ชัยภูมิ – ฮือฮาแชร์ว่อนไปทั่วโลกโซเชียลในขณะนี้เป็นจำนวนมาก หลัง จ.ชัยภูมิ เกิดน้ำป่าหลากเกิดน้ำท่วมหนักซ้ำเป็นรอบที่ 2 หลังเกิดน้ำท่วมครั้งใหญ่หนักสุดในรอบกว่า 50 ปี หลังเกิดน้ำท่วมลดเข้าสู่ภาวะปกติ ผ่านมาได้ยังไม่ถึงสัปดาห์ เกิดอิทธิพลจากพายุคมปาซุฝนถล่มหนักซ้ำอีกต่อเนื่องในหลายพื้นที่ เกิดน้ำท่วมหนักซ้ำอีกเป็นรอบที่ 2 ยังขยายวงกว้างสร้างความเสียหายอีกต่อเนื่องในหลายอำเภอ เร่งประกาศเตรียมรับมือเสี่ยงเกิดน้ำท่วมใหญ่ได้อีกระลอก ล่าสุดพระลูกวัดทั้งหลวงพ่อหลวงพี่ในเขตพื้นที่วัดป่าสุคะโต ในเขต อ.แก้งคร้อ ทนอยู่เฉยไม่ได้แล้ว ได้พากันถลกจีวรออกมาช่วยเหลือนำถุงยังชีพ ไปมอบช่วยชาวบ้านที่ถูกน้ำป่าหลากน้ำท่วม ถูกตัดขาดในพื้นที่กันอย่างต่อเนื่องในครั้งนี้ด้วย จนเป็นที่ฮือฮาถึงน้ำใจพระสงฆ์ที่ยังได้ออกมาร่วมแรงร่วมใจช่วยชาวบ้านถูกน้ำท่วมหนักซ้ำติดต่อกันมาต่อเนื่องถึง 2 ครั้งแล้วในครั้งนี้ด้วย!
( 17 ต.ค.64 ) ขณะที่ จ.ชัยภูมิ ล่าสุดเมื่อช่วงใกล้ค่ำ 19.00 น.วันที่ 17 ต.ค.64 ที่ผ่านมา สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ยังคงขยายวงท่วมสร้างความเสียหายในอีกหลายพื้นที่ต่อเนื่องซ้ำหนักอีกครั้งเป็นรอบที่ 2 หลังเกิดน้ำท่วมใหญ่ในทั่วทั้งจังหวัดสร้างความเสียหายหนักสุดในรอบกว่า 50 ปี ในช่วงวันที่ 24 พ.ย.64 ที่ผ่านมาจากฤทธิ์พายุเตี้ยนหมู่ และสถานการณ์น้ำท่วมหนักเพิ่งลดลงเข้าสู่ภาวะปกติมาได้ยังไม่ถึง 1 สัปดาห์ จนล่าสุดหลังวานนี้ ( 16 ต.ค.64 ) จากอิทธิพลพายุคมปาซุและเกิดร่องมรสุมพาดผ่านทำให้เกิดฝนตกหนักมาต่อในพื้นที่มาติดต่อกันกว่า 4 วันและยังคงมีฝนตกหนักในแทบทุกอำเภอยังต่อเนื่อง
และทำให้เกิดน้ำป่าหลากบนเทือกเขาภูเขียวล้นสันเขื่อนจุฬาภรณ์ ในเขต อ.คอนสาร ทะลักเข้าท่วมพื้นที่อำเภอภูเขียว ได้รับความเสียหายแล้วจำนวนมากมาต่อเนื่องอีกไม่น้อยกว่า 1,000 ครอบครัวและถือว่าเกิดน้ำท่วมซ้ำหนักสุดเป็นรอบที่ 2 ซ้ำอีกในรอบกว่า 10 ปี ของอำเภอภูเขียว และน้ำป่ายังหลากจากเทือกเขาภูเขียวเข้าท่วมในพื้นที่อำเภอใกล้เคียงขยายวงกว้างยังต่อเนื่อง ในพื้นที่ อ.เกษตรสมบูรณ์ ทั้งที่ว่าการอำเภอศูนย์ราชการต่าง ๆ ทั้งโรงพยาบาลประจำอำเภอเกษตรสมบูรณ์ยังถูกน้ำท่วมสูงเกือบ 1 เมตร ซึ่งยังมีแนวโน้มท่วมสูงยังขยายวงเพิ่มขึ้นยังต่อเนื่องไม่หยุดได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมากแล้วนับอีกหลายพันครอบครัว
ซึ่งล่าสุดทางจังหวัดชัยภูมิ ออกมาประกาศแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่ในทุกอำเภอทั้ง 16 อำเภอ ของจังหวัดชัยภูมิ ให้เตรียมความพร้อมรับมือเกิดน้ำท่วมใหญ่ซ้ำในอีกครั้งในทุกพื้นที่ในตลอด 24 ชั่วโมงแล้ว เพราะยังเกิดฝนตกหนักยังต่อเนื่องซึ่งคาดว่าในอีกไม่เกินช่วง 1-2 วันนี้ ทุกพื้นที่เสี่ยงเกิดน้ำป่าหลากดินโคลนถล่มเกิดน้ำท่วมฉับพลันในทุกพื้นที่ตามมาอีกได้
โดยเฉพาะในโซน อ.ภูเขียว ,อ.เกษตรสมบูรณ์,บ้านแท่น,คอนสาร และในเขตโซนเศรษฐกิจย่านกลางใจเมือง เขต อ.เมืองชัยภูมิ ที่ยังเกิดน้ำป่าหลากลงมาเพิ่มเติมอีกในพื้นที่ยังต่อเนื่อง รวมทั้งในโซนเขื่อนลำปะทาว ทั้งตอนบนที่มีความจุกว่า 44 ล้าน ลบ.ม. และเขื่อนลำปะทาวตอนล่างที่มีความจุกว่า 16 ล้าน ลบ.ม.ที่ยังมีน้ำป่าหลากเข้าพื้นที่ตัวเขื่อนล้นความจุเกิน 100 % ทั้ง 2 เขื่อนแล้ว ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่รอยต่อของเขต อ.เมืองชัยภูมิ และรอยต่อ ต.ท่ามะไฟหวาน อ.แก้งคร้อ ซึ่งล่าสุดเกิดน้ำป่าหลากพัดถนนทางเชื่อมต่อเข้าหมู่บ้านหลายแห่ง ถูกตัดขาดเข้าออกหมู่บ้านมาสู่โลกภายนอกไม่ได้หนักมาต่อเนื่องตั้งแต่วันที่ 14 ต.ค.64 ที่ผ่านมาในเขต ต.ท่ามะไฟหวาน จนล่าสุดถึงวันที่ 17 ต.ค.64 นี้ ก็ยังไม่สามารถเข้าออกชุมชนในหมู่บ้านได้
จนล่าสุดเองก็ได้มีกลุ่มพระลูกวัดทั้งหลวงพี่ หลวงพ่อ ภายในวัดป่าสุคะโต ใน ต.ท่ามะไฟหวาน อ.แก้งคร้อ จ.ชัยภูมิ ได้ร่วมใจกันหารถจี๊บเก่าๆ ที่สภาพพอใช้ขับฝ่าน้ำลุยฝนตกหนักขึ้นไปบนป่าเขาพื้นที่ทุรกันดารได้ เพื่อออกไปมอบถุงยังชีพช่วยเหลืออย่างต่อเนื่องในขณะนี้ด้วยเช่นกัน ซึ่งมีการแชร์กันว่อนไปทั่วในโลกโซเชียลในขณะนี้ด้วยถึงความซึ้งน้ำใจพระสงฆ์ในครั้งนี้ตามาอีกเป็นจำนวนมากด้วย ใน”ภารกิจสุดโหด” ข้ามน้ำข้ามห้วย ไปมอบถุงยังชีพ ช่วยเหลือให้ชาวบ้านที่ถูกน้ำป่าหลากจากเทือกเขาภูแลนคาหลากลงมาทำให้เกิดน้ำท่วมบ้าน ถนนเชื่อมทางออกหมู่บ้านหลายแห่งถูกตัดขาดในเขตพื้นที่ตามเส้นทางป่าปรงพันปี ในหมู่บ้านท่าเว่อ ต.ท่ามะไฟหวาน จ.ชัยภูมิ เพื่อช่วยเหลือซับน้ำตาชาวบ้านที่เดือดร้อนจากน้ำท่วมซ้ำหนักเป็นรอบที่ 2 แล้วในครั้งนี้ด้วย
รวมทั้งในส่วนอีกหลายพื้นที่ของ จ.ชัยภูมิ ที่จะต้องเฝ้าระวังยังเสี่ยงเป็นพื้นที่เสี่ยงเกิดน้ำป่าหลากน้ำท่วมฉับพลันในพื้นที่รอยต่ออีกจำนวนมากในหลายอำเภอตามมาในครั้งนี้อีกด้วย ซึ่งยังเกิดน้ำป่าหลากลงมาจากเทือกเขาภูเขียวไหลผ่านมาที่ อ.หนองบัวแดง ซึ่งเป็นจุดต้นกำเนิดแม่น้ำชีขณนี้ยังคงมีน้ำป่าหลากทะลักลงมาอีกไม่ต่อเนื่องและคาดว่าอีกไม่เกินช่วง 1-2 วันจากนี้ไป ทั้งในเขต อ.หนองบัวแดง,หนองบัวระเหว,ซับใหญ่,ภักดีชุมพล,เทพสถิต,บำเหน็จณรงค์,จัตุรัส,บ้านเขว้า,เนินสง่า และในเขต อ.เมืองชัยภูมิ ผ่านเข้ามาที่ ต.บ้านค่าย,ต.ชีลอง,ต.หนองนาแซง,บุ่งคล้า และ ต.หนองไผ่ เชื่อมทางน้ำหลากผ่านลำแม่น้ำชีในจุดนี้เข้ามาอีกด้าน และสมทบน้ำป่าหลากจากเทือกเขาภูแลนคา ผ่านล้นสันเขื่อนลำปะทาว เชื่อมหลากเข้าท่วมเพิ่มมากขึ้นในเขตโซนเศรษฐกิจย่านกลางใจเมือง เขตเทศบาลเมืองชัยภูมิ ยังเสี่ยงเกิดน้ำท่วมใหญ่ตามมาได้อีกในขณะนี้ด้วย
