ชัยภูมิ – หลังมีข่าวลือว่าผู้เป็นแม่วัย 58 ปี ติดโควิดฯ ซึ่งเป็นแม่ของลูกทรพีคลั่งเผาบ้าน-ขู่ตามฆ่ายกครัวทั้ง 5 ชีวิต ต้องพากันหนีตายออกจากบ้านนอนข้างทางตามท้องไร่นาชาวบ้านไปทั่ว ล่าสุดทุกหน่วยงานเกี่ยวข้องเร่งช่วย พร้อมตรวจผลยืนยันไม่ติดโควิด-19 ตามที่มีข่าวลือไปทั่วในหมู่บ้านแล้ว พร้อมอยากให้สังคมเข้าใจ!
( 9 ธ.ค.64 ) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้า หลังพบครอบครับคุณยายหญิงชราวัย 86 ปี พร้อมลูกสาววัย 58 ปี และหลานสาว3ขวบ 15 ปี และ 16 ปี รวม 5 ชีวิต สุดรันทดต้องพากันนำเป็ดไล่ทุ่ง 1 ฝูงที่เหลือไม่กี่ตัวเป็นสมบัติชิ้นสุดท้ายของครอบครัว ออกพากันเร่ร่อนไปหาเลี้ยง และพากันตั้งเพิงพักหลับนอนตามริมทาง ไร่นาชาวบ้านไปทั่ว ในรอยต่อพื้นที่หมู่บ้านโคกแพงพวย ต.ละหาน อ.จักตุรัส จ.ชัยภูมิ เพราะทั้ง 5 ชีวิตรายนี้ต้องพากันหนีตายออกจากบ้านตัวเองที่เคยอยู่ เนื่องจากลูกชายบังเกิดเกล้าของนางนาฏ วัย 58 ปี ติดยาเสพติดหนักจนเกิดคลุ้มคลั่งทำลายข้าวของในบ้าน และไล่ทำร้ายคนในบ้านทั้ง 5 ชีวิต หวิดที่จะบีบคอหลานสาววัย 3 ขวบเสียชีวิต ก่อนที่จะพากันหนีออกจากบ้านมาได้ ก่อนเกิดเรื่องเศร้าหนักขึ้นหนักตามมาซ้ำอีกเมื่อลูกชายคลั่งยารายนี้ได้เผา วางเพลิงบ้านของครอบครัวนี้ทิ้งไหม้เสียหายจนเหลือแต่ซากหมดทั้งหลัง ที่บ้านเลขที่ 76 หมู่ที่ 7 บ้านห้วยหลัว ตำบลหนองนาแซง อำเภอเมือง จังหวัดชัยภูมิ
ซึ่งยังไม่หนำซ้ำลูกชายรายนี้หลังถูกจับไป ยังร้องประกาศขู่อาฆาตว่าถ้าพ้นคุกออกมาจะกลับมาฆ่าทิ้งให้หมดยกครัว เมื่อช่วงกว่า 1 เดือนที่ผ่านมา ก่อนที่ครอบครัวที่เป็นหญิงทั้ง 5 ชีวิตครั้งนี้ จะไม่มีบ้านอยู่แล้ว จึงพากันตัดสินใจนำรถ จยย.ที่เหลือ มาทำเป็นรถพ่วงข้าง และนำเป็ดที่เลี้ยงไว้ 1 ฝูง เป็นสมบัติจากบ้านที่เหลือชิ้นสุดท้าย พากันออกเร่ร่อนออกมาหาที่พักพิงใหม่กันตามยะถากรรม ตามพื้นที่ตามท้องไร่นาริมทางของชาวบ้านในขณะนี้ไปทั่ว เพื่อยึดอาชีพเลี้ยงเป็ดไล่ทุ่ง เพื่อเก็บไข่ไปขายเลี้ยงครอบครัว อยู่บริเวณพุ่มไม้ป่าไร่นาของชาวบ้านที่ก็ไม่รู้ว่าเป็นของใคร ในขณะนี้ที่ตั้งอยู่ริมทางถนนสายชัยภูมิ – สีคิ้ว 2155. รอยต่อเขต อำเภอเมือง กับ อ.จัตุรัส จ.ชัยภูมิ
ข่าวน่าสนใจ:
- ด่วน โรงน้ำแข็งสารเคมีเกิดสารแอมโมเนียรั่ว จนท.กัน ประชาชนห่าง 2 ก.ม. ส่งผู้บาดเจ็บเบื้องต้นกว่า ครึ่งร้อย
- ชัยภูมิน้ำตกตาดโตนครองแชมป์เปิด 5 อันดับคนแห่เที่ยวสงกรานต์ 67 มากสุดในเมืองไทย!
- สระแก้ว ขวดบิน!! ตีกันเละ เด็ก 14 โดนตีสลบ งานวันไหลสงกรานต์วังสมบูรณ์
- ฝ่ายปกครอง อ.เมืองนครพนม ตรวจยึดยาบ้า พร้อมผู้ต้องหา
ซึ่งล่าสุดตั้งแต่ช่วงกลางดึกที่ผ่านมา ทั้งด้านนายวรศิษย์ พุฒจีบ นายอำเภอจัตุรัส พร้อมนายอนุชา เจริญรักษ์ นายอำเภอเมืองชัยภูมิ นางสาวภัทรานิษฐ์ ก่อกุศล หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดชัยภูมิ และ จนท.อบต.ละหาน ได้ลงพื้นที่เข้าเยี่ยมครอบครัว 5 ชีวิตสุดรันทดรายนี้ เพื่อหาแนวทางให้การช่วยเหลือต่อไปแล้ว
โดยเบื้องต้นทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องบ้านพักเด็กและครอบครัวพร้อมจะรับเด็ก พร้อมทั้งครอบครัวไปอยู่ในความดูแล ตั้งช่วงกลางดึกที่ผ่านมา แต่เนื่องด้วยนางนาฏ วัย 58 ปี ที่เป็นผู้นำครอบครัวในขณะนี้หลังสามีตัวเองเสียชีวิต มีความประสงค์ที่จะดูแลหลานและแม่วัย 86 ปีเอง เนื่องจากถ้าเข้าไปในบ้านพักเด็กแล้วก็จะไม่ได้ออกมาทำมาหากินประกอบอาชีพเลี้ยงเป็ดไล่ทุ่งเพื่อนำไข่ไปขายเลี้ยงครอบครัวได้ ซึ่งทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งอำเภอเมืองชัยภูมิ และ ตำรวจ สภ.เมืองชัยภูมิ ได้ติดตามคดีของผู้ก่อเหตุเผาบ้าน ในครั้งนี้เนื่องจากทางครอบครัวยังหวาดกลัวว่าผู้ก่อเหตุหรือลูกชาย จะพ้นโทษและกลับมาทำร้ายขู่ฆ่าคนในครอบครัวทั้งหมดตามที่เคยขู่ไว้ ทำให้เกิดความหวาดกลัวจึงได้อพยพครอบครัวไปอาศัยอยู่ริมทางเขตพื้นที่บ้านโคกแพงพวย ต.ละหาน อ.จัตุรัส. ซึ่งอาจเกิดอันตรายไม่ปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินได้ ในกรณีที่เกิดขึ้นได้ทำความเข้าใจกับครอบครัวรายนี้แล้ว ว่าในขณะนี้ลูกชายคนก่อเหตุติดคุกไปแล้ว และถ้าออกพ้นโทษออกมาทาง จนท.เกี่ยวข้องก็จะเข้ามาช่วยดูแลความปลอดภัยได้ ก่อนที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจประจำ ต.หนองนาแซง อ.เมืองชัยภูมิ จะได้จัด จนท.ไปช่วยรับครอบครัว 5 ชีวิต ครั้งนี้ได้กลับมาพักอาศัยที่บ้านญาติในเขตพื้นที่ ม.7 ต.หนองนาแซง ต่อไป
รวมทั้งเพื่อความมั่นใจส่วนการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ทางหน่วยงาน ทาง รพ. สต หนองนาแซง เองก็ได้จัดชุด จนท.มาตรวจคัดกรองหาเชื้อโควิดให้ครอบครัวนี้ไม่พบติดโควิดทั้งหมดแล้ว หลังจากที่เคยมีปัญหาว่า ทางชาวบ้านได้แจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองชัยภูมิ ว่าครอบครัวนี้และผู้ก่อเหตุติดเชื้อโควิด-19 จึงทำให้นางนาฏ วัย 58 ปี ไม่สามารถดำเนินชีวิตพร้อมครอบครัว 5 ชีวิตอยู่ในชุมชนได้อย่างปกติ โดยเฉพาะการทำมาหากินหรือการค้าขายในหมู่บ้าน ซึ่งทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ก็อยากให้ทุกฝ่ายประชาชนในพื้นที่เข้าใจต่อปัญหาที่เกิดขึ้นด้วย
ส่วนนางนาฏฯ เองก็กล่าวว่า รู้สึกสบายใจขึ้น และไม่ต้องการขอเรียกร้องอะไรเพิ่มเติมนอกจาก ความปลอดภัยจากลูกชายผู้ก่อเหตุและมีการช่วยตรวจหาเชื้อโควิด-19 เพื่อยืนยันให้สยบข่าวลือเรื่องการติดเชื้อโควิด 19 ของครอบครัวทุกคนได้หมดแล้ว และจะได้กลับไปบ้านเพื่อช่วยกันสร้างบ้านพักค้าขาย เลี้ยงเป็ดประกอบอาชีพอย่างสุจริต ใช้ชีวิตในหมู่บ้านตามปกติได้ต่อไป
ขณะที่อีกด้านหลังมีการนำเสนอข่าวนี้ออกไป ยังได้มีกลุ่มผู้ใจบุญ ได้เดินทางอยากมาช่วยเหลือเพื่อให้กำลังใจต่อครอบครัว 5 ชีวิตสุดรันทนรายนี้กันต่อเนื่อง ทั้งจากบริษัทเมรัยชัยภูมิ ซึ่งเป็นภาคเอกชน ได้นำน้ำดื่มขวดขนาด 1.5 ลิตร จำนวน 50 แพ็ค มามอบให้กับครอบนางนาฏฯเพื่อเก็บไว้ใช้ดื่มและประกอบอาหาร ได้สู้ชีวิตต่อไป
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: