ชัยภูมิ – เมืองชัยภูมิ เร่งระดมเข้มสนธิเจ้าหน้าที่ชุด อส. กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง จับตาเข้มทุกพื้นที่ไม่ให้มีการจับกลุ่มมั่วสุมเสพยาเสพติด หวั่นเกิดคลัสเตอร์ใหม่ไร้เงาไทม์ไลน์กลุ่มเสี่ยงโจ๋วัยรุ่นแอบลักลอบรวมกลุ่มมั่วสุมเสพยาบ้าในหลายพื้นที่เพิ่มขึ้นยังไม่แพร่การระบาดโควิดต่อเนื่อง เสี่ยงควบคุมการแพร่ระบาดโควิด-19 จากมุมมืดไร้เงาไทม์ไลน์เกิดปัญหาการต้นเหตุแพร่เชื้อ ตามมายากติดตามในอีกหลายพื้นที่ได้มากขึ้นอีกทางได้!
( 31 ส.ค.64 ) ขณะที่ จ.ชัยภูมิ พบสถานการณ์การแพร่ระบาดของยาเสพติดและโควิด-19 ระบาดในพื้นที่ยังเกิดขึ้นมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมากไม่แพ้กัน ล่าสุด นายอนุชา เจริญรักษ์ นายอำเภอเมืองชัยภูมิ สั่งระดมสนธิกำลังพร้อมด้วยนายณรงค์ ชำนิพงษ์ ปลัดอำเภอเมืองชัยภูมิ ( ฝ่ายความมั่นคง ) เร่งนำกำลังสมาชิก อส. ในสังกัด หลังเริ่มตรวจพบมีกลุ่มโจ๋วัยรุ่นในพื้นที่ มีพฤติกรรมเสี่ยงต่อการเป็นพาหะแพร่ระบาดของโควิด-19 ในพื้นที่และเสี่ยงหวั่นเกิดคลัสเตอร์ใหม่ที่จะตามมา และยากต่อการตรวจสอบไทม์ไลน์กลุ่มเสี่ยงโจ๋วัยรุ่นกลุ่มเสี่ยงในจุดนี้ที่เริ่มมีการรวมกลุ่มแอบมั่วสุมเสพยาบ้าตามมาอีกด้านในพื้นที่ตามมาอีกเป็นจำนวนมากได้
หลังสืบทราบว่าในพื้นที่หลายหมู่บ้าน ซึ่งพบว่ามีพฤติกรรมดังกล่าว และต้องมีมาตรการป้องกันปรามปราบเร่งด่วนและให้ประสานผู้นำทุกพื้นที่ที่เกี่ยวข้อง ล่าสุดในจุดพื้นที่ของ นายเอนก สิมาชัย ผู้ใหญ่บ้าน ม.11 ต.ท่าหินโงม อ.เมืองชัยภูมิ เร่งจัดชุดสนธิกำลังเจ้าหน้าที่ร่วมกัน เข้าจู่โจมจับกุมกลุ่มวัยรุ่นที่ชอบมั่วสุมเสพยาเสพติด ที่บริเวณกระท่อมปลายนาในหมู่บ้านลาดน้อย ม. 2 ต.ลาดใหญ่ อ.เมืองชัยภูมิ
ก่อนที่ชุดเจ้าหน้าที่จะระดมปิดล้อมจุดดังกล่าวไปพบกลุ่มวัยรุ่นจำนวนมากกว่า 3 คน กำลังจับกลุ่มเสพยาบ้าอยู่ เมื่อวัยรุ่นดังกล่าวเห็นเจ้าหน้าที่ ก็ต่างพากันได้วิ่งหลบหนีเจ้าหน้าที่กันแตกกระเจิงเข้าป่าไปคนละทิศละทาง ก่อนที่ทางเจ้าหน้าที่จะสามารถวิ่งไล่ตามรวบตัวไว้ได้เบื้องต้น 1 คน ทราบชื่อภายหลัง ชื่อนายอิทธิพล หรืออาร์ม อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 37/1 บ้านหนองคอนไทย ม.5 ต.กุดตุ้ม อ.เมืองชัยภูมิ ส่วนวัยรุ่นที่เหลือได้วิ่งหนีเข้าป่าหลบหนีไปได้ ซึ่งเจ้าหน้าที่รู้ตัวหมดแล้วและจะได้ขยายผลเร่งติดตามตัวมาดำเนินคดีต่อไป
โดยจากการตรวจค้นเบื้องต้นพบของกลางยาบ้ายึดมาได้รวม 6 ถุง รวม 1,129 เม็ด และยาไอซ์ 3 ถุง น้ำหนัก 30.34 กรัม ซึ่งซุกซ่อนอยู่ในกระเป๋าสะพายของนายอาร์ม ซึ่งยอมรับสารภาพว่ายาบ้า และยาไอซ์เป็นของตนเองจริง เพื่อนำมาเสพ และนำไปจำหน่ายให้กับกลุ่มวัยรุ่นในหมู่บ้านและพื้นที่ใกล้เคียงไปทั่วอีกหลายพื้นที่ ซึ่งยังเสี่ยงต่อการหากมีกลุ่มวัยรุ่นดังกล่าวที่มีการติดเชื้อโควิดและไม่ไปรับการรักษาก็ยิ่งจะเป็นกลุ่มเสี่ยงมีเชื้อโควิด-19 แพร่ระบาดไปยากต่อการควบคุมตามมาอีกหลายพื้นที่ได้ ซึ่งทางชุดเจ้าหน้าที่จะได้เร่งขยายผลต่อไป ก่อนจับกุมผู้ต้องหารายนี้พร้อมของกลางยาบ้าและยาไอซ์ ทั้งหมด ส่งพนักงานสอบสวน สภ.ลาดใหญ่ ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
