X

ชาววะตะแบกช้ำหนักจี้บิ๊กตู่พันธงกม.เอื้อ บ.กังหันลมเมินแก้เสียงดังให้กับชาวบ้านได้

ชัยภูมิ – อ้างใครมีปัญหาได้รับผลกระทบจากกังหันลมส่งเสียงดังทางบริษัทไม่สามารถแก้ให้ได้ตามข้อเรียกร้องของชาวบ้านในพื้นที่ได้ ขอให้มาเจรจาค่าเยียวยาไปก็จบ หลังชาววะตะแบกโอดวอนหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องเร่งแก้กังหันลมผลิตไฟขายให้รัฐส่งเสียงดังนอนไม่เต็มตื่นซ้ำซากกว่า 3 ปี

โดยเฉพาะในช่วงเวลากลางคืน และช่วงใกล้เข้าสู่ฤดูหนาวปีนี้ต้องทนทุกข์ได้รับความเดือดร้อนหนักจนต้องหนีออกจากบ้านไปขออาศัยหลับนอนตามบ้านญาติและที่อื่นไกลๆแทน ทั้งที่เคยร้องหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่จ.ชัยภูมิ มาต่อเนื่องทุกปียังไม่มีการเข้ามาช่วยดำเนินการให้ความเป็นธรรมกับชาวบ้านในพื้นที่ได้

ล่าสุดชาวบ้านในพื้นที่ได้รับผลกระทบนับ 1,000 ครอบครัว ในกว่า 5 หมู่บ้าน ต้องช้ำหนักหลังได้มีการเปิดเวทีให้ทางบริษัทกังหันลมผลิตฟ้าดังกล่าวมาชี้แจง กลับอ้างกม.ที่มีในปัจจุบันให้การคุ้มครอง และมีการลงทุนไปมากว่า 7,000 ล้านบาทแล้ว จะให้หยุดกังหันลมในบางช่วงตามข้อเรียกร้องของชาวบ้านเป็นไปไม่ได้ แต่พร้อมจะเยียวยาให้กับชาวบ้านได้เท่านั้น หากใครมีปัญหาให้ไปฟ้องร้องกันเอาเอง

ตัวแทนชาวตำบลวะตะแบกสุดช้ำหนัก วอนบิ๊กตู่ พลเอกประยุทธ์ฯนายกรัฐมนตรี ช่วยฟันธงด่วน ปัญหากังหันลมส่งเสียงดังสุดช้ำหนักยิ่งกว่าปัญหาวัดตีระฆัง..แล้วทุกวันนี้จะมีผู้บริหารบ้านเมืองในปัจจุบันไว้ทำไมที่จะลงมาช่วยรับผิดชอบแก้ปัญหาความเดือดร้อนขอความเป็นธรรมให้กับชาวบ้านได้อีก!!!

( 17 ต.ค.61 ) ขณะที่จ.ชัยภูมิ หลังได้มีตัวแทนชาวบ้านในกว่า 5 หมู่บ้าน ในหมู่ที่ 1,2,6,7 และหมู่ 15 กว่า 1,000 หลังคาเรือน  ในพื้นที่ ต.วะตะแบก อ.เทพสถิต จ.ชัยภูมิ  ออกมายื่นเรื่องขอความเป็นธรรมต่อศูนย์ดำรงธรรมจ.ชัยภูมิ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมายาวนานกว่า 3 ปี ต่อการดำเนินงานโครงของรัฐที่มีหน่วยงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน เขต 6 นครราชสีมา เข้ามาส่งเสริมพลังงานทดแทนเพื่อเพิ่มกำลังผลิตกระแสไฟฟ้า ให้กับบริษัทเอกชน ให้กับบริษัทวะตะแบก วินด์ เพื่อเข้ามาลงทุนในการดำเนินกิจการผลิตไฟฟ้าจากกังหันลม ซึ่งมีการดำเนินการลงทุนไปแล้วมากว่า 7,000 ล้านบาท และมีการตั้งเสากังหันลมในพื้นที่ไปแล้วรวมกว่า 30 ต้น เฉลี่ยต่อต้นสามารถผลิตฟ้าได้ต้นละไม่น้อยกว่า 2 เมกะวัตต์ ในพื้นที่ของต.วะตะแบก อ.เทพสถิต จ.ชัยภูมิ มาตั้งแต่ปี 2559

มาต่อเนื่องกว่า 2-3 ปี ที่ผ่านมา โดยอ้างมีการทำประชาคมรับฟังความคิดเห็นกับชาวบ้านเพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบโดยเฉพาะด้านเสียงมาตามได้ จึงมีการเปิดดำเนินการผลิตไฟฟ้าขายจากกังหันลมในพื้นที่ต.วะตะแบก อ.เทพสถิต จ.ชัยภูมิ มาได้ต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน

ซึ่งล่าสุดทางตัวแทนชาวบ้าน ทั้งนายบุญ  บำเรอกลาง อายุ 45 ปี นางยุพาบำเรอกลาง อายุ 39 ปี นายประคอง  โขขุนทด อายุ 54 ปี ตัวแทนชาวบ้านต.วะตะแบก ออกเปิดเผยระบุความในใจที่สุดทนมานานกว่าตลอดช่วงที่ผ่านมา ว่า ตั้งแต่ตลอดช่วงหลังโครงการดังกล่าวดำเนินการมานานกว่า 3 ปี ทางตัวแทนกลุ่มชาวบ้านในพื้นที่ ซึ่งมีที่พักอาศัยในพื้นที่หลายหมู่บ้านโดยเฉพาะที่หมู่ 1,2,6,7 และหมู่ 15 มากว่า 1,000 หลังคาเรือน ในต.วะตะแบก  กลับยังได้รับผลกระทบด้านมีเสียงใบพัดของกังหันลมดังกล่าวที่ตั้งอยู่ไม่ไกลบ้านห่างเฉลี่ยตั้งแต่ 80 เมตร ถึงไม่เกิน 500 เมตร ส่งเสียงดัง และใบพัดส่องแสงแสบตาในตลอดช่วงเช้าพระอาทิตย์ขึ้น รวมทั้งบางส่วนยังส่งผลกระทบต่อสัญญาณโทรศัพท์ คลื่นวิทยุ ทีวี ในบ้านสัญญาณขาดหายบ่อยครั้ง และยังสร้างความเดือดร้อนรำคาญหนัก ในเวลากลางคืน และหนักสุดในช่วงเข้าใกล้สู่ฤดูหนาวของทุกปีตั้งแต่เดือนพ.ย.เป็นต้นไป หลายเดือนจะส่งผลกระทบทำให้ชาวบ้านในพื้นที่นอนไม่ได้ ทั้งคืนส่งผลเสียต่อสุขภาพ อีกหลายพันชีวิตอยู่ในขณะนี้ด้วย

ที่ยังได้รับผลกระทบหนักมานานกว่า 3 ปีแล้ว ซึ่งเคยยื่นร้องขอความเป็นธรรมไปหลายหน่วยงานทางจังหวัดชัยภูมิในการเข้ามาดำเนินการดังกล่าวส่งผลกระทบกับชาวบ้านอยู่มาจนปัจจุบันที่เริ่มเข้าสู่ฤดูหนาวอีกเป็นปีที่ 3 แล้ว แต่ก็ยังไม่มีหน่วยงานใดสนใจที่จะลงมาช่วยแก้ปัญหาเรื่องนี้อย่างจริงจังเสียทีเลย

ซึ่งล่าสุดได้มีการเชิญตัวแทนชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากกังหันลมส่งเสียงดัง ในต.วะตะแบก มาเข้าร่วมประชุมหาแนวทางแก้ไขร่วมกันกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ในพื้นที่จ.ชัยภูมิ เมื่อช่วงวันที่ 16 ตุลาคม 2561 ที่ผ่านมา โดยมีนายวิชัย  ตั้งคำเจริญ นายอำเภอเทพสถิต เป็นประธาน ร่วมกับหน่วยงานตัวแทนคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงานเขต 6 นครราชสีมา ผู้อนุมัติการก่อสร้างโครงการกังหันลมดังกล่าว และมีนายวิชานนท์  วิมลสังข์ ที่ปรึกษา CEO บริษัทวะตะแบก วินด์  พลังงานจังหวัดชัยภูมิ นายไพรวัลย์  แทนทรัพย์ นายก อบต.วะตะแบก พร้อมตัวแทนชาวบ้าน สาธารณสุขจังหวัด กรมมลพิษ และเจ้าหน้าที่จากศูนย์ดำรงธรรมจ.ชัยภูมิ มาร่วมประชุมหาแนวทางแก้ไขปัญหาเรื่องนี้ร่วมกัน ณ ห้องประชุมชั้น 2 อบต.วะตะแบก

ซึ่งล่าสุด นายวิชัย  ตั้งคำเจริญ นายอำเภอเทพสถิต ได้ออกมาสรุปผลแนวทางการแก้ไขปัญหากังหันลมส่งเสียงดังล่าสุดทั้งหมดแล้ว ได้ข้อสรุปว่า ในส่วนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทางจ.ชัยภูมิ ทั้งหมด เองหลังทางตัวแทนชาวบ้านได้ยื่นข้อเสนอทางออกให้กับบริษัทวะตะแบก วินด์ เจ้าของกังหันลมในพื้นที่ แล้ว เพื่อที่จะเป็นแนวทางให้อยู่ร่วมกันได้กับคนในชุมชนครั้งนี้ที่ได้รับผลกระทบ ทั้งเรื่องแนวทางที่ 1 ให้บริษัทกังหันลม ในช่วง 3 เดือนช่วงหน้าหนาวปีนี้ ลดความเร็วของกังหันลงเพื่อให้เกิดเสียงดังน้อยที่สุด และแนวทางที่ 2 เองให้บริษัทหยุดกังหันในช่วงฤดูหนาว ในส่วนต้นกังหันที่อยู่ใกล้ชุมชน

ซึ่งก็ได้รับคำตอบจากตัวแทนบริษัทครั้งนี้ยืนยันออกมาชัดเจนแล้ววว่า ทำไม่ได้เพราะเสาต้นกังหันทุกต้นต้องผลิตไฟฟ้าตามสัญญาที่จะต้องส่งขาย และเป็นไปไม่ได้ที่จะให้หยุด หรือลดความแรงของกังหันลมลงได้เลย

รวมทั้งในส่วนกรณีที่มีการตั้งกังหันลมใกล้บ้านประชาชนบางจุดเฉลี่ยตั้งแต่ 80 เมตร 100 เมตร 150 เมตร ที่ตามกม.การดำเนินการตั้งกังหันที่ประกาศใช้ในปัจจุบันประกาศเมื่อปี 2560 ต้องให้ไม่เกิน 540 เมตร นั้น ทางที่ปรึกษาบริษัทกังหัน อ้างว่า ส่วนที่ดำเนินการไปแล้วที่ตั้งห่างบ้านประชาชน 80-300 เมตรนั้น เป็นการดำเนินการมาแต่เดิมก่อนกฎหมายตัวนี้อออกมาเมื่อปี 2559 จึงไม่มีผลบีงคับย้อนหลังได้ทำแล้วก็ทำไป ส่วนตัวใหม่ต้องทำตามกรอบกฎหมาย

ซึ่งการแก้ปัญหาครั้งนี้ในส่วนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทางจังหวัดชัยภูมิ ไม่มีอำนาจหน้าที่จะไปบังคับบริษัทกังหันได้ แต่ส่วนที่เกิดปัญหามีผลกระทบกับชาวบ้านในปัจจุบันทั้งหมด บริษัทกังหันเอง แจ้งว่าใครที่มีปัญหาได้รับผลกระทบก็ขอให้ไปสู่ขบวนการเยียวยาพูดคุยกับทางบริษัทเองเป็นรายๆไปได้เท่านั้น จะให้หยุดหรือลดความแรงกังหัน ไม่สามารถทำอะไรให้ได้ตามข้อเรียกร้องของชาวบ้านได้

และจากนี้ไปก็ต้องเป็นเรื่องที่ทางชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบ จะตัดสินใจและไปดำเนินการตามขั้นตอนกฏหมายกันตามเห็นสมควรต่อไปได้เท่านั้น

ซึ่งล่าสุดหลังชาวบ้านทราบผลการเปิดเวทีพูดคุยกับตัวแทนกังหันลมดังกล่าวแล้ว นายประคอง  โขขุนทด อายุ 54 ปี ตัวแทนชาวตำบลวะตะแบก กล่าวอย่างสุดช้ำใจครั้งนี้ว่า ปัญหากังหันลมครั้งนี้ต่างสร้างความไม่พอใจ และน้อยใจต่อการทำงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ซึ่งกรณีที่เกิดขึ้นครั้งนี้ชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบต่างพากันสุดน้อยใจช้ำหนักมาก เพราะไม่มีหน่วยงานใดให้ความเป็นธรรมต่อชาวบ้านในครั้งนี้ได้เลย

และอยากจะฝากวิงวอนไปถึง”บิ๊กตู่” พลเอกประยุทธ์  จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ช่วยแก้ไขกรณีที่เกิดขึ้นเป็นการด่วนด้วย ปัญหากังหันลมส่งเสียงดังสุดช้ำหนักยิ่งกว่าปัญหาวัดตีระฆัง ที่มีแต่กฎหมายเอื้อประโยชน์นายทุน เมื่อชาวบ้านชุมชนมีวิถีชีวิตอยู่มาก่อนโครงการกังหันลมจะมาตั้งในพื้นที่ทีหลัง แล้วทุกวันนี้ จะมาบอกว่าใครได้รับผลกระทบไม่เกี่ยว มาเจรจาจ่ายค่าเยียวยาแล้วให้หนีออกจากชุมชนดั่งเดิมที่ตัวเองอยู่มาทุกวันนี้มายาวนานมาแล้วหลายชั่วคน แล้วจะมีความเป็นธรรมในสังคมประเทศไทยในครั้งนี้ได้อีกต่อไปอย่างไร

และจะมีผู้บริหารบ้านเมืองในปัจจุบันนี้ไว้ทำไม ที่จะมีใครช่วยลงมาช่วยรับผิดชอบแก้ปัญหาความเดือดร้อนให้กับชาวบ้านได้อีกแล้ว บ้านเมืองประชาชนชาวไทยต่อไปจะอยู่กันได้ต่อไปอย่างไร ต่อไป คนที่จะตัดสินใจช่วยแก้ปัญหากังหันลมส่งผลกระทบทั้งในจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องส่วนกลาง ก็ไม่มีใครทำอะไรได้อีกแล้ว คงเหลือแต่ท่านพลเอกประยุทธ์ฯนายกรัฐมนตรี ขอวิงวอนขอความเป็นธรรมให้กับชาวบ้านวะตะแบก อ.เทพสถิต จ.ชัยภูมิ ในครั้งนี้ด้วย เพราะชาวบ้านไม่รู้จะไปพึ่งพาใครได้อีกแล้ว

 

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน

สุทธิพงศ์ เสฏฐรังสี

สุทธิพงศ์ เสฏฐรังสี

น้อมรับการทำหน้าที่สื่อเพื่อประชาชนมายาวนานกว่า25ปีเพื่อชาวชัยภูมิพร้อมเป็นเครือข่ายการทำหน้าที่สื่อมวลชนที่ดีในนามสมาคมนักข่าวจังหวัดชัยภูมิและชมรมสื่อมวลชนชัยภูมิพร้อมรับใช้ชาวชัยภูมิและเป็นเวทีให้กับประชาชนทุกท่านตลอดไปมีอะไรเดือดเนื้อร้อนใจติดต่อมาที่ทีมงาน77ข่าวเด็ดชัยภูมิเราได้หรือที่[email protected]