ชัยภูมิ – หลังโนอึลยังไม่หมดฤทธิ์ ยังส่งผลทำให้เกิดฝนตกหนักนานติดต่อกันนานนับ 2 ชม. จนเกิดน้ำป่าหลากจากเทือกเขาภูแลนคา หลากเข้าท่วมรอยต่อ 4 หมู่บ้าน ชาวชีลองใต้ ตำบลห้วยต้อน ท่วมซ้ำซากติดต่อกันซ้ำอีกรอบที่ 2 ห่างกันไม่ถึง 4 วัน วอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยตรงที่มีการก่อสร้างถนนผ่านหมู่บ้านดังกล่าว ที่อยู่ในความรับผิดชอบของทางหลวงชนบท ที่เข้ามาสร้างถนนขวางทางน้ำไหลผ่าน ซึ่งมีการวางท่อลอดใต้ถนน เพื่อระบายน้ำมีขนาดเล็กมากกว้างแค่ 40 ซม.ให้มานานนับสิบปี เวลาเกิดฝนตกหนักน้ำระบายผ่านหมู่บ้านลงลำห้วยชีลองไม่ทัน จึงทำให้ชาวบ้านในจุดนี้เกิดปัญหาได้รับความเดือดร้อน ถูกน้ำท่วมซ้ำซากเวลาฝนตกหนักลงมารายวันเป็นประจำทุกปี!
เมื่อตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมาวันที่ 23ก.ย.63 ที่ จ.ชัยภูมิ แม้พายุโนอึดจะสลายตัวกลายเป็นดีเปรสชั่นแล้วก็ตาม แต่ยังส่งผลทำให้เกิดฝนตกหนักบนเทือกเขาภูแลนคา เขต อ.เมืองชัยภูมิ ต่อเนื่องติดต่อกันนานเกือบ 2 ชั่วโมงวันนี้ จนล่าสุดทำให้เมื่อเวลาประมาณ 14.30 น.วันเดียวกัน เกิดมีน้ำป่าหลากลงมาจากเทือกเขาภูแลนคาจำนวนมาก ได้ไหลเข้าท่วมปิดเส้นเข้าออกหมู่บ้านบ้านชีลองใต้ ต.ห้วยต้อน อ.เมืองชัยภูมิ และยาวไปตามถนนรอยต่ออีก 3 หมู่บ้าน
ซึ่งกระแสน้ำป่าไหลเข้าท่วมถนนในรอยต่อ หมู่บ้านดังกล่าวสูงเฉลี่ยกว่า 50 ซม.- 1 เมตร ชาวบ้านในพื้นที่ ต่างพากันเร่งขนของทรัพย์สินมีค่าเก็บไว้ในที่สูง สร้างความเดือดร้อนให้กับชาวบ้านในหมู่บ้านชีลองใต้กว่า 300 หลังคาเรือน ทางหน่วยงาน ปภ. พร้อมด้วยอำเภอ ผู้นำชุมชน อบต.และ หน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างคุณธรรม จ.ชัยภูมิ ได้เร่งช่วยกันจัดชุดเจ้าหน้าที่ลงไปช่วยเหลือประชาชนในการเคลื่อนขนย้ายสิ่งของทรัพย์สินมีค่าขึ้นสู่ที่สูงเป็นการด่วน ซึ่งระดับน้ำที่หลากลงมายังคงมีระดับสูงต่อเนื่อง รวมทั้งศูนย์พัฒนาเด็กเล็กประจำหมู่บ้านชีลองใต้ ต้องจมอยู่ใต้น้ำอีกครั้งนี้ด้วย ครูและเด็กๆ ต้องรีบแจ้งผู้ปกครองชาวบ้านให้หยุดเรียนกลางคันในครั้งนี้ด้วย
เพื่อให้ผู้ปกครองรีบเดินทางมารับเด็กกลับบ้าน และคาดว่าจะต้องหยุดเรียนไม่มีกำหนดจนกว่าน้ำจนลดไปอีกอย่างน้อย 2-3 วัน ซึ่งเหตุการณ์เกิดน้ำป่าหลากเข้ามาท่วมในลักษณะนี้เกิดขึ้นในพื้นที่ดังกล่าวเป็นครั้งที่ 2 ติดต่อกันแล้ว หลังจากเกิดน้ำท่วมขึ้นไปเมื่อช่วงวันที่ 19 กันยายน และระดับน้ำเพิ่งยุบตัวแห้งไปผ่านมาได้ไม่กี่วัน ก็มาเกิดฝนตกหนักและเกิดน้ำท่วมซ้ำซากขึ้นมาอีกในครั้งนี้เป็นครั้งที่สองติดต่อกัน ห่างกันเพียง 4 วัน
ซึ่งชาวบ้านผู้นำชุมชนในพื้นที่ส่วนใหญ่อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยตรงคือ ทางหลวงชนบท ที่ตลอดช่วงนับหลายสิบปีที่ผ่านมา ปัญหาน้ำหลากท่วมในจุดพื้นที่หมู่บ้านดังกล่าว เมื่อเกิดหน้าฝน หรือมีฝนตกหนัก โดยเฉพาะที่ช่วงมีพายุฝนตกหนัก ก็จะเกิดน้ำท่วมหนักซ้ำซากในจุดหมู่บ้านรอยต่อกว่า 4 หมู่บ้านจุดนี้เป็นประจำทุกปี
เพราะถนนของความรับผิดชอบของทางหลวงชนบท มีการก่อสร้างผ่านพื้นที่ ที่ขวางทางน้ำลำห้วยชีลอง ไหลผ่านหมู่บ้านที่มีการวางท่อลอดใต้ถนนมีขนาดเล็กมากกว้างแค่ 40 ซม. และเวลาเกิดฝนตกหนักมีน้ำหลากผ่านหมู่บ้านในจุดนี้ลงมา ก็จะเกิดปัญหาการระบายลงลำห้วยชีลองไม่ทัน ซึ่งแนวทางน่าจะต้องมีทำบล็อกกั้น หรือมีการมามาช่วยขยายท่อระบายน้ำใต้ท้องถนนดังกล่าว ให้มีขนาดใหญ่มากกว่าปัจจุบันนี้ ถึงจะเป็นการช่วยแก้ปัญหาน้ำท่วมซ้ำซากในจุดนี้อย่างยั่งยืนตามมาได้ เพราะแต่ละครั้งกว่าจะมีการระบายน้ำผ่านท่อขนาดเล็กลอดใต้ถนนก็ต้องใช้เวลานานกว่าจะไหลลงลำห้วยชีลองได้หมด อย่างน้อยในแต่ละครั้งน้ำก็จะท่วมขังบ้านเรือนประชาชนในจุดนี้นานกว่า 2-3 วันในแต่ละครั้งซ้ำซากทุกปีด้วย
