ชัยภูมิ – หลังเจ้าของสุดทนเคยถูกงัดร้านค้าและบ้านมาแล้ว ถึง 2 ครั้ง ซึ่งครั้งแรกเห็นว่าทรัพย์สินหายไปไม่มากจึงไม่ได้แจ้งความ กลับมาเจอมาขโมยซ้ำอีกครั้งสอง พร้อมมีภาพจากกล้องวงจรปิดสามารถจับภาพโจรหัวขโมยแสบรายนี้ไว้ได้ แจ้ง ตร.ตามไล่ล่าตามรวบตัวได้แล้วทันควัน!
เมื่อช่วงเช้าวันที่ 6 มิถุนายน 2563 ความคืบหน้าคดีหลังวันที่ 4 มิ.ย.ที่ผ่านมา ซึ่ง ร.ต.อ.สุเมธ เสนากร รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองชัยภูมิ รับแจ้งว่ามีเหตุลักทรัพย์ภายในบ้านเรือนประชาชน ที่บ้านเลขที่ 9 บ้านเล่า หมู่ที่ที่ 2 ตำบลบ้านเล่า อำเภอเมือง จังหวัดชัยภูมิ จึงรุดไปตรวจที่เกิดเหตุพร้อมชุดสืบสวน สภ.เมืองชัยภูมิ
ในที่เกิดเหตุพบกับนางกัลยา วรรณพงษ์ อายุ 66 ปี อาศัยบ้านเลขที่ 204 ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดชัยภูมิ ผู้เสียหายยืนรออยู่หน้าบ้านเป็นร้านค้า ผู้เสียหายจึงพาเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบกล้องจากภาพวงจรปิดบริเวณหน้าบ้าน และพบว่ามีชายลักษณะร่างใหญ่ ซึ่งไม่คุ้นหน้าไม่น่าจะเป็นคนในพื้นที่หมู่บ้านเกิดเหตุ ซึ่งแอบงัดร้านค้าเข้ามาในบ้านและห้องนอนผู้เสียหาย ช่วงประมาณเวลา 02.08 น.ของวันที่ 4 มิถุนายน 2563 ที่ผ่านมา
และขโมยกระเป๋าเงินมีเงินสดภายในจำนวน 1,000บาท และโทรศัพท์มือถืออีกจำนวน 2 เครื่อง รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 10,000 บาท ก่อนที่หัวขโมยรายนี้จะเดินหลบหนีออกจากบ้านผ่านหน้าร้านค้าที่อยู่ติดกันไป
ล่าสุดวันนี้ทางด้าน พ.ต.อ.วัฒนชัย จันทาทุม ผกก.สภ.เมืองชัยภูมิ พร้อมด้วย พ.ต.ท.นพดล ทุนทวีศีลศักดิ์ รอง ผกก.สส.สภ.เมืองชัยภูมิ ได้สั่งระดมให้ชุดสืบสวนนำโดย พ.ต.ท.ประสิทธิ์ อุตรส สว.สส.สภ.เมืองชัยภูมิ ลงพื้นที่หาเบาะแสคนร้ายรายนี้ ตามจากภาพวงจรปิดจนกระทั่งพบว่าชายดังกล่าวชื่อ นายสหภาพ หรือ ฟิว อายุ 27 ปี มีภูมิลำเนาอยู่ในหมู่ที่ 3 ตำบลโพนทอง อำเภอเมือง จังหวัดชัยภูมิ ซึ่งเป็นตำบลรอยต่อติดกันกับร้านค้าและบ้านจุดเกิดเหตุ
เจ้าหน้าที่จึงออกตรวจสอบและทำการเร่งติดตามจับกุมตัวผู้ก่อเหตุหัวขโมยแสบรายนี้ไว้ได้ในห้องพักรีสอร์ทแห่งหนึ่งในตำบลนาฝาย อำเภอเมือง จังหวัดชัยภูมิ จึงทำการตรวจค้นภายในตัวพบโทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง ของผู้เสียหายที่ได้แจ้งความในครั้งนี้ไว้ด้วย ก่อนควบคุมตัวมาสอบสวน
นายฟิว วัย 27 ปี ผู้ต้องหาเล่าว่า ก่อนเกิดเหตุตนได้นั่งดื่มสุรากับพี่ชายจนเมาได้ที่ ก่อนจะขับรถตระเวนไปตามหมู่บ้านที่เกิดเหตุ จนพบโอกาสว่าบ้านและร้านค้าหลังดังกล่าวน่าจะมีทรัพย์พอเข้าไปขโมยได้ง่าย จึงเดินย่องเข้าไปทางหน้าร้านค้าเพื่องัดประตูเข้าไป และเดินเข้าไปภายในพบว่าหลังร้านค้ายังหน้าบ้านเปิดอยู่ แต่ไม่ทันระวังกล้องวงจรปิด ตนจึงเดินเข้าไปในบ้าน และห้องนอนที่ก็มีเจ้าของร้านนอนอยู่ แต่หลับสนิท จึงเดินเข้าไป ขโมยเอาโทรศัพท์มือถือและกระเป๋าเงิน ก่อนรีบเดินหลบหนีออกจากบ้านข้ามถนนอีกฝั่งไป จนกระทั่งมาถูกจับกุมตัวได้ดังกล่าวขึ้น
ด้าน ร.ต.อ.สุเมธ เสนากร รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองขัยภูมิ หลังได้ทำการสอบสวนอย่างละเอียดพร้อมกับแจ้งให้ผู้เสียหายมายืนยันว่าโทรศัพท์มือถือใช่ของตนที่แจ้งหายไว้หรือไม่ ทางผู้เสียหายยืนยัน ก่อนจะแจ้งดำเนินคดีกับหัวขโมยแสบรายนี้ใน 2 ข้อหา 1.) ลักทรัพย์ในเวลากลางคืน และ 2.) ออกจากเคหะสถานในเวลาเคอร์ฟิวซึ่งช่วงก่อเหตุเป็นช่วงเวลา 02.08.ซึ่งเป็นเวลาเคอร์ฟิว ก่อนนำตัวส่งศาลเพื่อขอฝากขังดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป
