ออกหมายจับเร่งล่าภาพโจรแสบขับเก๋งขโมยสตั๊ด นร.หายยกทีมยังหนีลอยนวล!(คลิป)

ชัยภูมิ – พบก่อคดีอีกมาอย่างโชกโชนในหลายจังหวัด ตั้งแต่ จ.สิงห์บุรี,ร้อยเอ็ด,กาฬสินธุ์ และที่ จ.ชัยภูมิ ก่อมาเหตุสุดทำสภาพจิตใจนักเรียนระหว่างรอแข่งกีฬาชิงแชมป์จังหวัดหายยกทีมร่วม 13 คู่ พร้อมทรัพย์สินอีกหลายรายการสูญหายไปอีกร่วมกว่าแสนบาท และเด็กต้องยอมตกรอบการแข่งขันในครั้งนี้ไปอย่างน่าเศร้า ล่าสุดผู้ใจบุญเดินทางมอบรองเท้าสตั๊ดคู่ใหม่ให้แล้ว-ตำรวจเผยภาพออกหมายจับคนร้ายโจรหัวขโมยแสบรายนี้เร่งไล่ล่าในหลายพื้นที่ หาก ปชช.พบเห็นช่วยแจ้งเบาะแส จนท.ตร.ใกล้บ้านได้ทันที!

( 27 ม.ค.65 ) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าล่าสุดกรณีทีมนักฟุตบอลนักเรียนโรงเรียนคอนสวรรค์ จังหวัดชัยภูมิ รุ่นอายุไม่เกิน 18 ปี ในการเข้าร่วมแข่งขันกีฬานักเรียนโซนหุบเขา ที่มีขึ้นในระหว่าง 24-26 ม.ค.65 ที่ผ่านมา ซึ่งเด็กได้เดินทางมารอเข้าร่วมการแข่งขันและถอดรองเท้าสตั๊ด โทรศัพท์ กระเป๋าสตางค์ กุญแจรถมอเตอร์ไซต์ ไว้ที่กระบะรถหลังคาแคร์รี่บอยของคุณครูที่นำทีมมาแข่งขัน ก่อนถูกหัวขโมยแสบแอบขับรถเก๋งเข้ามาจอดเทียบข้างรถกระบะเก็บของและขโมยรองเท้าสตั๊ดของเด็กนักเรียนหายไปทั้งหมดครั้งนี้ยกทีมรวมหายไปรวม 13 คู่ โทรศัพท์ กระเป๋าสตางค์ กุญแจรถมอเตอร์ไซต์ หายไปทั้งหมด จนไม่มีอุปกรณ์รองเท้าสตั๊ดมาสวมใส่ร่วมทำการแข่งขันต้องแพ้ตกรอบทั้งที่ยังไม่ได้แข่งในสนามแรกมาตั้งแต่วันที่ 24 ม.ค.65 ที่ผ่านมา

ซึ่งมีภาพจากกล้องวงจรปิดจับภาพได้ขณะหัวขโมยแสบขับเก๋งรายนี้เข้ามาก่อเหตุ นำเข้าแจ้งความต่อ จนท.ตร.สภ.เมืองชัยภูมิ ให้ช่วยเร่งติดตามโจรรายนี้อย่างต่อเนื่องแล้วมาตั้งแต่ช่วงเย็นวานนี้ 24 ม.ค.65 ที่ผ่านมา

จนต่อมาได้มีผู้ใหญ่ใจบุญหลายคน บริษัมรองเท้าสตั๊ดชื่อดังทราบเรื่องที่เกิดขึ้น ได้โทรติดต่อขอบริจาครองเท้าสตั๊ดให้เด็กทุกคนได้มีรองเท้าสตั๊ดคู่ใหม่ทั้งหมดแล้ว แม้เด็กทั้งหมดจะตกรอบไปแล้วจากการจัดการแข่งขันกีฬาครั้งนี้ยุติปิดสนามการแข่งทั้งหมดลงไปแล้วมาตั้งตั้งแต่วันที่ 26 ม.ค.65 แล้วก็ตาม

ซึ่งด้าน นายสุชาติ  รักษาชนม์ ผู้อำนวยการโรงเรียนคอนสวรรค์ ออกมาเปิดเผยว่า วันที่เกิดเหตุ ผู้ฝึกสอน ครูและนักกีฬานักเรียนดังกล่าวได้ได้รับความเสียหายครั้งนี้มีด้วยกันรวม 13 คน  ได้ไปจอดรถที่ ร.ร. ชัยภูมิภักดีชุมพล เพื่อที่จะให้นักนักเรียนส่วนหนึ่งไปร่วมทำการแข่งขันกีฬาฟุตซอลในสนาม ร.ร.เกิดเหตุดังกล่าว เพราะนักกีฬาทีมฟุตบอลอีกทีมที่รอแข่งอีกสนามมี 11 คน ส่วนหนึ่งเป็นหนึ่งในทีมนักกีฬาฟุตซอลเอง ก็มีเด็กในทีมฟุตซอลที่ต้องไปแข่งในสนามกีฬาเกิดเหตุรองเท้าสตั๊ดถูกขโมยหายไปร่วมอยู่ด้วย จึงเดินทางมาแข่งฟุตซอลก่อน ส่วนหนึ่งที่ไม่ได้แข่งก็นั่งรอเชียร์เพื่อน

เพื่อรอพากันไปแข่งขันฟุตบอล 11 คน ต่อที่อีกสนามที่สนามวิทยาลัยพลศึกษา แต่เมื่อแข่งฟุตซอลเสร็จ กำลังจะขึ้นรถเพื่อเดินทางไปเตรียมตัวแต่งชุดนำรองเท้าสตั๊ดที่เก็บไว้ในรถคณุออกมาใส่ไปแข่งฟุตบอล 11 คน ต่อเมื่อมาถึงรถกลับพบว่า กระเป๋าของนักเรียนหายไปจากการเก็บไว้ที่ท้ายรถครูเกือบหมด ซึ่งข้างในมีรองเท้าสตั๊ด ของมีค่าของนักเรียนอีกหลายรายการ ทำให้นักกีฬาฟุตบอลที่จะไปแข่งต่อในสนาม 11 คน ไม่มีรองเท้าสตั๊ดใส่ในการไปแข่งขันอีกสนามได้ โดยรองเท้านักกีฬานักเรียนครั้งนี้หายไปทั้งหมดรวม 13 คู่   เมื่อตนทราบเรื่องจึงพาเด็กทั้งหมดมาแจ้งความแล้วและปลอบใจให้เด็กๆ มีกำลังใจ โดยให้ครูจะลงทุนซื้อรองเท้าสตั๊ดใหม่ให้เด็กใหม่ทุกคนไปก่อน เพื่อที่จะแข่งขันต่อแต่สภาพจิตใจเด็กนักเรียนทั้งทีม 13 คน ที่ถูกขโมยรองเท้าสตั๊ดหายไปทั้งหมด เกิดสภาพจิตใจบอบช้ำรับต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ได้และไม่พร้อมที่จะลงแข่งได้ จึงยอมแพ้ตกรอบในครั้งนี้ไปในแข่งขันกีฬาประจำปีโซนหุบเขาของจังหวัดชัยภูมิปี 2565 นี้อย่างน่าเศร้าใจของเด็กๆทุกคนในครั้งนี้ด้วย

ซึ่งวันนี้เองล่าสุด (27 ม.ค.65) ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองชัยภูมิ มีความคืบหน้าของคดี ตรวจพบข้อมูลกรณีรถเก๋งคันที่ใช้ก่อเหตุ พบว่าเป็นรถเก๋งยี่ห้ออัลติส สีเทา-ดำ ป้ายทะเบียน 4 กง 4311 หมวดจังหวัดกรุงเทพมหานคร ซึ่งผู้ครอบครองรถชื่อ นายบุญเลิศ  เกตุเอี่ยม อายุ 65 ปี อาศัยบ้านเลขที่ 153 หมู่ที่ 4 ตำบลสิงห์ อำเภอบางระจันทร์ จังหวัดสิงห์บุรี ได้เข้าแจ้งความไว้กับทางด้าน ร.ต.อ.ณัฐธเนศ  อัครดำรงค์กุล รอง สว.(สอบสวน) สภ.สิงห์บุรี เมื่อช่วงเย็นของวันที่ 29 พฤศจิกายน 2564 ที่ผ่านมา

โดย นายบุญเลิศ เจ้าของรถเก๋งที่ถูกขโมยมาใช้ก่อเหตุที่ จ.ชัยภูมิ ครั้งนี้ กล่าวว่า เขาเองเป็นเจ้าของรถเก๋งดังกล่าว และได้ขับไปออกกำลังกายบริเวณสนามกีฬาจังหวัดสิงห์บุรี หมู่ที่ 1 ตำบลบางมัญ อำเภอเมือง จังหวัดสิงห์บุรี หลังจากที่ตนออกกำลังกายเสร็จเดินกลับมาที่รถพบว่ารถเก๋งของตนได้หายไป ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดพบว่าผู้ก่อเหตุชื่อ นายสุพจน์  สีเหลื่อมโส อายุ 43 ปี อาศัยบ้านเลขที่ 199 หมู่ที่ 7 ตำบลหัวนาคำ อำเภอยางตลาด จังหวัดกาฬสินธุ์

ซึ่งมีการนำรถ จยย.ที่ไปขโมยมาก่อนและนำมาจอดไว้ภายในสนามกีฬา จ.สิงห์บุรี ซึ่งว่าพบรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้าคลิ๊ก สีเหลืองดำ หมายเลขทะเบียน 1 กถ 6793 หมวดจังหวัดร้อยเอ็ด ที่ถูกขโมยมาจากท้องที่ สภ.เมืองร้อยเอ็ด มาถูกจอดทิ้งไว้ในสนามกีฬาจังหวัดสิงห์บุรีแทนไว้ดูต่างหน้า ก่อนขโมยรถเก๋งดังกล่าวออกตระก่อนเหตุลักทรัพย์มาต่อเนื่องถึงที่ จ.ชัยภูมิ ครั้งนี้ขึ้นอีกล่าสุด

ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้นำภาพจากกล้องวงจรปิดและภาพสเก็ตผู้ก่อเหตุรายนี้เพื่อออกหมายจับ นายสุพจน์ สีเหลื่อมใส อายุ 43 ปี ซึ่งเป็นชาว จ.กาฬสินธุ์ แล้ว ซึ่งนายสุพจน์ ผู้ต้องหารายนี้ได้หลบหนีหมายจับจากจังหวัดสิงห์บุรีและขับรถเก๋งคันดังกล่าวมาก่อเหตุอย่างต่อเนื่องกระทั้งมาก่อเหตุขโมยสตั๊ดเด็กนักเรียนหายยกทีมในพื้นที่ของจังหวัดชัยภูมิ ในครั้งนี้อีกด้วย ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างเร่งไล่ล่าติดตามตัวอย่างต่อเนื่องของเจ้าหน้าที่ตำรวจในหลายพื้นที่เกี่ยวข้องทั้ง จ.สิงห์บุรี,ร้อยเอ็ด,กาฬสินธุ์ และ จ.ชัยภูมิ อย่างต่อเนื่องแล้ว และหากประชาชนพลเมืองดีท่านใดพบเห็นบุคคลตามภาพออกหมายจับขอให้ช่วยแจ้งเบาะแสให้ จนท.ตร.ในพื้นที่ใกล้เคียงได้ทันที

สำหรับผู้ใจบุญที่ยื่นมือช่วยน้องที่ถูกขโมยสตั๊ดในครั้งนี้ Ari มอบสตั๊ดรุ่นใหม่ล่าสุด มูลค่ารวมเฉียดแสนบาทให้โรงเรียนคอนสวรรค์ที่ถูกขโมยรองเท้าแล้ว

หลังจากที่ ทีมฟุตบอลโรงเรียนคอนสวรรค์ จ.ชัยภูมิ ถูกคนร้ายขโมยรองเท้าสตั๊ด 11 คู่ รวมถึงโทรศัพท์ส่วนตัว, กุญแจรถ และเงินสด กระเป๋าสตางค์ อีกจำนวนหนึ่ง ก่อนลงแข่งขันฟุตบอลกีฬาโซนหุบเขา ภายในจังหวัด โดยนักฟุตบอลในทีมส่วนใหญ่เป็นเพียงเด็กนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ที่กำลังจะเรียนจบ

และเรื่องที่เกิดขึ้นนี้ทำให้หลายคนที่เห็นข่าวรู้สึกเห็นใจ พร้อมเอาใจช่วยให้เร่งตามจับตัวคนก่อเหตุมาดำเนินคดีให้ได้ ซึ่งหนึ่งในผู้ที่อยากออกมาขอร่วมให้ความช่วยเหลือเด็กที่ได้รับความเสียหายครั้งนี้ คือแบรนด์ “อาริ” (Ari) ร้านจำหน่ายสินค้าฟุตบอลและแบรนด์อุปกรณ์กีฬาชื่อดังของเมืองไทย ที่ได้มีการมอบรองเท้าสตั๊ดคู่ใหม่ให้กับทางโรงเรียนแล้วในครั้งนี้ด้วย

โดย นายธเนศ โฆษิตวุฒิโสภณ หรือ “ซันชิโร” รองประธานฝ่ายการตลาด Ari Football ได้เปิดเผยว่า ทางร้านเตรียมจัดส่งรองเท้าสตั๊ดคู่ใหม่ จำนวน 9 คู่ ประกอบด้วย Adidas รุ่น Predator Edge รุ่นใหม่ล่าสุดที่ได้เปิดตัวในช่วงเย็นวานนี้วันที่ 25 มกราคม ที่ผ่านมาแล้ว จำนวน 5 คู่ และรุ่น Copa Sense อีก 4 คู่ พร้อมด้วยรองเท้าวิ่งและถุงมือผู้รักษาประตูอีกอย่างละ 1 คู่ ให้กับน้อง ๆ นักฟุตบอลทีมโรงเรียนคอนสวรรค์ โดยสนนราคาทั้งหมดรวมแล้วประมาณ 95,000 บาท

“ซึ่งเขาเผยว่า เราได้เห็นข่าวพอดีเลยอยากให้ความช่วยเหลือน้อง ๆ ให้ได้ทำตามความฝันต่อ จึงติดต่อทางโรงเรียนไป ซึ่งทางอาจารย์ของโรงเรียนก็เกรงใจไม่อยากรับ แต่เราอยากให้จริง ๆ เราไม่ได้หวังอะไรเลยแค่อยากสานฝันให้น้อง ๆ เท่านั้น ซึ่งเป็นสิ่งที่อาริให้ความสำคัญและทำมาตลอดอยู่แล้ว” นายธเนศ เผยทิ้งท้าย