ชัยภูมิ – หลัง จนท.ช่วยพาตัวพ่อตารายนี้เข้ารักษาอาการติดเชื้อโควิดได้เพียง 8 วัน หลัง จนท.หลายฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ทั้งนักข่าวสื่อมวลชนพยายามเข้าช่วยพูดคุยให้ ร.ต.ท.รายนี้ยอมไปรักษาตัวใน รพ.แล้ว รวมทั้ง สสจ.ชัยภูมิ สั่งแจ้งความเอาผิด ร.ต.ท.ปทุมรายนี้ ที่ฝ่าฝืนคำสั่งป้องกันการแพร่ระบาดเชื้อโควิด-19 ไปก่อนหน้านี้แล้ว ล่าสุดสถานการณ์การระบาดโควิด-19 ในพื้นที่ยังการ์ดตกไม่ได้ เสียชีวิตรายวันเพิ่มอีก 2 ราย ป่วยสะสมแล้วกว่า 8,350 ราย !
( 5 ก.ย.64 ) ความคืบหน้าหลังจากเกิดกรณี ร.ต.ท. สังกัด สภ.เมืองปทุมธานี รู้ว่าตัวเองติดโควิด-19 ซึ่งมีผลตรวจยืนยันจาก รพ.ตำรวจ ออกมาเมื่อวันที่ 25 ส.ค.64 ที่ผ่านมา แต่ ร.ต.ท.รายนี้ไม่เข้ารับการรักษาตัวใน รพ. แต่กลับเดินทางกลับมาที่บ้านพักภรรยา หมู่ที่ 11 บ้านคร้อ ตำบลนาฝาย อ.เมือง จ.ชัยภูมิ และเก็บตัวเงียบอยู่ในบ้านกับภรรยา พร้อมแม่ยาย พ่อตาที่ป่วยติดเตียง โดยไม่ไปเข้ารักษาตัวที่ รพ.ชัยภูมิ จนเมื่อวันที่ 26 ส.ค.64 ที่ผ่านมาทางผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 11 และ รพ.สต.นาฝาย รวมทั้งศูนย์คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดชัยภูมิ ได้รับแจ้งว่า ร.ต.ท.รายนี้ติดโควิด-19 แล้ว
ทางเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องในพื้นที่จึงได้ประสานแจ้งนายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ (ผวจ.ชัยภูมิ) พร้อมนายแพทย์วชิระ บถพิบูลย์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดชัยภูมิ ( สสจ.ชัยภูมิ) และนายอนุชา เจริญรักษ์ นายอำเภอเมืองชัยภูมิ ( นอภ.เมืองชัยภูมิ) เร่งช่วยกันจัดชุดเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบบ้านดังกล่าว ซึ่งทั้งทาง ร.ต.ท.พร้อมภรรยา ยืนยันว่าตัวเองติดเชื้อทั้ง 2 คน และสามารถมารักษาตัวอยู่ในบ้านดังกล่าวได้ และมาตามขั้นตอนถูกต้อง ทำให้ชาวบ้านในพื้นที่ต่างพากันหวาดผวาแตกตื่นไปทั่วว่าจะมีการนำเชื้อมาติดญาติคนในบ้าน ที่มีทั้งผู้สูงอายุกลุ่มเสี่ยงทั้งแม่ยาย พ่อตาที่ป่วยติดเตียง และหวั่นจะแพร่เชื้อไปสู่คนในหมู่บ้านใกล้เคียงตามมาอีกจำนวนมากได้
รวมทั้งทาง ร.ต.ท.รายนี้พร้อมภรรยา ยังมีการโทรศัพท์มาต่อว่านักข่าว สื่อมวลชน ที่นำเสนอข่าวในครั้งนี้ เพื่อขอความเป็นธรรมด้วยว่า ทั้งตัว ร.ต.ท.และภรรยา มารักษาตัวในบ้านที่ชัยภูมิทำถูกต้อง ไม่ได้หนี การรักษามียามากินรักษาตัวเองที่บ้านได้ รวมทั้งส่วนแม่ยาย พ่อตาที่ป่วยติดเตียง ก็มีความจำเป็นต้องมาดูแลได้เพราะไม่มีใครมาดูแล ซึ่งนักข่าวพยายามถามกลับไปว่าแล้วไม่ห่วงสังคม ซึ่งจะเสี่ยงแพร่เชื้อไปติดคนใกล้ชิดและในสังคมคนรอบข้างว่าทำไม่ไปรักษาตัวที่ รพ. หรือ รพ.สนาม ที่จะปลอดภัยดีกว่า ซึ่งทางภรรยา และ ร.ต.ท.ทั้งสองคน ยังยืนยันว่า แล้วคุณเคยมีพ่อแม่ที่ต้องดูแลหรือเปล่า รักพ่อแม่เปล่า ต้องมาดูแล ซึ่งยืนยันว่าอยู่ในบ้านกับแม่ยาย พ่อตาได้ ก่อนที่ทางนักข่าวสื่อมวลชนได้พยายามพูดให้ ร.ต.ท. รายนี้ใจเย็นๆ ลง เพื่อจะประสานพร้อมให้ความเป็นธรรม และจะเร่งประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงมาช่วยเหลือ
และได้มีการจัดชุดเจ้าหน้าที่ ที่เกี่ยวข้องฝ่ายปกครอง ตำรวจ สภ.เมืองชัยภูมิ สสจ.ชัยภูมิ ได้พยายามเข้าไปพูดคุยให้ ร.ต.ท.และภรรยาไปรับการรักษาตัวที่ รพ.ชัยภูมิ มาต่อเนื่องกว่า 2 วันที่บ้านดังกล่าวที่ ร.ต.ท.มาเก็บตัวเงียบอยู่ในบ้าน ก่อนที่จะถึงช่วงค่ำวันที่ 27 ส.ค.64 ก็เป็นที่โล่งอกลงทุกฝ่ายไปทั่วหมู่บ้าน เมื่อทาง ร.ต.ท.รายดังกล่าวพร้อมภรรยา ได้ยอมที่จะเดินทางด้วยการจัดรถตู้ รพ.ชัยภูมิ ไปรับตัวเพื่อเดินทางออกจากบ้านไปเข้าการรักษาตัวที่ รพ.ชัยภูมิ เป็นผลสำเร็จ
พร้อมทั้งต่อมาด้านนายแพทย์วชิระ บถพิบูลย์ นายแพทย์ สสจ.ชัยภูมิ เองได้มีการสั่งดำเนินคดีต่อกรณี ของ ร.ต.ท.รายนี้ด้วย ซึ่งพบว่าถือว่าผู้ป่วยที่รู้ว่าตัวเองป่วยแล้ว ยังเดินทางมาจากต่างจังหวัดเสี่ยงแล้วไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนด ทำให้เกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ซึ่งได้มอบให้ฝ่ายนิติกรประจำสำนักงานร่วมกับสาธารณสุขอำเภอเมืองชัยภูมิ ดำเนินการเข้าแจ้งความเอาความผิดกับ ร.ต.ท.เมืองปทุมธานี รายนี้ตามกฎหมายด้วยแล้ว
ตามฐานความผิด พ.ร.บ.ควบคุมโรคติดต่อ พ.ศ. 2558 ตามมาตรา 34 ที่ไม่ยอมแยกตัวเข้ารับการรักษา หากเป็นข้าราชการที่ควรจะรู้กฎข้อระเบียบดีอยู่แล้ว ยังทำเสียเองก็ต้องถือว่ามีความผิดเป็น 2 เท่าทั้งวินัย และอาญา หนักกว่าคนธรรมดาด้วย ซึ่งอยากให้เป็นกรณีศึกษาเตือนใจไม่อยากให้เป็นเยี่ยงอย่างต่อผู้อื่นได้อีกในครั้งนี้ด้วยก่อนที่รุ่งเช้าวันวันที่ 28 ส.ค.64 วันต่อมาทางเจ้าหน้าที่ จึงได้จัดรถเดินทางมารับตัวผู้เป็นแม่ยาย และพ่อตาที่ป่วยติดเตียง ของ ร.ต.ท.ดังกล่าวเข้ารับการรักษาตัวที่ รพ.ชัยภูมิ และตรวจหาเชื้อโควิด-19 ตามมาสุดท้ายผลยืนยันก็ติดโควิด-19 จากลูกเขย ร.ต.ท.รายนี้ตามมาด้วยแล้ว ก่อนที่จะช่วยรักษาอาการของพ่อตาจากการป่วยโควิดฯ มาได้เพียง 8 วัน คุณตารายนี้ก็ได้เสียชีวิตจากอาการป่วยโควิด-19 ลงแล้วเมื่อช่วงเช้าวันนี้ ( 5 ก.ย.64) ที่ผ่านมา ซึ่งทางเจ้าหน้าที่จะได้เร่งนำศพไปประกอบพิธีทางศาสนาตามมาตรการป้องกันการแพร่เชื้อ (เผาศพ) ผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ที่เข้มงวดสูงสุดและไม่สามารถให้ญาติมาร่วมพิธีเผาศพในครั้งนี้ได้ภายใน 24 ชั่วโมงต่อไป
ขณะที่ด้านสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ในพื้นที่ จ.ชัยภูมิ วันนี้ ( 5 ก.ย.64 ) นายแพทย์วชิระ บถพิบูลย์ นายแพทย์ สสจ.ชัยภูมิ เผยว่าล่าสุดพบผู้ป่วยรายใหม่เพิ่ม 12 ราย แยกเป็นติดเชื้อนอกจังหวัด 7 ราย ติดเชื้อในจังหวัดที่ยังพบเพิ่มต่อเนื่องอีก 5 ราย ใน 4 อำเภอ อยู่ที่ อ.คอนสาร 1 ราย ,อ.เนินสง่า 1 ราย ,อ.บำเหน็จณรงค์ 1 ราย และ อ.เมือง 2 ราย ภูมิ 2 ราย
ซึ่งยังมียอดผู้ป่วยเสียชีวิตรายวันเพิ่มอีก 2 รายวันนี้ ซึ่งก็มีพ่อตากรณีติดโควิด-19 มาจาก ร.ต.ท. รายนี้รวมอยู่ด้วย 1 ราย ซึ่งเป็นผู้ป่วยรับการรักษาหลังตรวจพบป่วยโควิด-19 มาได้ประมาณ 8 วัน มาเสียชีวิตในวันนี้ด้วยอายุ 89 ปี (พ่อตา ร.ต.ท.) ชาวบ้านหมู่ 11ต.นาฝาย อ.เมือง จ.ชัยภูมิ โรคประจำตัวหลอดเลือดสมอง ไม่ได้รับวัคซีน รับไว้ 29 สิงหาคม 2564 on HFNC ถึงแก่กรรมวันที่ 5 กันยายน 2564 เวลา 4.05 น. รวมอยู่ด้วยแล้ว รวมสะสมมีผู้ป่วยเสียชีวิตเพิ่มขึ้น 75 ราย มีผู้ป่วยสะสมแล้ว 8,350 ราย
ซึ่งทาง สสจ.ชัยภูมิ ยังฝากย้ำเตือนว่า ถึงแม้ตัวเลขในจังหวัดขณะนี้จะเริ่มลดลงแต่ก็ยังต้องติดตามกลุ่มเสี่ยงรอผลตรวจในขณะนี้ตามมาอีกจำนวนมาก และขอให้ประชาชนทุกพื้นที่ยังต้องช่วยกันแจ้งเฝ้าระวังพี่น้องที่มาจากต่างจังหวัด ให้มารายงานตัวกับผู้นำ และ อสม. เพื่อขอรับการตรวจ หากพบว่าติดเชื้อจะได้เข้าสู่กระบวนการรักษาและแยกกัก ไม่ไปแพร่กระจายเชื้อให้คนในครอบครัวและชุมชน เหมือนกรณี ร.ต.ท.รายนี้ ควรช่วยกันให้มากขึ้นอย่างเข้มงวดต่อไปด้วย
