ชัยภูมิ –หลังมีลูกหลานอาจไปพื้นที่คลัสเตอร์เสี่ยงแพร่เชื้อโควิด-19 มาจากชุมชนแออัดกุดแคน และพื้นที่ใกล้เคียงชุมชน หลังมาดูแลตา ก่อนผู้เป็นตารายนี้เริ่มบ่นว่าเริ่มมีอาการเหนื่อยและเบื่ออาการกินไม่ได้มาเพียงช่วง 2 วันที่ผ่านมากับยายวัย 74 ปี ซึ่งเป็นภรรยาคู่ใจ ก่อนมานอนเสียชีวิตปริศนาคาบ้าน ด้านทางทีมแพทย์เพื่อความปลอดภัยขอตรวจหาเชื้อจากศพผู้เสียชีวิตครั้งนี้ไว้ก่อน เพื่อรอผลยืนยันให้แน่ชัดว่ามีเชื้อโควิดหรือไม่ ก่อนที่จะส่งมอบญาติได้นำไปทำพิธีตามศาสนาได้ต่อไป!
เมื่อเวลา 10.45 น.วันที่ 14 พฤษภาคม 2564 ร.ต.อ.ขันติ เพียรสูงเนิน รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองชัยภูมิ รับแจ้งจาก 191 ตำรวจภูธรจังหวัดชัยภูมิ ว่ามีคนนอนเสียชีวิตในบ้านพักหลังหนึ่ง อยู่ในชุมชนบ้านขี้เหล็กน้อย-ปรางค์กู่ ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดชัยภูมิ จึงรุดไปตรวจที่เกิดเหตุพร้อมแพทย์โรงพยาบาลชัยภูมิ และ หน่วยกู้ภัยสว่างคุณธรรมชัยภูมิ
ในที่เกิดเหตุพบร่างผู้เสียชีวิตเป็นชายสูงอายุ 1 ราย อายุประมาณ 91 ปี นอนเสียชีวิตบริเวณหน้าจอทีวีนอนอยู่กลางบ้าน เกิดเหตุ จาการสอบถามไปยัง ภรรยาผู้เสียชีวิต อายุ 74 ปี เล่าว่า สามีของตนมีสุขภาพแข็งแรงดี ไม่มีโรคประจำตัว มีเพียงชอบปวดหลัง เนื่องจากสามีผู้เสียชีวิตเป็นคนหลังค่อมมานานหลายปีแล้ว ส่วนประวัติไม่มีโรคประจำตัวแต่อย่างใด เดินไปไหนเดินมาไหนได้ตามปกติ และก็มีแต่ช่วงเมื่อ 2 วัน ก่อนมานอนเสียชีวิตได้บ่นกับภรรยาคู่ใจรายนี้ว่าตัวเองมีอาการเหนื่อย และ กินข้าวไม่ได้มาแล้ว 2 วัน ก่อนที่จะมานอนดูทีวีเสียชีวิตคาที่นอกลางบ้านดังกล่าวอย่างไม่มีสาเหตุครั้งนี้ขึ้น
ด้าน ร.ต.อ.ขันติ เพียรสูงเนิน รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองชัยภูมิ หลังได้เข้าตรวจสอบร่างผู้เสียชีวิตพร้อมกับแพทย์โรงพยาบาล เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ต้องได้มีการสวมชุดพีพีอีป้องกันเชื้อโควิด-19 อย่างแน่นหนา ก่อนเข้าตรวจสอบในที่เกิดเหตุ พร้อมทั้งได้จะนำเชื้อในร่างกายผู้เสียชีวิตครั้งนี้ไปส่งตรวจหาโรคโควิด-19 ต่อไปเนื่องจากอาจจะมีทางญาติหรือบุตรหลานของตาวัย 91 ปี ผู้เสียชีวิตที่มาดูแลตาก่อนเสียชีวิตรายนี้ อาจจะเดินทางไปพื้นที่เสี่ยงในพื้นที่ชุมชนที่อยู่ไม่ไกลกันมาจากคลัสเตอร์ชุมชนแออัดที่ชุมชนกุดแคน ที่เป็นแหล่งแพร่เชื้อโควิด-19 กระจายมีผู้ติดเชื้อโควิดไปยังชุมชนอื่นๆในเขตเทศบาลเมืองชัยภูมิ อีกเป็นจำนวนมากในขณะนี้ได้
เพื่อหาสาเหตุการนอนเสียชีวิตไม่ทราบสาเหตุครั้งนี้ที่ยืนยันให้แน่ชัดอีกครั้งต่อไป หากไม่มีเชื้อโควิด-19 ก็จะได้มอบร่างให้ทางญาตินำไปทำพิธีตามศาสนาได้ต่อไป เพื่อความปลอดภัยทุกฝ่ายป้องกันไว้ก่อนในครั้งนี้ด้วย
