ชัยภูมิ – พบคนขับเก๋งผู้ก่อเหตุรายนี้ยังมีประวัติโชกโชนทั้งรถที่ใช้ก่อเหตุยังถูกแจ้งถูกขโมยมาอีกทอดด้วย ยังมาก่อเหตุทำให้เกิดเรื่องสุดสลดสงสารน้องๆ เด็กนักเรียนรุ่นอายุไม่เกิน 18 ปี อีกกว่า 13 ชีวิต ในครั้งนี้ที่ต้องมาถูกขโมยรองเท้าสตั๊ด ก่อนใส่ลงแข่งหายไปยกทีมและไม่สามารถไปหามาใส่ลงแข่งกีฬาโซนหุบเขาประจำจังหวัดในปีนี้ได้ทัน ต้องถูกปรับแพ้ยกทีมไปด้วยครั้งนี้อย่างน่าเศร้า ล่าสุด ผกก.สภ.เมืองชัยภูมิ พบหัวขโมยแสบขับเก๋งรายนี้ที่เข้ามาก่อเหตุพบมีประวัติโชกโชน รวมทั้งรถเก๋งที่ใช้ก่อเหตุยังมีประวัติถูกแจ้งหายมีคนขโมยมาก่อเหตุในครั้งนี้อีกด้วย พร้อมเร่งรวบรวมหลักฐานเตรียมออกหมายจับหัวขโมยแสบให้ได้ในเร็วๆ นี้!
( 25 ม.ค.65 ) ขณะที่ จ.ชัยภูมิ ความคืบหน้าหลังมีภาพจากกล้องวงจรปิดจับภาพทีมนักฟุตบอลนักเรียนโรงเรียนคอนสวรรค์ รุ่นอายุไม่เกิน 18 ปี ซึ่งเข้าร่วมแข่งขันกีฬานักเรียนโซนหุบเขาประจำปี 65 ของจังหวัดชัยภูมิที่จัดมาต่อเนื่องเป็นประจำทุกปีที่ปีนี้เป็นปีที่ 46 หรือ ครั้งที่ 46 ในระหว่างรอบคัดเลือกและชิงแชมป์ชนะเลิศในช่วง 3 วัน ในช่วง 24-26 ม.ค.65 นี้ ณ สนามกีฬาที่กระจายอยู่ตามสถานศึกษาโรงเรียนต่างๆในตัวเมืองชัยภูมิกว่า 10 แห่ง
และระหว่างที่ทีมนักกีฬาฟุตบอลจาก ร.ร.คอนสวรรค์ ได้ถอดรองเท้าสตั๊ด และทรัพย์สินมีค่าทั้งโทรศัพท์ กระเป๋าสตางค์ กุญแจรถ จยย. ไว้ที่กระบะรถหลังคาแคร์รี่บอยของคุณครูที่พามารอลงสนามทำการแข่งขันในครั้งนี้ ที่โรงเรียนชัยภูมิภักดีชุมพล
และได้มีหัวขโมยแสบขับรถเก๋ง แอบมาจอดข้างๆและขโมยรองเท้าสตั๊ด โทรศัพท์ กระเป๋าสตางค์ กุญแจรถ จยย.ของนักเรียนในครั้งนี้ โดนขโมยหายไปทั้งหมดยกทีมรวม 13 คน/ นร.ที่มาร่วมการแข่งขันในครั้งนี้ จนเมื่อถึงเวลาลงแข่งมาตั้งแต่วานนี้( 24 ม.ค.65) เป็นวันแรก ทำให้น้องๆ นร.ทีมนี้ไม่มีอุปกรณ์ทำการแข่งขันได้ ต้องถูกตัดสิทธิ์ไม่มีอุปกรณ์รองเท้าสตั๊ดมาร่วมลงแข่งขันกีฬาฟุตบอลไม่ครบตามระเบียบได้ จนต้องถูกปรับแพ้ฟาล์วตกรอบไปแล้ววานนี้
ก่อนที่จะมีการไปตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด มีการจับภาพได้ขณะหัวขโมยขับเก๋งรายนี้เข้ามาก่อเหตุ และมีความคืบหน้าจากการแกะรอยจากกล้องวงจรปิดบริเวณโดมของโรงเรียนชัยภูมิภักดีชุมพล จับภาพได้มองเห็นชัดเจนเป็นรถเก๋งถอยเข้าไปเทียบข้างรถกระบะของคณะทีมฟุตบอลของโรงเรียนคอนสวรรค์ แล้วเปิดประตูรถเก๋ง ไปถือเอาของนักเรียนมาใส่รถเก๋งดังกล่าว แล้วขับหลบหนีออกไปจาก ร.ร. ซึ่งเหตุการณ์นี้ เกิดขึ้นเมื่อช่วงเวลาประมาณ 11.00น.วันที่ 24 ม.ค.65 ที่ผ่านมา
ก่อนที่จะมีผู้ใช้เฟซบุ๊กส่วนตัวที่ใช้ชื่อว่า Torslur Ngorknavung ได้โพสต์ระบุว่า ขออนุญาต ฝากเพจต่างๆช่วยประชาสัมพันธ์ ตามล่ามิจฉาชีพ หน่อยครับ วันนี้ เวลาประมาณ 10 โมง นักกีฬาฟุตบอลโรงเรียนคอนสวรรค์ รุ่นอายุไม่เกิน 18 ปี ไปทำการแข่งขันกีฬาโซนหุบเขา รอบจังหวัด ที่ ร.ร. ชัยภูมิภักดีชุมพล ในขณะที่แข่งขันฟุตซอลเสร็จ กำลังจะไปแข่งขันต่อที่สนามฟุตบอลวิทยาลัยพลศึกษา ต่อไปอีกสนามมาที่รถไม่พบทั้งรองเท้าสตั๊ด โทรศัพท์ กระเป๋าสตางค์ กุญแจรถมอเตอร์ไซต์ ของนักกีฬากว่า 10 คน ที่นำมารวมไว้ในที่กระบะรถหลังคาแคร์รี่บอยของคุณครูที่พามาแข่งขันในครั้งนี้ ซึ่งเป็นรถกระบะอีซูซุ 4 ประตู ป้ายทะเบียน กค 7042 หมวดจังหวัดชัยภูมิ ที่จอดไว้ภายในโดมของโรงเรียนชัยภูมิภักดีชุมพล ถูกหัวขโมยได้แอบมาขโมยไปหมดทั้งกว่า 10 คน ทำให้นักกีฬา ไม่มีอุปกรณ์ทำการแข่งขันต่อ ต้องถูกตัดสิทธิ์เพราะไม่มีอุปกรณ์มาสวมใส่ลงแข่งไม่ครบต้องถูกตัดสิทธิ์ให้แพ้ตกรอบอย่างน่าเสียดาย จึงนำภาพจากกล้องวงจรปิดบริเวณโดมของโรงเรียนชัยภูมิภักดีชุมพล เข้าแจ้งความที่ สภ.เมือง ชัยภูมิ แล้ว
ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้รับการเปิดเผยจากนายสุชาติ ตุงชีพ อายุ 40 ปี ซึ่งเป็นครูชำนาญการพิเศษโรงเรียนคอนสวรรค์ อำเภอคอนสวรรค์ จังหวัดชัยภูมิ หลังได้หอบหลักฐานไม่ว่าจะเป็นภาพและกล้องวงจรปิดเข้าแจ้งความกับทางด้าน ร.ต.อ.ธีรพันธ์ สุนทรวิภาต รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองชัยภูมิ โดยมีนักเรียนที่เป็นนักกีฬาและเป็นผู้เสียหายเข้าแจ้งความในครั้งนี้ด้วยทั้งหมด 13 คน
โดยนายสุขาติ คุณครูนำทีมนักเรียนครั้งนี้กล่าวว่า เมื่อช่วงเวลาประมาณ 11.00น.วานนี้ (24 ม.ค.65) ที่ผ่านมาได้พานักเรียนซึ่งเป็นนักกีฬาฟุตซอลของโรงเรียนมาร่วมการแข่งขันกีฬาโซนหุบเขา ภายในโดมของโรงเรียนชัยภูมิภักดีชุมพล ซึ่งได้ขับรถกระบะอีซูซุ 4 ประตู ป้ายทะเบียน กค 7042 หมวดจังหวัดชัยภูมิ ซึ่งด้านหลังรถของตนนั้นได้ติดแคร์รี่บอย และปิดอย่างแน่นหนา เพื่อให้นักเรียนได้เก็บของไว้ด้านหลังรถ ซึ่งช่วงเช้าที่ผ่านมาตนได้จอดรถไว้บริเวณหน้าอาคารใหม่ของโรงเรียนชัยภูมิภักดีชุมพล กระทั่งใกล้เวลาเข้าแข่งขันตนจึงให้นักเรียนเปลี่ยนชุดเพื่อทำการแข่งขัน โดยให้นักเรียนทั้ง 13 คนที่จะทำการแข่งขันนำกระเป๋าเงินสิ่งของเครื่องใช้ กุญแจรถ จยย.ของเด็ก และ รองเท้าสตั๊ดทั้งหมดมาเก็บไว้ด้านหลังรถของตน จากนั้นให้นักกีฬาไปทำการแข่งขันจนแล้วเสร็จ กระทั้งเสร็จกิจกรรมนักเรียนที่จะต้องพากันเดินทางทางไปลงแข่งต่ออีกสนามจึงเดินมาเปลี่ยนชุดพบว่าสิ่งของของนักกีฬาได้หายไปทั้งหมด กระทั้งตนรีบมาดูและตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดพบว่ามีรถเก๋งคันดังกล่าวได้มาขโมยสิ่งของที่รถของตน ก่อนที่จะขับหลบหนีไป ตนจึงนำภาพจากกล้องวงจรปิดและนักเรียนทั้ง 13 คนเข้ามาแจ้งความไว้ที่ สภ.เมืองชัยภูมิ
และล่าสุด พ ต.อ.สุมิตร นันท์นฤมิตร ผกก.สภ.เมืองชัยภูมิ เปิดเผยว่า ขณะนี้ทางตำรวจพอรู้ตัวผู้ก่อเหตุในเบื้องต้นแล้ว ทราบว่าพึ่งพ้นโทษมาประมาณ 2 เดือนที่ผ่านมา จากนั้นได้ก่อเหตุขโมยรถเก๋งของชาวบ้านที่เคยใช้เป็นรถแท็กซี่ แล้วขับตระเวนขโมยสิ่งของชาวบ้านตามจังหวัดต่างๆ ก่อนจะมาก่อเหตุยกเค้าขโมยทั้งรองเท้าสตั๊ด โทรศัพท์ กระเป๋าสตางค์ กุญแจรถ จยย. ของนักกีฬาที่มาแข่งขันกีฬาโซนหุบเขาในครั้งนี้ได้รับความเสียหายรวม 13 คนหลบหนีไป ซึ่งขณะนี้ได้เร่งให้ชุดสืบสวนรวบรวมหลักฐานจากกล้องวงจรปิด พยานต่างๆ เตรียมออกหมายจับผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ได้ในเร็วๆ นี้ต่อไป
ขณะที่ด้านคณะครูและนักเรียนโรงเรียนคอนสวรรค์ที่ได้รับความเสียหายในครั้งนี้ ต่างก็พากันได้แต่ทำใจต้องปล่อยให้เป็นเรื่องของทาง จนท.ตร.ดำเนินการทางกฎหมายกับผู้ก่อเหตุเพื่อให้จับกุมตัวมาดำเนินคดี และนำสิ่งของอุปกรณ์กีฬาของเด็กๆ ทั้งหมดมาคืนให้ได้โดยเร็วต่อไป ทั้งในส่วนที่ถูกขโมยรองเท้าสตั๊ดหายระหว่างที่จะทำการแข่งขันกีฬา ก็ยิ่งสร้างผลกระทบให้กับทีมนักเตะนักเรียนในครั้งนี้ทุกคน เพราะเป็นระเบียบของการแข่งขันกีฬาที่นักกีฬาไม่มีความพร้อมไม่มีอุปกรณ์รองเท้ามาใส่ตามระเบียบลงแข่งขันได้ทันช่วงเวลาลงสนามก็ต้องถูกตัดสิทธิ์ไม่สามารถลงแข่งขันในกีฬาต่อไปจนถึงรอบชิงชนะเลิศในครั้งนี้ได้ตามระเบียบ เด็กทุกคนต้องทำใจเพราะหัวขโมยรายนี้เองสุดแสบจริงๆ ที่มาก่อเหตุในครั้งนี้ที่ยังมาทำให้เด็กนักเรียนกว่า 13 ชีวิต ต้องมาเสียโอกาสตกรอบการแข่งขันกีฬาในระหว่างที่ยังไม่ทันลงแข่งขันได้ครบทุกสนามเลยในครั้งนี้ด้วย
ซึ่งล่าสุดเองก็มีรายงานว่าก็เริ่มมีหน่วยงาน ภาคเอกชนที่เป็นร้านค้าอุปกรณ์กีฬารองเท้าสตั๊ดชื่อดังหลายแห่งได้ติดต่อกับคณะครูและทีมเด็กนักเรียนที่ถูกขโมยรองเท้าสตั๊ดหายไป เพื่อให้กำลังใจที่จะส่งมอบรองเท้าสตั๊ดคู่ใหม่และอุปกรณ์กีฬาที่ขาดแคลนถูกขโมยไป เพื่อให้กำลังน้องๆทุกคนในครั้งนี้ได้มีกำลังใจนำไปใส่ใช้ฝึกซ้อมกีฬาเพื่อแข่งขันตามฝันต่อไปในครั้งนี้ด้วยเช่นกัน
