในพื้นที่ จ.ชัยภูมิ ในขณะนี้ว่า มีหน่วยงานองค์กรต่างๆทั้งภาคองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และภาครัฐต่างๆในพื้นที่ ขณะนี้ที่มีการแอบอ้างข่มขู่ชาวบ้าน พนักงาน บุคลากรของหน่วยงานตนเองว่า หากใครไปร้องเรียนต่อ ป.ป.ช.ชัยภูมิ เพื่อให้ตรวจสอบการทุจริตภายในองค์กร ในพื้นที่ของตนเอง ซึ่งจะถูกเล่นงานกลั่นแกล้งจากผู้บริหารภายในองค์กร ซึ่งอ้างว่ารู้จักกับทั้งเจ้าหน้าที่ภายใน ป.ป.ช.ทั้งหมด และแม้กระทั่ง ผอ.ป.ป.ช.ชัยภูมิ คือตนเอง นายสมพจน์  แพ่งประสิทธิ์ ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช.ประจำจังหวัดชัยภูมิ ที่พึ่งย้ายมารับตำแหน่งคนใหม่ในปัจจุบัน

จนเริ่มเกิดปัญหาเป็นข่าวลือไปทั่วใน จ.ชัยภูมิ ในขณะนี้ และสร้างความเสียหายร้ายแรงต่อระบบการตรวจสอบการทุจริตแห่งชาติของประเทศไทย และสร้างความเสียหายให้กับ ป.ป.ช.ชัยภูมิ ในครั้งนี้เป็นอย่างมากด้วย ซึ่งตนเองขอยืนยันว่าเป็นข่าวเฟคนิวส์ ข่าวปลอม ขอให้ชาวชัยภูมิ ทุกคนอย่าไปหลงเชื่อเด็ดขาด ซึ่งหากใครทราบว่าเป็นใครที่มีการแอบอ้างดังกล่าว สามารถแจ้งข้อมูลมาได้ที่ ป.ป.ช.ชัยภูมิ ได้ทันที ซึ่งตนเองพร้อมจะไปตรวจสอบและดำเนินการตามกฏหมายอย่างเด็ดขาดทันทีในครั้งนี้ด้วย

และขอให้ประชาชนเชื่อมั่นต่อการทำงานทำหน้าที่ของ ป.ป.ช.ชัยภูมิ ในครั้งนี้ด้วย ซึ่งในวันนี้มีแนวทางที่เปิดให้มีการเข้ามามีส่วนร่วมจากทุกฝ่าย ได้ช่วยกันตรวจสอบการทุจริตที่เข้มแข็งให้ยั่งยืนมากขึ้นต่อไปในอนาคตด้วย ทั้งการดำเนินงานของ ป.ป.ช.ชัยภูมิ ในรอบปีที่ผ่านมา ก็มีการตรวจสอบปราบปรามการทุจริตในพื้นที่จำนวนมากมาแล้วกว่า 106 เรื่องตรวจสวบไปแล้วกว่า 75 เรื่อง และอยู่ระหว่างไต่สวนอีก 25 เรื่อง ในช่วงถึงวันที่ 26 ม.ค.65 ที่ผ่านมา

และมีการชี้มูลความผิดล่าสุดแล้วกว่า 6 เรื่อง ที่ส่วนใหญ่พบการกระทำความผิดในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ในเรื่องการใช้จ่ายงบประมาณ การปกปิดไม่แจ้งข่าวการจัดซื้อจัดจ้างงานก่อสร้าง ทำให้รัฐเกิดความเสียหาย การทุจริตการจัดซื้อจัดจ้าง การใช้อำนาจเรียกรับเงินส่วนแบ่ง เรียกเบิกจ่ายเงินค่าตอบแทน ซึ่งเป็นปัญหาหลักที่พบการทุจริตในปัจจุบันเป็นจำนวนมาก และอยู่ระหว่างที่ให้ดำเนินคดีทั้งทางอาญา และวินัย รวมทั้งทางแพ่งตามมากอีกต่อเนื่องอีกเป็นจำนวนมากด้วย

รวมทั้งโดยเฉพาะในปัจจุบัน กระบวนการตรวจสอบการทุจริต ทาง ป.ป.ช.ชัยภูมิ เองได้เล็งเห็นว่าต้องการอยากให้มีทุกภาคส่วนเข้ามามีส่วนร่วมในการตรวจสอบช่วยกันให้มากขึ้น ไม่ใช่แค่การปราบปราม แต่การป้องกันก็ต้องมีเกิดขึ้นควบคู่กันต่อจากนี้ให้มากขึ้นต่อไปอีกด้วย

ซึ่งมีโครงการ”ป้องนำปราบ” โครงการ STRONG จิตพอเพียงต้านทุจริต ของ ป.ป.ช.ชัยภูมิ ที่มีวัตถุงประสงค์เพื่อผลักดันการป้องกันการทุจริตเชิงรุก ด้วยการสร้างเสริมให้คนในชุมชนมีจิตพอเพียงต้านทุจริต ได้เข้ามามีส่วนร่วมเป็นเครือข่ายการตรวจสอบป้องกันการทุจริตในทุกพื้นที่ของชุมชนตนเอง ในทั้ง 16 อำเภอ ที่จะมีส่วนในการแจ้งการป้องกันไม่เกินการทุจริตในพื้นที่ตนเอง ทั้งการเปิดพื้นที่ให้กับภาคประชาชน สื่อมวลชน หน่วยงานต่างๆ ในการเปิดเผยข้อมูล ITA ในการที่จะต้องกล้าเปิดเผยข้อมูลโครงการในแต่ละพื้นที่ ซึ่งจะต้องมีป้ายรายละเอียดโครงการต่างๆที่ทำ มีรายละเอียดการดำเนินงาน งบประมาณ ระยะเวลา ช่วงเวลา ผู้รับผิดชอบต่างๆในแต่ละพื้นที่ที่ต้องเปิดเผยสามารถให้ประชาชนในพื้นที่ได้เข้าไปตรวจสอบข้อมูลการดำเนินการโครงการต่างๆที่มีในทุกพื้นที่ได้ เพื่อความโปร่งใสต่อโครงการที่เกิดขึ้นในทุกพื้นที่จากนี้ไปด้วย

รวมทั้งการแจ้งเป็นเครือข่ายตรวจสอบโครงการต่างๆของแต่ละพื้นที่ เพื่อนำไปสู่การแก้ไขให้ถูกต้องก่อน อาทิ อย่างกรณีปัญหาถนนในชุมชนที่ในการก่อสร้างอาจจะไม่ได้มาตรการหรือไม่ตรงกับความเป็นจริงต่องบประมาณที่ใช้ดำเนินการลงไป การป้องกันก่อน คือแจ้งมาให้เครือข่ายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงไปตรวจสอบและแจ้งว่าควรทำให้ถูกต้องก่อนดีกว่า ซึ่งเป็นการป้องกันก่อนดีกว่ามาแก้ทีหลัง ก็จะทำให้แต่ละพื้นที่มีการตรวจสอบการใช้งบประมาณของประเทศที่ลงไปได้ใช้คุ้มค่าตามวัตถุประสงค์ให้ได้มากขึ้นก่อน

ซึ่งทาง ป.ช.ป.ไม่จำเป็น ก็ไม่อยากให้เข้าสู่การต้องมาใช้กระบวนการปราบปรามเลย การใช้กระบวนทางกฏหมาย หากทำโครงการต่างๆ ที่เคยท้วงติงไปแล้วจนเสร็จหรือสำเร็จไปแล้ว หากตรวจพบเกิดการทุจริต ก็จะต้องใช้มาตรการปราบปรามและต้องมีโทษหนักทางอาญา ซึ่งทาง ป.ป.ช.เอง ก็ไม่อยากให้มาตรการรุนแรง หากเตือนกันได้ก่อนแล้วทำให้ถูกต้อง บ้านเมืองก็มีคุณภาพ และเกิดประโยชน์ต่อทั้งงบประมาณแผ่นดินที่ลงไป และเกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาติอย่างยั่งยืนตามมาในอนาคตได้

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน

สุทธิพงศ์ เสฏฐรังสี

สุทธิพงศ์ เสฏฐรังสี

น้อมรับการทำหน้าที่สื่อเพื่อประชาชนมายาวนานกว่า25ปีเพื่อชาวชัยภูมิพร้อมเป็นเครือข่ายการทำหน้าที่สื่อมวลชนที่ดีในนามสมาคมนักข่าวจังหวัดชัยภูมิและชมรมสื่อมวลชนชัยภูมิพร้อมรับใช้ชาวชัยภูมิและเป็นเวทีให้กับประชาชนทุกท่านตลอดไปมีอะไรเดือดเนื้อร้อนใจติดต่อมาที่ทีมงาน77ข่าวเด็ดชัยภูมิเราได้หรือที่[email protected]