มาแล้วพาไปดูข่าวรอบรั้วเมืองชัยภูมิสุดสัปดาห์นี้ใครเป็นใครบ้างสานพลังชุมชนชาวชัยภูมิ(คลิป)

ชัยภูมิ – สร้างสุขรองรับยุคผู้สูงวัยพุ่งนั่งสบายคลายทุกข์ พร้อมเชิญชวนนักท่องเที่ยวเตรียมเก็บกระเป๋าเดินทาง มาชมสุดยอดเมืองแห่งการท่องเที่ยวอีกแห่งต้องห้ามพลาด ดีเดย์ 28ก.ย.-1ต.ค.63 นี้ ในงานบุญกระธูปอีกหนึ่งสุดยอดมีให้ชมแห่งเดียวในโลกที่ชัยภูมิ เท่านั้น  เมืองต้องห้ามพลาด ! รวมข่าวดีๆเก็บตกรอบสัปดาห์ศุกร์ 11 ก.ย.63 นี้ ศูนย์ข่าวเยาวชน 77 ข่าวเด็ด รอบรั้วเมืองชัยภูมิ น้องเพชร มีรายงานพาไปดูกันครับ …

มาเริ่มกันด้วย เรื่องดีๆ จังหวัดชัยภูมิ ขอเชิญเสนอชื่อครูผู้สมควรได้รับพระราชทานรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี ครั้งที่ 4 ปี พ.ศ.2564 โดย นายกอบชัย  บุญอรณะ  ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ แจ้งว่า มูลนิธิรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี กำลังดำเนินการคัดเลือกครูผู้สมควรได้รับพระราชทานรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี ครั้งที่ 4 ปี พ.ศ.2564 รางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี (Princess Maha Chakri Award) เป็นรางวัลที่ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พระราชทานให้แก่ครูผู้มีความทุ่มเทเสียสละตนจนสร้างการเปลี่ยนแปลงให้เกิดขึ้นกับลูกศิษย์ และมีคุณูปการอย่างยิ่งต่อการศึกษา จาก 11 ประเทศในอาเซียนและ    ประเทศติมอร์เลสเต โดยมีพิธีพระราชทานรางวัลแล้ว 3 ครั้ง คือ เมื่อวันที่ 2 ตุลาคม 2558 วันที่ 11 ตุลาคม 2560 และวันที่ 14 ตุลาคม 2562 ในการคัดเลือกครูรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี ครั้งที่ 4 ปี พ.ศ.2564 สำหรับประเทศไทย ได้สร้างการมีส่วนร่วมในการคัดเลือกครูโดยผ่านกลไกระดับจังหวัด  จึงได้มีการตั้งคณะกรรมการระดับจังหวัด   โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธาน  โดยองค์กรทั้งภาครัฐและเอกชน สมาคม มูลนิธิ ลูกศิษย์ที่เป็นศิษย์เก่า หรือคณาจารย์ในระดับอุดมศึกษาซึ่งเคยเป็นผู้สอน เป็นผู้สรรหาและเสนอชื่อครูที่มีคุณสมบัติสมควรได้รับการเสนอชื่อเข้ารับการคัดเลือก ให้คณะกรรมการระดับจังหวัดได้คัดเลือก

ทั้งนี้ ผู้ที่ประสงค์เสนอรายชื่อครูผู้สมควรได้รับพระราชทานรางวัล ฯ ให้ส่งแบบเสนอรายชื่อตามที่กำหนดในประกาศ ฯ ไปยังสำนักงานศึกษาธิการจังหวัดชัยภูมิ ภายในวันที่ 25 กันยายน 2563 เพื่อดำเนินการพิจารณาคัดเลือกครูผู้สมควรได้รับพระราชทานรางวัลเจ้าฟ้ามหาจักรี จังหวัดชัยภูมิ จำนวน 3 คน เสนอไปยัง มูลนิธิรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี ดำเนินการพิจารณาคัดเลือกในขั้นตอนต่อไป สำหรับคุณสมบัติครูที่สมควรได้รับการเสนอชื่อได้รับพระราชทานรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี จะต้องเป็นผู้สร้างการเปลี่ยนแปลงในชีวิตลูกศิษย์ สร้างแรงบันดาลใจและจัดการเรียนรู้ให้ลูกศิษย์มีความเจริญก้าวหน้าและความสำเร็จในชีวิต มีความอุตสาหะในการทำภารกิจความเป็นครูมาโดยตลอดด้วยจิตวิญญาณความเป็นครู และเป็นแบบอย่างทางคุณธรรมจริยธรรม มีลูกศิษย์ที่ประสบความสำเร็จในหลากหลายแวดวงอาชีพกล่าวยกย่องถึงคุณงามความดี   เป็นผู้มีคุณูปการต่อการศึกษา ปฏิบัติงานสอนหรือการจัดการเรียนรู้ ค้นคว้า พัฒนาการสอนหรือการเรียนรู้ด้วยความทุ่มเทเสียสละ มีความแตกฉานทั้งในเนื้อหาและวิธีการจัดการเรียนรู้ในส่วนที่รับผิดชอบเป็นแบบอย่างของความสำเร็จได้อย่างกว้างขวาง ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ คุรุสภาจังหวัดชัยภูมิ  สำนักงานศึกษาธิการจังหวัดชัยภูมิ  275/13 หมู่ที่ 7 ถนนองค์การบริหารส่วนจังหวัด สาย 1 ตำบลในเมือง อำเภอเมืองชัยภูมิ จังหวัดชัยภูมิ  โทร.044-056284  หรือที่ www.pmca.or.th และ Facebook : รางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี…

ต่อมาด้วยเรื่องราวดีๆของเด็กๆชัยภูมิที่สร้างชื่อเสียงเรื่องการทอผ้าไหมไทยชัยภูมิโด่งดังไปทั่ว รวมทั้งหลายรายการทีวีดังเริ่มมีการติดต่อให้น้องเด็กชัยภูมิ วัย 17 ปี รายนี้ไปโชว์ตัวเองรายการกันต่อเนื่องอยู่ในขณะนี้ตามมาอีกจำนวนมาก  ฮือฮาเด็กหนุ่ม 17 ปี ที่ชื่นชอบการทอผ้าไทยขายหารายได้เลี้ยงน้อง ตา ยาย ส่งตัวเองเรียนแต่ ป.5 หลังสามารถสร้างรายได้เสริมมาช่วยเลี้ยงครอบครัว  ทั้งน้อง ตาและยาย สูงเดือนนับหมื่นบาท หลังมีความชื่นชอบการทอผ้าไทย มาตั้งแต่ชั้น ป.2 จนพยายามฝึกทอผ้าด้วยตนเองมาได้ตั้งแต่ ป.5 ทอโสร่งใส่เองมาตลอดจนปัจจุบันอายุ 17 ปี เรียนอยู่ชั้น ม.6 !

ซึ่งเด็กหนุ่มน้อยวัย 17 ปี รายนี้ หรือ นายกิตติพศ  อนันต์เต่า หรือน้อง”บอส” อายุ 17 ปี ซึ่งกำลังเรียนอยู่ชั้น ม.6/2 โรงเรียนบ้านแท่นวิทยา อ.บ้านแท่น จ.ชัยภูมิ  เป็นชาวบ้านดอนมะเกลือ บ้านเลขที่ 93 หมู่ 3 ต.หนองคู อ.บ้านแท่น จ.ชัยภูมิ  ที่มีความชื่นชอบการทอผ้าไทยโบราณมาก จนมีความพยายามฝึกทอผ้ามาใช้และสวมใส่เอง รวมทั้งยังสามารถทอขายสร้างรายได้ให้กับตนเอง ทอผ้าขายมาได้ตั้งแต่ชั้น ป.5 และมาช่วยเลี้ยงครอบครัวคนในบ้านที่อยู่กับน้อง ตาและยาย พ่อแม่ไปทำงานต่างถิ่นมาได้จนปัจจุบันนี้

ด้วยการใช้เวลาว่างหลังเลิกเรียนและช่วงวันหยุด เด็กหนุ่มน้อยวัย 17 ปี รายนี้ จะรีบกลับบ้านมาฝึกทอผ้าขายหารายได้พิเศษช่วยเหลือครอบครัว ที่น้องมุ่งมั่นฝึกมาตั้งแต่ชั้น ป.2 และถึงช่วงชั้น ป.5 เขาก็สามารถทำได้จนสำเร็จทอผ้าไทยแบบยากๆ และทอโสร่งสวมใส่เองมาจนปัจจุบัน

ซึ่งปัจจุบันน้องนำไปขายสร้างรายได้เสริม ที่จะประกาศขายผ่าน FB ในนามชื่อของตนเอง หรือผู้ที่สนใจผ้าไหมทอมือของน้องก็สามารถโทรติดต่อได้นะครับที่ เบอร์น้องบอสเด็ก17ปี ชัยภูมิชื่นชอบการทอผ้าไทย0625278012 เพื่อช่วยผู้ปกครอง ตาและยาย แบ่งเบาภาระ พร้อมยังมีรายได้มาช่วยส่งตัวเองและน้องเรียนได้มาจนปัจจุบัน  สู้ๆช่วยกันส่งเสริมเด็กที่ทำดีด้วยนะครับ..

มาต่อกันด้วยตลอดช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ต้องขอบคุณท่าน ผอ.แขวงทางหลวงชนบทชัยภูมิ ที่ช่วยขนย้ายเครื่องสูบน้ำ พร้อมทั้งต้องขอบคุณท่าน ผอ.ชลประทานชัยภูมิ ที่อนุเคราะห์เครื่องสูบน้ำและช่างติดตั้ง ดูแลเครื่องสูบน้ำ ที่นำโดยนายกฯสมทรง  สวัสดิ์สลุง ทีมงานองค์การบริหารส่วนตำบลหนองไผ่ ที่อนุเคราะห์น้ำมันเชื้อเพลิง และที่สำคัญที่สุดขอบคุณชาวบ้านดอนกู่ ทุกๆๆท่านที่ช่วยในการ ขนย้าย ติดตั้งเครื่องสูบน้ำเข้าหนองบัว เพื่อผลิตน้ำประปาอุปโภค บริโภค และวันนี้ได้เห็นผลเกิดประโยชน์ด้านต่างๆต่อชุมชนในพื้นที่ได้ยิ้มออกันในช่วงหน้าแล้งปีนี้ และทั้งการเร่งสูบระบายน้ำไปช่วยพื้นที่ต.ลาดใหญ่ อ.เมือง จ.ชัยภูมิ ในครั้งนี้ ที่มีหัวเรือใหญ่ทั้งคนอุปกรณ์เครื่องจักเข้ามาช่วยเสริมเปิดทางน้ำจากนายบรรยงค์   เกียรติก้องชูชัย นายกเทศมนตรีเมืองชัยภูมิ โดยพี่เล็กนำทีม ในครั้งนี้ด้วยครับผม..

ต่อมาด้วย ช่วง 10 ก.ย. 63 (13.00 น.) ที่ผ่านมา ด้านนายอนุชา  เจริญรักษ์ นายอำเภอเมืองชัยภูมิ ก็เร่งจัดการประชุมการดำเนินงานภายใต้โครงการพัฒนาระบบสุขภาพอำเภอ (DHB : District Health Broad) อำเภอเมืองชัยภูมิ เพื่อหารือ แนวทางการแก้ไขปัญหาไข้เลือดออกในพื้นที่ โดยมีสาธารณสุขอำเภอเมืองชัยภูมิ ผอ.รพ.สต. ทุกแห่ง ผู้แทนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนัน และผู้ใหญ่บ้าน ร่วมประชุมในครั้งนี้ ณ ห้องประชุมสำนักงานสาธารณสุขอำเภอเมืองชัยภูมิ

ตามมาด้วยกิจกรรมโครงการดีๆเพื่อสานพลังชุมชนชาวชัยภูมิ เมืองแห่งความสุขในทุกด้าน กับโครงการ”นั่งสบาย คลายทุกข์” เปลี่ยนส้วมนั่งยอง เป็นส้วมนั่งราบ  ที่เริ่มมีผู้สนใจสามารถร่วมโครงการได้ที่ ธนาคารกรุงไทย ชื่อบัญชี ” โครงการนั่งสบาย คลายทุกข์” เลขที่ 307-3-14433-1 และประเดิมด้วยหลากหลายหน่วยงาน องค์เข้ามาช่วยกันเดินหน้าแล้ว ต้องขอบคุณผู้ใจบุญทุกท่านไว้ในที่นี้ด้วยนะครับ..ประกอบด้วย 1. ทีมผู้นำอาสาพัฒนาบ้านเกิดจังหวัดชัยภูมิ 10,000 บาท 2. เจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดชัยภูมิ 5,000 บาท 3. ที่ทำการปกครองจังหวัดชัยภูมิ 5,000 บาท 4. ผอ.กลุ่มยุทธศาสตร์ฯ สนจ.ชย. 5,000+13,000+4,500 = 22,500 บาท 5. ผวจ.ชย. 5,000 บาท 6. มูลนิธิธรรมดี ได้ดี 5,000 บาท 7. สรรพากรพื้นที่ชัยภูมิ 5,000 บาท 8. หน.สนจ.ชย. 5,000 บาท 9. รอง ผวจ.ชย.(ราชันย์) 5,000 บาท 10. ปศุสัตว์จังหวัดชัยภูมิ 5,000 บาท 11. ดร.อรอุมา ไชยเศรษฐ 5,000 บาท 12. นายพงศ์ศักดิ์ ณ ศร โครงการชลประทานชัยภูมิ 10,000 บาท 13. นายเรืองโชค ชัยคำรงค์กุล โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาพรม-เชิญ 5,000 บาท 14. นางสาวบุศรา ทองโผ สรรพสามิตพื้นที่ชัยภูมิ 5,000 บาท 15. ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชัยภูมิ  10,000 บาท 16. หน.ปภ.จังหวัดชัยภูมิ 5,000 บาท 17. ผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดชัยภูมิ 5,000 บาท 18.โยธาธิการและผังเมืองจังหวัดชัยภูมิ 5,000 บาท 19. อุตสาหกรรมจังหวัดชัยภูมิ 5,000 บาท 20. สนง.วัฒนธรรม จ.ชย. 5,000 บาท 21. ผบ.นพค.55 จำนวน 5,000 บาท 22. สนง.คุมประพฤติ จ.ชย. และ สนง.ยุติธรรม จ.ชย. 2,000 บาท 23. สนง.ขนส่งจังหวัดชัยภูมิ 5,000 บาท 24. แขวงทางหลวงชัยภูมิ 5,000 บาท 25. แขวงทางหลวงชนบทชัยภูมิ 5,000 บาท 26. สนง.ท้องถิ่น จ.ชย. 9,200 บาท และ27. หอการค้าจังหวัดชัยภูมิ 12,000 บาท..เข้าประเดิมตั้งแต่เมื่อช่วง 9 ก.ย.63 ที่ผ่านมา ขอบคุณมากครับผม

โดยในวันพุธที่ 9 ก.ย.63 เวลา 10.30 น. นายกอบชัย  บุญอรณะ ผวจ.ชัยภูมิ พร้อมด้วยนายอำเภอภูเขียว ตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจประชาชนจิตอาสา เปลี่ยนสุขภัณฑ์โถส้วมแบบนั่งยองเป็นแบบนั่งราบ ตามโครงการ “นั่งสบาย คลายทุกข์” มอบความสุขแก่ผู้ยากไร้ (ผู้สูงอายุ หรือพิการ) เพื่อป้องกันและลดการเป็นโรคข้อเข่าเสื่อมของผู้สูงอายุ ณ บ้านหนองปลา ต.โคกสะอาด อ.ภูเขียว จ.ชัยภูมิ และยังขยายผลต่อไปอีกหลายพื้นที่ทั้งที่อ.หนองบัวแดง ด้วยแล้วครับผม..

ต่อมาด้วยนายกอบชัย  บุญอรณะ ผวจ.ชัยภูมิ แจ้งฝากมาแจ้งข่าวกับนักท่องเที่ยวเตรียมเก็บกระเป๋าเดินทางมาได้เลยที่จังหวัดชัยภูมิ ซึ่งทางชาวบ้านทุกพื้นที่ทุกหลังคาเรือน ในอ.หนองบัวแดง ต่างพากันเริ่มออกมาการเตรียมงจัดงานบุญกระธูปปีนี้ ประเพณี”บุญกระธูป ประจำปี 2563 “ ที่ต้องบอกว่าเป็นประเพณีที่สวยงามหาชมที่ไหนไม่มีอีกแล้ว ที่เป็นอีกหนึ่งสุดยอดเมืองท่องเที่ยวต้องห้ามพลาดของโลกมีที่จ.ชัยภูมิ ที่เดียวเท่านั้น ซึ่งปีนี้จะเริ่มมีให้ชมตั้งแต่วันที่ 28 กันยายน ไปจนถึง 1 ตุลาคม 2563 นี้เท่านั้น ที่บริเวณรอบทั่วตัวอำเภอหนองบัวแดง จังหวัดชัยภูมิ ชวนท่องเที่ยววิถีใหม่แบบ” New normal”

ที่บรรยากาศวันนี้ #ชาวบ้านแต่ละหมู่บ้านในอำเภอหนองบัวแดง ได้ร่วมมือร่วมใจทำ”กระธูป” ไว้รอให้นั่งท่องเที่ยวมาชม นับว่าเป็น #จุดเริ่มต้นในการสร้างความสามัคคี เชื่อมั่นอยู่ร่วมกัน ในสังคมกันด้วยดี สอดคล้องกับชีวิต และจารีตประเพณีอันงดงาม ที่สั่งสมมาอย่างยาวนานแต่โบราณหาชมได้ยากยิ่งในปัจจุบัน ได้เป็นรากฐานสำคัญ สร้างสรรค์ สามัคคี พัฒนาที่ยั่งยืน ของชาวอำเภอหนองบัวแดง เมื่อทุกคนร่วมมือร่วมใจในการขับเคลื่อนงาน ประเพณีบุญกระธูป เพื่อรักษาแก่น..แกนกระธูป วัฒนธรรมอันดีงามของชาวพุทธ ผู้ว่าฯชัยภูมิ นายกอบชัย ฯ ฝากบอกมาว่าอย่าลืมมาเที่ยวกันนะครับ..

ต่อกันด้วยในตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา ด้านการแก้ปัญหาภัยแล้ง นายกอบชัย  บุญอรณะ ผวจ.ชัยภูมิ ก็เร่งลงพื้นที่ตรวจสระน้ำชาวบ้านพร้อมกับ ปภ.จังหวัด ลงพื้นที่ตำบลบ้านเล่า อำเภอเมืองชัยภูมิ ติดตามผลการขุดสระน้ำตามไร่นาชาวบ้านที่ขอรับการสนับสนุนรถแบคโฮและน้ำมันเชื้อเพลิงจากกรมปัองกันและบรรเทาสาธารณภัย โดยยอมใช้ที่ดินของตนส่วนหนึ่ง ขุดเป็นสระน้ำ เพื่อจะเก็บกักน้ำไว้ใช้ตามแนวทางเกษตรทฤษฎีใหม่หรือไร่นาสวนผสม ซึ่งหลายแห่งเริ่มผลิดอกออกผล ได้เก็บพืชผักริมสระน้ำออกขายแทบไม่ทัน บางรายก็เฝ้าดูการขุดสระของตน พร้อมสูบน้ำบาดาลเก็บไว้ใช้ ชาวบ้านที่ได้สระน้ำ ต่างยิ้มกันถ้วนหน้าเลยนะครับท่านผู้ว่าฯ

ก่อนที่จะทิ้งท้ายด้วย ต้องขอให้ชาวชัยภูมิ มีสำนึกช่วยกันนะครับ ที่จุดบริเวณสี่แยกชุมชนขี้เหล็กใหญ่ ไปทางบ้านคลองลี่  ศาลเจ้าพ่อพญาแล เขตเทศบาลเมืองชัยภูมิ ที่มีชาวบ้านเดือดร้อนในพื้นที่ เพราะมีฝีมือคนที่เห็นแก่ตัวแอบนำขยะมาทิ้งในที่ดังกล่าว ที่อยู่ใกล้บ้านเรือนคนในชุมชนได้รับผลกระทบขยะส่งกลิ่นกระจายไปทั่ว ทางหน่วยงานเทศบาลเมืองชัยภูมิ ต้องไปช่วยเก็บไปไปทิ้งในที่เหมาะสมมาแล้วบ่อยครั้ง ยังไม่วายก็ยังแอบนำมาทิ้งอีก ขอเถอะครับควรจะมีสำนึกมีขยะแล้วควรนำไปทิ้งในที่ที่ควรทิ้งไม่ไปสร้างความเดือดร้อนให้ผู้อื่นจะดีกว่าครับ เรื่องนี้ชาวชัยภูมิ ที่ทราบเรื่องและขอฝากประณาม คนที่ทำให้หยุดพฤติกรรมเช่นนี้เสียทีเถอะครับ และมีการเข้าไปติดกล้องวงจรปิดแล้วนะครับหากพบเห็นมีคนนำไปทิ้งอีกต้องมีการถูกดำเนินคดีด้วยนะครับ..

ก่อนที่จะปิดท้ายด้วย นายกอบชัย  บุญอรณะ ผู้ว่าราชการจ.ชัยภูมิ ต้องยังฝากบอกย้ำว่า ข้อควรระวัง โอกาสติดเชื้อโควิด19 มีมากขึ้น เพราะพบว่า ประชาชน มากกว่า 50%   มักไม่ใช้แอป “ไทยชนะ” เช็คอินแสดงตัว เมื่อจะเข้าร้าน/สถานประกอบการ แม้จะมีแอปไทยชนะแล้ว ต้องขอย้ำไม่การ์ดตกนะครับ ต้องยังปฏิบัติตามมาตรการวัดคัดกรองไข้ สวมใส่หน้ากาก ล้างมือบ่อยครับ  ห่างกันสักนิด อย่างเข้มงวดต่อไปสู้ๆจนกว่าโควิดฯจะคลี่คลายทั้งหมดก่อนนะครับ ขณะนี้ยังไว้วางใจอะไรไม่ได้อยู่นะครับ รวมข่าวรอบรั้วเมืองชัยภูมิ 77 ข่าวเด็ด สุดสัปดาห์นี้ น้องเพชร รายงาน..ต้องขอกราบสวัสดีไปก่อน สัปดาห์หน้าจะมีอะไรมาบอกกล่าวเล่าสู่กันฟังบ้างขอติดตามพบกันใหม่ครับ…