ชัยภูมิ – ยิ่งซ้ำเติมปัญหาการแพร่ระบาดของโรคลัมปีสกินใน โค กระบือ ป่วยไม่หายยิ่งลามระบาดล้มตายหนักซ้ำอีก ด้านปศุสัตว์เร่งแจ้งเตือน ปชช.เกษตรกรผู้เลี้ยงโค กระบือ อย่าหลงเชื่อเด็ดขาด! หากพบเห็นบุคคลหมอกระเป๋าเถื่อนรีบแจ้ง จนท.ดำเนินคดีได้ทันที!
( 29 มิ.ย.64 ) ที่ จ.ชัยภูมิ นางศรีสมัย โชติวนิช ปศุสัตว์จังหวัดชัยภูมิ ออกมาแจ้งเตือนด่วนไปถึงประชาชนผู้เลี้ยงโค(วัว) กระบือ(ควาย) ในทุกพื้นที่ของ จ.ชัยภูมิ ในขณะนี้ มีกลุ่มบุคคลมิจฉาชีพออกหากินบนความทุกข์เดือดร้อนของชาวบ้าน อ้างตัวเป็นหมอกระเป๋า เดินทางไปเคาะประตูบ้านประชาชนผู้เลี้ยงโค กระบือ ว่ามีวัคซีนสามารถช่วยนำมาฉีดให้ วัว ควาย ที่ป่วยเป็นโรคลัมปีสกินได้ ในราคาไม่แพงได้ เพียงเข็มละไม่เกิน 300-500 บาท
ซึ่งขอเกษตรกรผู้เลี้ยงโค อย่าหลงเชื่อเด็ดขาด ซึ่งกลุ่มบุคคลดังกล่าว หรือ หมอเถื่อน ที่กำลังออกมากระทำการดังกล่าวอยู่ในขณะนี้ตรวจสอบไม่มีใบประกอบวิชาชีพสัตว์แพทย์หรือปศุสัตว์ได้ ที่เข้าข่ายกระทำผิดกฎหมาย ที่ประชาชนสามารถแจ้งเบาะแสให้ทาง จนท.ปศุสัตว์ ใกล้เคียงทุกพื้นที่ เพื่อที่จะดำเนินการตรวจสอบและดำเนินคดีตามกฎหมายได้ทันทีด้วย
เพราะหากหลงเชื่อแล้ว การฉีดวัคซีนที่ไม่มีคุณภาพ หรือวัคซีนเถื่อน ยิ่งจะทำให้เกิดปัญหาการแพร่ระบาดของโรคลัมปีสกิน ในพื้นที่ จ.ชัยภูมิ ซึ่งเริ่มพบมีการล้มตายจากโรคขณะนี้แล้วรวมกว่า 66 ตัว และยังต้องช่วยกันติดตามสถานการณ์การระบาดเฝ้าระวังเข้มในทุกพื้นที่ต่อเนื่อง ที่ถือว่า จ.ชัยภูมิ เองในปัจจุบันมีเกษตรกรผู้เลี้ยงวัวมากเป็นอันดับ 6 ของภาคอีสาน(ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ) มีฟาร์มเลี้ยงวัวกว่า 1,200 ฟาร์ม จำนวนวัว ควาย ทั้งจังหวัดมากกว่า 1 แสน 2 หมื่นตัว มีการเกษตรกรผู้เลี้ยงวัวตามพื้นที่ต่าง ๆ ทั้ง 16 อำเภอ ใน จ.ชัยภูมิ ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคลัมปี สกิน (Lumpy Skin Disease) อย่างหนัก ที่กำลังมีการแพร่ระบาดในพื้นที่จังหวัดชัยภูมิในวงกว้างและร้ายแรงมาก วัว ควาย ในขณะนี้มีโอกาสป่วยล้มตายสูงต่อเนื่อง
ซึ่งในขณะนี้วัคซีนที่มีคุณภาพที่นำมาฉีดได้มาตรฐานรับรองจากกรมปศุสัตว์ ที่นำเข้ามาได้ขณะนี้ในทั่วประเทศมาได้เพียงกว่า 3.6 แสนโดส เท่านั้น ในส่วน จ.ชัยภูมิ สามารถนำฉีดได้แล้วกว่า 220 โดสเท่านั้น ซึ่งยังต้องรอการจัดสรรวัคซีนป้องกันโรคลัมปีสกิน จากกรมปศุสัตว์ที่มีคุณภาพในขณะนี้เพิ่มเติม ซึ่งขอประชาชนในช่วงนี้อย่าไปหลงเชื่อกลุ่มหมอเถื่อนที่อ้างว่ามีวัคซีนราคาถูกมาช่วยฉีดให้ได้เด็ดขาด
และต้องมาเสียเงินไปเปล่าๆ เพราะในขณะนี้วัคซีนที่มีในประเทศที่ได้รับมาตรฐานยังไม่มีการรับรองที่จะนำมาฉีดช่วยได้ เกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์ก็ควรพากันหันไปใช้แนวทางป้องการด้วยการใช้สมุนไพรตามที่ปศุสัตว์ทุกพื้นที่ รวมทั้งผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ แจ้งไปยัง จนท.ทุกอำเภอช่วยลงไปช่วยเหลือในวิธีการดำเนินการผลิตน้ำยาสมุนไพรป้องกันโรคลัมปีสกิน ในโค กระบือ มาอย่างต่อเนื่องในขณะนี้ ที่ยังเป็นแนวทางที่จะช่วยกันป้องกันการระบาดของโรคลัมปีสกินไปได้อีกทางก่อนในขณะนี้ด้วย ระหว่างที่ทางส่วนกลางอยู่ระหว่างเร่งจัดสรรวัคซีนป้องกันโรคลัมปีสกิน มาให้กับเกษตรกรในทั่วประเทศเป็นการด่วนในเร็วๆนี้อีกต่อไป
ขณะที่นางเจษฏา อาจฤทธ์ เกษตรกรผู้เลี้ยงวัวเนื้อลูกผสม ชาวบ้านเลขที่ 56 ม.5 บ้านโนนทัน ต.บ้านเล่า อ.เมืองชัยภูมิ จ.ชัยภูมิ กล่าวว่า ตนเองเลี้ยงวัวอยู่ 10 ตัว วัวตนเองเป็นโรคลิมปี สกิน เมื่อ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ตายไปแล้ว 2 ตัว นำซากวัวไปฝังทั้งหมดแล้ว สูญเงินรายได้ไปแล้วนับ 100,000 บาท ต้องสูญเสียรายได้ที่ไม่น่าจะเสีย และได้แจ้งให้เจ้าหน้าที่ปศุสัตว์อำเภอ มาช่วยรักษาวัวที่กำลังป่วยติดโรคลัมปี สกิน ที่เหลือในคอกอีก 8 ตัว แล้ว
ขณะนี้ก็สามารถเริ่มรักษาวัวหายจากอาการป่วยได้แล้ว ซึ่งเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ที่มารักษาวัวป่วยให้ ตนเองไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใด ๆ ทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นค่ายารักษาวัว ค่าเดินทาง แถมยังได้รับแจกแร่ธาตุบำรุงวัวด้วย พร้อมแนะนำให้มีการกางมุ้ง และก่อไฟผิง และฉีดสารเคมี หรือสมุนไพรไล่แมลง และโดยเฉพาะในขณะนี้มีกลุ่มหมอเถื่อนมาอ้างว่ามีวัคซีนมาฉีดให้ป้องกันโรคให้กับวัว ได้ในราคาไม่เพียงเพียงเข็มละไม่เกิน 300-500 บาท นั้น ขออย่าไปหลงเชื่อเด็ดขาด ซึ่งมีชาวบ้านหลายรายหลงเชื่อฉีดไปแล้วทำวัวป่วยล้มตายอย่างรวดเร็วซ้ำหนักไปอีกได้ในขณะนี้ด้วย
