X

โจรงัดตู้เติมเงินยังเหิมหนักก่อเหตุไม่เว้นสัปดาห์หลายท้องที่เสียหายหนัก!(คลิป)

ชัยภูมิ – ทั้งในเขตท้องที่ สภ.เมืองชัยภูมิ เมื่อช่วงเดือนที่ผ่านมา ลงมือก่อเหตุได้รับความเสียหายไปแล้วกว่า 3 แห่งในทั่วตัวเมือง ล่าสุดยังโผล่ลงมือเหิมหนักอีกก่อเหตุในเขตท้องที่รอยต่อ สภ.บ้านค่าย หลังเคยแอบมางัดตู้ฯจุดเดียวมาติดต่อกันไม่ถึงสัปดาห์ มาแล้ว 2 ครั้งติด ผู้นำชุมชน ชาวบ้าน ผู้ประกอบการตู้เติมเงินฯอ่วมหนัก ทั้งค่าซ่อมตู้ ซื้อมาติดตั้งใหม่แต่ละจุด/ครั้งสูญนับหลายหมื่นบาท วอนเร่งล่าตัวหัวขโมยแสบกลุ่มนี้มาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว!

เมื่อเวลา 09.30 น.วันที่ 9 ก.ค.63 ล่าสุดเกิดเหตุมีคนร้ายออกงัดตู้เติมเงินโทรศัพท์มือถือในลักษณะนี้ขึ้นอีกต่อเนื่องในท้องที่ สภ.บ้านค่าย อ.เมือง จ.ชัยภูมิ หลังเมื่อช่วงเดือนมิ.ย.63 ที่ผ่านมาเกิดเหตุมีคนร้ายแอบเข้าไปตระเวนงัดตู้เติมเงินโทรศัพท์มือถือ ที่ตั้งไว้บริการประชาชนตามจุดต่างๆไปทั่วตัวเมืองชัยภูมิ ในเขตท้องที่ สภ.เมืองชัยภูมิ มาแล้วกว่า 3 ครั้ง ได้รับความเสียหายติดต่อกันไป 3 ตู้ฯ ซึ่งเจ้าของตู้ไม่ได้แจ้งความเพราะตู้ยังไม่ได้รับความเสียหายอีก 2 ครั้งที่ผ่านมาด้วย

และล่าสุดวันนี้( 9 ก.ค.63 ) นายกิตติ  สุขขี อายุ 53 ปี ชาวบ้านเลขที่ 293 – 294 หมู่ 6 บ้านหนองสังข์ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ชัยภูมิ ซึ่งเป็นเจ้าของตู้เติมเงินโทรศัพท์มือถือในพื้นที่จ.ชัยภูมิ ได้เดินทางเข้าแจ้งความต่อ ร.ต.อ.สุวิทย์  ไตรเสนีย์ รองสารวัตรสอบสวน สภ.บ้านค่าย หลังมาตรวจพบว่าได้มีคนร้ายเข้ามาก่อเหตุใช้เครื่องมืองัดพังตู้เติมเงินโทรศัพท์มือถืออัตโนมัติยี่ห้อกระปุก ที่ได้นำไปติดตั้งไว้บริการประชาชน อยู่ภายในโดมด้านหน้าร้านค้าชุมชนบ้านหนองไผ่ หมู่ 14 ต.หนองนาแซง อ.เมือง จ.ชัยภูมิ

ก่อนที่จะพาเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบที่เกิดเหตุดังกล่าว ร่วมกับนายสมชาย  นามมูลลา ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหนองไผ่ และชาวบ้านที่เป็นคนประจำร้านค้าชุมชนของหมู่บ้านดังกล่าว รอให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพิ่มเติม อยู่บริเวณที่เกิดเหตุ ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่าตู้เติมเงินโทรศัพท์มือถือที่ได้รับความเสียหายครั้งนี้ ถูกโจรหัวขโมยรายนี้ได้ใช้คีมตัดสายไฟฟ้าที่จ่ายให้กับตู้เติมเงินโทรศัพท์มือถือออกก่อน  เพื่อไม่ให้มีสัญญาไฟดังออกมา ระหว่าวลงมือก่อนเหตุ ซึ่งหากไม่ตัดสายไฟก็จะทำให้ตู้เติมเงินส่งสัญญาร้องเสียงดังเตือนออกมาให้คนใกล้เคียงออกมาดูได้ ก่อนที่จะใช้เหล็กขนาดใหญ่งัดด้านข้างตู้เติมเงินโทรศัพท์เสียหายจนเปิดอ้าออกข้างๆได้ ก่อนที่จะดึงเอาถุงกระเป๋าเก็บเงินภายในตู้เติมเงินออกมา เพื่อขโมยเงินภายตู้เติมเงิน ก่อนหลบหนีไป

โดยนายสมชาย  นามมูลลา ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหนองไผ่  กล่าวว่า ที่ผ่านมาตู้เติมเงินโทรศัพท์มือถือตู้นี้เคยถูกคนร้ายมางัดแล้วครั้งหนึ่งเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่ครั้งนั้นไม่สามารถงัดเปิดตู้ได้  จนมาครั้งนี้อีกห่างกันไม่ถึงสัปดาห์ คนร้ายกลุ่มนี้ก็กลับมางัดตู้ใหม่ซ้ำอีก จนได้เงินภายในตู้หายไปกว่า 1,000 บาท ในครั้งนี้ขึ้นซ้ำอีก ซึ่งครั้งแรกสัปดาห์ที่ผ่านมาไม่มีใครแจ้งความ เพราะไม่มีเงินในตู้หายไป มีเพียงรอยงัดตู้เสียหายไม่มากไว้เท่านั้น แต่ครั้งนี้มีทรัพย์สินเงินหายไป จึงได้มีการแจ้งความขึ้น และคาดว่าคนร้ายน่าจะเป็นวัยรุ่นในพื้นที่ด้วยก็เป็นได้ ซึ่งจะต้องเร่งกวดขันออกตรวจสอบคนในพื้นที่เพิ่มากขึ้น เพราะครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรกแล้ว

ขณะที่นายกิตติ  สุขขี เจ้าของตู้เติมเงินโทรศัพท์มือถือ กล่าวว่า จากการตรวจสอบตู้เติมเงินที่เสียหายครั้งนี้สัญญาณไฟขาดหายไปเวลาประมาณเที่ยงคืนที่ผ่านมา และพอถึงช่วงรุ่งเช้าตนเองจึงรีบออกมาตรวจสอบ และพบว่าตู้ฯถูกคนร้ายงัดเสียหาย และสามารถขโมยเอาเงินภายตู้ไปได้ครั้งนี้ประมาณกว่า 1,000 บาท ซึ่งคงได้เงินไปไม่มากนักครั้งนี้ เพราะก่อนเกิดเหตุได้มาเปิดเก็บเงินในตู้จุดนี้ไปก่อนแล้ว แต่หากคิดค่าเสียหายไปซื้อตู้มาตั้งใหม่ก็ไม่ต่ำกว่า 5-6 หมื่นบาท และหากพอที่จะพังไม่มากพอที่ส่งไปซ่อมได้ ค่าซ่อมก็สูงไม่น้อยกว่าตู้ฯละ 5-6 พันบาทต่อครั้ง

ซึ่งที่ผ่านมาได้พยายามหาวิธีการอย่างเต็มที่แล้ว ทั้งในทุกวันก็จะออกมาเก็บเงินภายในตู้บ่อยครั้งขึ้น ไม่ให้มีเงินเหลืออยู่ในตู้มาก หรือให้มีเหลือน้อยที่สุดในแต่ละวัเท่าที่จะทำได้ แต่ก็ยังไม่วายที่จะมีโดนคนร้ายงัดตู้เติมเงินโทรศัพท์พังเสียหายอยู่ไม่หยุดยังต่อเนื่องอีก ซึ่งในช่วงโควิด-19 ระบาด ในช่วง 4 เดือนที่ผ่านมา ก็มีตู้เติมเงินโทรศัพท์มือถือของตนเองที่ฝากไว้ตามหน้าร้านต่าง ๆ ทั่วจังหวัดชัยภูมิ ถูกคนร้ายงัดตู้ฯขโมยเงินไปแล้วทุกเดือนทั้งในท้องที่ สภ.เมืองชัยภูมิ และสภ.บ้านค่าย เฉลี่ยแล้วมีการก่อเหตุไม่น้อยกว่า 1-2  สัปดาห์ครั้ง/ตู้ รวมครั้งนี้เป็นตู้ที่ 4 แล้วที่ถูกคนร้ายงัดพังเสียหายหนักไปแล้ว ส่วนเสียหายเล็กน้อยที่ไม่ได้แจ้งความก็รวมอีกกว่า 2 ครั้ง ในช่วงเดือนที่ผ่านมาด้วยเช่นกัน ซึ่งในช่วงนี้การประกอบอาชีพนี้ การทำมาหากินก็ยากลำบากพออยู่แล้ว จึงอยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยเร่งติดตามค้นร้ายที่มาก่อนเหตุทั้งหมดให้ได้โดยเร็วด้วย

ขณะที่ ร.ต.อ.สุวิทย์ ไตรเสนีย์ รองสารวัตรสอบสวน สภ.บ้านค่าย หลังได้ตรวจสอบที่เกิดเหตุ และประสานชุดตรวจสอบรายนิ้วมือแฝง ลงพื้นที่เก็บหลักฐานในที่เกิดเหตุเพิ่มเติมแล้ว รวมทั้งจะตรวจสอบกล้องวงจรปิดในพื้นที่บริเวณใกล้เคียง เพื่อจะได้เร่งติดตามตัวคนร้ายกลุ่มนี้มาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ได้โดยเร็วต่อไป

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน

สุทธิพงศ์ เสฏฐรังสี

สุทธิพงศ์ เสฏฐรังสี

น้อมรับการทำหน้าที่สื่อเพื่อประชาชนมายาวนานกว่า25ปีเพื่อชาวชัยภูมิพร้อมเป็นเครือข่ายการทำหน้าที่สื่อมวลชนที่ดีในนามสมาคมนักข่าวจังหวัดชัยภูมิและชมรมสื่อมวลชนชัยภูมิพร้อมรับใช้ชาวชัยภูมิและเป็นเวทีให้กับประชาชนทุกท่านตลอดไปมีอะไรเดือดเนื้อร้อนใจติดต่อมาที่ทีมงาน77ข่าวเด็ดชัยภูมิเราได้หรือที่[email protected]